ประท้วงได้แต่อย่าทำลายล้าง...จุดยืนมุสลิมต่อหนังหมิ่นอิสลาม
วันอังคารที่ 18 ก.ย.2555 นับเป็นวันแรกที่มุสลิมในประเทศไทยได้แสดงท่าทีต่อภาพยนตร์ดูหมิ่นอิสลาม ล้อเลียนศาสดามุฮัมหมัด ที่สร้างโดย นายนาคูลา บาเซลีย์ นาคูลา วัย 55 ปี ซึ่งใช้นามแฝงว่า "แซม บาไซล์" อาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยได้มีการนัดหมายประท้วงกันที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ในกรุงเทพฯ
อย่างไรก็ดี สถานทูตได้ปิดทำการ 1 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เหนือความคาดหมาย โดยเฉพาะความรุนแรงที่เกิดขึ้นแล้วกับผลประโยชน์ของอเมริกาไม่ต่ำกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ก่อความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น จนกลายเป็นการประท้วงที่ถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวางเช่นกัน
อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บิน ชาฟิอีย์ ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อ.จะนะ จ.สงขลา เขียนบทความเกี่ยวกับจุดยืนของมุสลิมในเรื่องนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า "ประท้วงได้ แต่อย่าทำลายล้าง"
จุดยืนมุสลิมที่ควรมีต่อหนังหมิ่นศาสนทูตมุฮัมหมัด
การประท้วงต่อต้านหนังศาสนทูตมุฮัมหมัด "อินโนเซนส์ ออฟ มุสลิม" ลุกลามไปทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศมุสลิม แต่ที่รุนแรงที่สุดน่าจะเป็นที่ลิเบีย เพราะทำให้ นายเจ.คริสโตเฟอร์ สตีเฟน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเบงกาซีเสียชีวิต
ที่กรุงตูนิส ประเทศตูนีเซีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และบาดเจ็บอีก 29 คน หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจปะทะกับผู้ประท้วงหลายร้อยคนที่บุกโจมตีสถานทูตสหรัฐฯ
ที่ซูดาน ผู้ประท้วงได้บุกเข้าไปในสถานทูตสหรัฐฯ และเยอรมนี ในกรุงคาร์ทูม แล้วชักธงอิสลามขึ้นสู่เสา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ และใช้กระบองปะทะกับผู้ประท้วง ท้ายสุดมีผู้เสียชีวิตจากบาดแผลถูกยิง 2 คน ขณะที่ผู้ประท้วงอีกคนถูกรถยนต์ของตำรวจพุ่งชนเสียชีวิต
ในอียิปต์ ผู้ประท้วงเผาธงชาติสหรัฐนอกสถานกงสุลสหรัฐในเมืองอเล็กซานเดรีย
ที่เลบานอน ชาวมุสลิมผู้โกรธแค้นรวมตัวเผาทำลายร้านเคเอฟซีของสหรัฐฯในเมืองตริโปลี
ที่ออสเตรเลีย ผู้ประท้วงหลายพันคนปะทะกับตำรวจในนครซิดนีย์ พร้อมทั้งขว้างปาขวดและรองเท้าที่ด้านนอกสถานกงสุลของสหรัฐฯ
ในขณะที่มุสลิมบางกลุ่มในปากีสถานและเยเมน เรียกร้องให้ชาวมุสลิมลุกขึ้นต่อต้านหนังดังกล่าวด้วยการเผาสถานทูตและสังหารนักการทูตสหรัฐฯเพื่อปกป้องเกียรติศาสนา แต่ก็มีมุสลิมหลายประเทศหรือหลายกลุ่มเช่นกันทำการประท้วงและประณามหนังดังกล่าวโดยสันติ และต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อชาวอเมริกันผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พร้อมแจกวีซีดีหลักการอิสลามที่ถูกต้อง และหนังสือประวัติศาสนทูตมุฮัมหมัดต่อต่างศาสนิก แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้กลับไม่ถูกเผยแพร่สักเท่าไร
สำหรับสหรัฐฯ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ให้คำมั่นว่าจะทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อปกป้องคุ้มครองชาวอเมริกันในต่างประเทศ และย้ำว่าประเทศที่มีสถานทูตสหรัฐฯตั้งอยู่ ต้องดูแลด้านความปลอดภัยสถานทูตด้วย
เหตุรุนแรงครั้งนี้ส่งผลให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ กล่าวประณามอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 13 และ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ต่อการโจมตีสถานทูตและสถานกงสุลของสหรัฐฯและชาติตะวันตก
