รัฐสนองพระดำรัสพระราชินี จัดงบ 1.2 พันล้านแก้ปัญหากว้านซื้อที่ดินชายแดนใต้
รัฐบาลสนองพระดำรัส "พระราชินี" ทรงห่วงปัญหากลุ่มอิทธิพลกว้านซื้อที่ดินชาวบ้านสามจังหวัดใต้ ตั้งงบ 1.2 พันล้าน "รับซื้อ-ขายฝาก-จำนองดอกเบี้ยต่ำ" เมื่อไฟใต้สงบมาไถ่ถอนคืนได้ กอ.รมน.เผยตั้งทีมสำรวจ พบมีการซื้อขายผิดปกติจริง แต่ยังไม่มาก ประมาณ 100-200 ไร่ ยังไม่ฟันธงโยงกลุ่มแยกดินแดน ใต้ยังระอุ บึ้่มในสวนยางชาวบ้านเจ็บอีก มือมืดดักถล่มจำเลยคดียิงมัสยิดไอร์ปาแยหวิดดับพร้อมภรรยา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 ก.ย.2555 ถึงกรณีที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ออกมาระบุ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงเรื่องการกว้านซื้อที่ดินของชาวบ้านอย่างผิดปกติในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า กองทัพเป็นห่วงเรื่องการกว้านซื้อที่ดินทั้งของชาวไทยพุทธและมุสลิม ขณะนี้ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้ทำเรื่องเสนอไปยังรัฐบาลแล้ว และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดทำแผนงานโครงการงบประมาณในการรับซื้อและจำนองที่ดิน โดยจะดำเนินการในลักษณะไม่ได้ขายขาด และมีดอกเบี้ยต่ำ เมื่อเหตุการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้สงบลง ก็สามารถมาไถ่ถอนกลับคืนได้
"เบื้องต้นได้ตั้งงบประมาณตามแผนรับซื้อและจำนำที่ดินจำนวน 1,200 ล้านบาท แต่เรื่องนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของรัฐบาล นอกจากนั้นยังพบว่าสถิติการย้ายเข้าออกของชาวไทยพุทธในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในภาพรวมยังถือว่ามีการย้ายเข้ามากกว่าย้ายออก ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่รุนแรง จึงยังไม่มีผลอะไรต่อประชาชน ทาง ศอ.บต.ได้พยายามดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องนี้อยู่" ผบ.ทบ.ระบุ
กอ.รมน.รับมีกว้านซื้อจริง-ยังไม่สรุปโยงกลุ่มป่วนใต้
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาที่ดินของชาวบ้านถูกกว้านซื้อ ทางศูนย์ประสานงานอันเนื่องมาจากโครงการพระราชดำริเป็นผู้ดำเนินการ โดยรับทราบจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งกว้านซื้อที่ดินในพื้นที่ จึงแจ้งข้อมูลมา
ทั้งนี้ ทางกองทัพภาคที่ 4 ได้จัดหน่วยเฉพาะกิจลงไปสำรวจ ตั้งแต่การอพยพเข้าออกของประชาชนทั้งไทยพุทธและมุสลิม จนได้รับข้อมูลว่ามีการกว้านซื้อจริง แต่จำนวนยังไม่มาก ประมาณ 100-200 ไร่ และยังมีความพยายามกว้านซื้ออย่างต่อเนื่อง ส่วนจะเชื่อมโยงกับกลุ่มขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดน หรือเงินสนับสนุนจากต่างประเทศหรือไม่นั้น ยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่ทาง ศอ.บต.ได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุดเพื่อติดตามดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
บึ้มสนั่นสวนยางชาวบ้านเจ็บ
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 06.45 น.วันเดียวกัน ขณะที่ นางจิราพร รัตนพงษ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 3 บ้านตอหลัง ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส กำลังกรีดยางในสวนยางพาราของตนเอง ท้องที่บ้านตอหลังนั้น ได้เหยียบกับระเบิดที่คนร้ายประกอบใส่ในท่อพีวีซีและฝังไว้ใต้ดิน แรงระเบิดทำให้ นางจิราพร ได้รับบาดเจ็บบริเวณขอเท้า อาการสาหัส
เวลา 10.30 น. ขณะที่ ร.ท.บำเพ็ญ คชเวช ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4505 กรมทหารพรานที่ 45 นำกำลังออกลาดตระเวนพื้นที่ พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดฝังอยู่ริมถนนสายตันหยงมัส-ตอหลัง ท้องที่หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จึงประสานชุดเก็บกู้ทำลายล้างวัตถุระเบิด (อีโอดี) จากหน่วยเฉพาะกิจอโณทัยเข้าตรวจสอบ พบธงชาติไทยถูกผูกติดไว้กับกิ่งไม้ เมื่อแกะออกจึงพบวัตถุต้องสงสัยเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกระป๋องปลากระป๋อง น้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม จุดชนวนแบบเหยียบ เจ้าหน้าที่จึงทำการเก็บกู้เอาไว้ได้อย่างปลอดภัย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นแผนของคนร้ายที่ต้องการลอบประทุษร้ายเจ้าหน้าที่
ยิงจำเลยคดีถล่มมัสยิดไอร์ปาแยปางตาย
เวลา 13.00 น. พ.ต.ท.เฉลิมชัย บุณศิริ สารวัตรเวร สภ.เมืองนราธิวาส รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงบริเวณบ้านตะโล๊ะแน็ง หมู่ 4 ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง หมายเลขทะเบียน ขทก 423 นราธิวาส ล้มตะแคงอยู่พร้อมกองเลือด ใกล้กันมีปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 และอาก้ากระจายเกลื่อนจำนวน 8 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น ทราบว่ามีพลเมืองดีช่วยนำส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาสไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อคือ นายสุทธิรักษ์ คงสุวรรณ อดีตทหารพราน และเป็นจำเลยในคดียิงชาวบ้านเสียชีวิต 10 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 10 รายในมัสยิดอัลฟุรกอน บ้านไอร์ปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2552 คดียังอยู่ในชั้นศาล โดยนายสุทธิรักษ์ถูกยิงอาการสาหัส ส่วนผู้บาดเจ็บอีกคนคือ นางฮาอีด๊ะ สาแม อายุ 32 ปี เป็นภรรยาของนายสุทธิรักษ์
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสุทธิรักษ์ได้ชวนภรรยานั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปบ้านแม่ยายในพื้นที่ ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ แต่ระหว่างทางถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนซึ่งแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบข้างทาง ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และอาก้ายิงใส่จนทั้งสองได้รับบาดเจ็บและรถเสียหลักล้มคว่ำ คนร้ายเตรียมเข้าไปยิงซ้ำ แต่มีรถกระบะของชาวบ้านแล่นผ่านมา ทำให้กลุ่มคนร้ายแยกย้ายกันหลบหนี
ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส ได้เดินทางไปอายัดตัวนายสุทธิรักษ์ที่โรงพยาบาล เนื่องจากนายสุทธิรักษ์มีหมายจับในคดียิง นายฮามะ มะนอ เสียชีวิตที่สะพานข้ามแม่น้ำบางนรา ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมาด้วย สำหรับสาเหตุที่ทำให้นายสุทธิรักษ์ตกเป็นเป้าสังหาร เบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวโยงกับธุรกิจผิดกฎหมาย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : สำนักข่าวเนชั่น เอื้อเฟื้อข่าวความเคลื่อนไหวในส่วนกลาง
หมายเหตุ : ข่าวนี้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันศุกร์ที่ 7 ก.ย.2555 ด้วย