นายปีเตอร์ วิททิก ทูตเยอรมนี ในฐานะประธานหมุนเวียนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า สมาชิกในคณะมนตรีความมั่นคงฯ แสดงความวิตกอย่างยิ่งต่อการโจมตีที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ยังได้เรียกร้องสันติภาพและใช้การทูตทำหน้าที่สำคัญ คือการส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศและระหว่างวัฒนธรรม
คณะมนตรีความมั่นคงฯ ยังได้ย้ำเตือนหลักการพื้นฐานที่จะต้องไม่ละเมิดที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างของสถานทูตและสถานกงสุล เพราะการละเมิดเป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรมด้วยประการทั้งปวง
มีประเด็นที่น่าพิจารณาในความเห็นของผู้เขียนคือ สำหรับมุสลิมแล้ว อะไรคือหลักการและหลักปฏิบัติต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ท้าทายมุสลิมทั่วโลกเป็นอย่างยิ่ง
การศรัทธาและการปฏิบัติตามจริยวัตรศาสนทูตมุฮัมหมัดเป็นหน้าที่ของมุสลิมทุกคน ดังนั้นการลบหลู่ดูหมิ่นศาสนทูตมูฮัมหมัดก็เปรียบเสมือนเหยียบย่ำศาสนาอิสลามและมุสลิม จึงเป็นผลให้มุสลิมออกมาปกป้องศาสนทูตมุฮัมหมัด
การปกป้องศาสนทูตมุฮัมหมัดจึงเป็นความชอบธรรมของมุสลิมทุกคน ในทางกลับกันหากมุสลิมท่านใดไม่ออกมาปกป้องพระองค์ อาจจะทำให้สถานภาพของมุสลิมดังกล่าวสั่นคลอน
แต่ความชอบธรรมในการปกป้องและประท้วงดังกล่าวจะต้องไม่ไปละเมิดสิทธิ์ของบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ในทางกลับกันจะต้องให้ความยุติธรรมต่อทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นมุสลิมหรือไม่ และไม่ปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ
อัลลอฮ์ได้โองการในคัมภีร์อัลกุรอานความว่า "ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงเป็นผู้ที่ดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม จงเป็นพยานเพื่ออัลลอฮ์ และแม้ว่าจะเป็นอันตรายแก่ตัวของพวกเจ้าเองหรือผู้บังเกิดเกล้าทั้งสองและญาติที่ใกล้ชิดก็ตาม หากเขาจะเป็นคนมั่งมีหรือคนยากจน อัลลอฮ์ก็สมควรยิ่งกว่าเขาทั้งสอง ดังนั้นจงอย่าปฏิบัติตามความใคร่ใฝ่ต่ำในการที่พวกเจ้าจะมีความยุติธรรม และหากพวกเจ้าบิดเบือนหรือผินหลังให้ แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรอบรู้อย่างถี่ถ้วนในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกัน" (อันนิซาอฺ 4:135)
หน่วยงานฟัตวาโลกมุสลิมไม่ว่าที่อียิปต์ ตูนิเซีย หรืออื่นๆ ออกมาประณามผู้สร้างหนังชาวอเมริกา สนับสนุนการตอบโต้ที่สันติและมีวิทยปัญญา ซึ่งเป็นคำสั่งของพระเจ้าที่ระบุในอัลกุรอาน ขณะเดียวกันก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์และทำลายทรัพย์สินของสหรัฐฯทั้งของรัฐและเอกชน
ที่สำคัญ การกระทำรุนแรงดังกล่าวอาจส่งผลร้ายต่อประเทศมุสลิมหากสหรัฐฯอ้างความชอบธรรมในการส่งทหารเข้าไปดูแลผลประโยชน์ของตน
การประท้วงด้วยการทำลายของส่วนรวม สำนักงาน บริษัทห้างร้านของสหรัฐฯจึงเป็นการไม่สมควร เป็นอธรรมต่อผู้อื่น อันเป็นการแสดงออกที่ไม่ดี ศาสนทูตมุฮัมหมัดไม่เคยสั่งสอน ดังนั้นหากรักท่าน จงปฏิบัติตามจริยวัตรท่านด้วยเช่นกัน เพราะท่านถูกส่งมาเพื่อให้ความเมตตาต่อประชาคมโลก ท่านสอนมนุษย์ให้เป็นมนุษย์ที่มีจรรยางาม ซึ่งพระวัจนของท่านยืนยันไว้ว่า "ฉันได้รับการแต่งตั้งมาเพื่อสร้างความสมบูรณ์แก่จริยธรรมอันจำเริญยิ่ง"
นี่คือจุดยืนที่แท้จริงของมุสลิมที่ดีในการรักษาเกียรติของท่านศาสนทูตมุฮัมหมัด!
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ : *อับดุลสุโก ดินอะ เป็นผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อ.จะนะ จ.สงขลา
ขอบคุณ : ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต