ตั้ง2ปมชนวนฆ่าตัดคอ-เผาซ้ำที่บันนังสตา รัฐยันไฟใต้ดีขึ้นชงนายกฯแถลงผลงาน
ใต้ระอุ "ฆ่าตัดคอ" โผล่อีกหลังหายไปนาน คราวนี้ที่บันนังสตา เหยื่อเป็นชาวบ้านวัยใกล้แซยิด ขับรถออกจากบ้านไปทำธุระ ระหว่างทางถูกคนร้ายดักยิง ตัดคอ จุดไฟเผาทั้งรถทั้งศพ ตำรวจยังไม่ฟันธงสร้างสถานการณ์ แต่ “ยุทธศักดิ์” ยืนกรานขัดแย้งส่วนตัวแน่นอน แถมประชุมสรุปดับไฟใต้ดีขึ้น เตรียมสรุปเสนอนายกฯแถลงเป็นผลงาน
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเกิดเหตุคนร้ายฆ่าตัดคอเหยื่อซึ่งเป็นชายมุสลิมวัย 57 ปีในท้องที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา โดยเมื่อเวลา 07.00 น.วันพฤหัสบดีที่ 30 ส.ค.2555 ร.ต.ท.ซุลกิพลี ระเซะ ร้อยเวร สภ.บันนังสตา รับแจ้งเหตุมีคนถูกฆ่าตัดคอแล้วเผาบนรถกระบะ ในท้องที่หมู่ 3 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุอยู่บนทางหลวงสายตะบิงติงงี-ศรีสาคร ห่างจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (ยะลา-เบตง) ประมาณ 2.5 กิโลเมตร พบซากรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน บฉ 6198 ยะลา ยังมีควันไฟกรุ่นอยู่ สภาพรถถูกเพลิงเผาวอดทั้งคัน บนกระบะท้ายพบร่างมนุษย์ดำเป็นตอตะโก ทราบชื่อคือ นายต่วนดาโอ๊ะ ต่วนสุหลง อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 10 ต.ตลิ่งชัน ห่างไปทางท้ายรถประมาณ 10 เมตร พบศีรษะนายต่วนดาโอ๊ะถูกทิ้งบริเวณกอหญ้าข้างทาง
สอบสวนทราบว่า นายต่วนดาโอ๊ะ มีอาชีพค้าขายและรับซื้อเศษยางพารา ก่อนเกิดเหตุราว 06.00 น.ได้ขับรถกระบะคันที่ประสบเหตุออกจากบ้าน โดยบอกทางบ้านว่าจะไปฟอกไตที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา จากนั้นเวลาประมาณ 07.00 น. ร.อ.ปริญญา คำพรม สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 7021 หน่วยเฉพาะกิจยะลา 15 ได้นำกำลังออกจากฐานที่โรงเรียนบ้านทรายแก้ว หมู่ 5 ต.ตลิ่งชัน เพื่อลาดตระเวนเส้นทาง และพบรถกระบะกับร่างนายต่วนดาโอ๊ะกำลังถูกไฟเผา จึงแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 4 คน น่าจะรู้จักกับนายต่วนดาโอ๊ะมาก่อน โดยคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์หรือรถกระบะเป็นพาหนะ ขับตามรถนายต่วนดาโอ๊ะแล้วเรียกให้หยุด ทำทีเป็นคุยธุระ จากนั้นจึงสังหารแล้วใช้ของมีคมตัดศีรษะไปทิ้งข้างทาง และราดน้ำมันเบนซินจุดไฟเผาทั้งศพทั้งรถก่อนหลบหนีไป
สำหรับมูลเหตุการสังหารยังสันนิษฐานเอาไว้หลายประเด็น เช่น เป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ เพราะนายต่วนดาโอ๊ะรู้จักกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย จึงอาจเป็นที่เพ่งเล็งของกลุ่มขบวนการ หรือไม่ก็อาจจะเป็นความขัดแย้งส่วนตัว เรื่องการเมืองท้องถิ่น
ทั้งนี้ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางเข้าตรวจจุดเกิดเหตุ พร้อมเก็บหลักฐานดีเอ็นเอและวัตถุพยานต่างๆ ด้วย
ต่อมาเวลาประมาณ 12.30 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถยนต์เป็นพาหนะ ขับตามประกบยิง นายอายุ บือราเฮง วัย 52 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปะเสยาวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่ในท้องที่หมู่ 7 บ้านปาตาบาระ ต.ปะเสยาวอ เพื่อไปร่วมงานแข่งเรือ โดยกระสุนของคนร้ายเจาะเข้าที่ลำคอ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง แต่ให้น้ำหนักไปที่เรื่องการเมืองท้องถิ่น
ย้อนรอย"ฆ่าตัดคอ"ชายแดนใต้
อนึ่ง การก่อเหตุรุนแรงในลักษณะ "ฆ่าตัดคอ" นั้น นับเป็นเหตุการณ์สยดสยองและเคยเกิดมาแล้วหลายต่อหลายครั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา โดยเหยื่อมีทั้งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งนี้ เหตุการณ์ฆ่าตัดคอที่ถูกบันทึกไว้เป็นรายแรกหลังเหตุการณ์ปล้นปืนเมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 คือ เหตุการณ์ฆ่าตัอคอ นายเซี่ยง พัดแก้ว อายุ 63 ปี ที่บ้านโต๊ะเด็ง หมู่ 1 ด้านหลังสถานีอนามัยโต๊ะเด็ง ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2547 หลังจากนั้นก็เกิดมาเรื่อยๆ และถี่มากขึ้นในช่วงปี 2551-2552
ที่ผ่านมา "ทีมข่าวอิศรา" ได้เคยเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเหยื่อฆ่าตัดคอเอาไว้ ประเมินว่ามีจำนวนเหยื่อไม่น้อยกว่า 40 รายตลอดห้วงเวลาเกือบ 9 ปีไฟใต้ โดยสามารถคลิกอ่านย้อนหลังได้ที่
- ย้อนรอย 26 เหยื่อฆ่าตัดคอ ไขปริศนาฆ่าสุดสยอง
http://www.south.isranews.org/cms/index.php?option=com_content&task=view&id=4091&Itemid=86 และ
- ครึ่งปี"ตัดคอ"6 ครั้ง - ห้าปีไฟใต้เหยื่อพุ่ง 40 ศพ
http://south.isranews.org/cms/index.php?option=com_content&task=view&id=4686&Itemid=47
"ยุทธศักดิ์"แจงฆ่าตัดคอเรื่องส่วนตัว
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ฆ่าตัดคอและเผาชาวบ้านที่ อ.บันนังสตา ว่า ได้รับรายงานว่าเป็นการแก้แค้นส่วนตัว แต่ขอตรวจสอบก่อน และอย่าเพิ่งตีความว่าเป็นเรื่องของความมั่นคง เพราะบางกรณีญาติของคนนั้นไปทำร้ายญาติของคนนี้ ญาติคนนี้ก็ไปทำร้ายคนนั้น เป็นการแก้แค้นส่วนตัว ขอให้แยกแยะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัวหรือเป็นเรื่องของยาเสพติด ต้องแยกประเด็นของสถานการณ์ให้ออก
ส่วนเหตุการณ์คนร้ายยิงถล่มขบวนรถไฟจนมีเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยรถไฟเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเมื่อวันอังคารที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ได้เตือนไปแล้วว่าเหตุการณ์ยิงรถไฟจะเกิดขึ้นแน่นอน เพราะมีการรวมตัวกันเคลื่อนไหวทำอะไรสักอย่าง และมีการรวมตัวกันเพื่อแก้แค้นคนของฝ่ายโน้นที่ถูกวิสามัญฆาตกรรมไป 1 คน (เมื่อวันเสาร์ที่ 25 ส.ค.)
ยันผลงานดับไฟใต้ดีขึ้น-เล็งชงนายกฯแถลง
วันเดียวกัน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ยังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) ก่อนเปิดเผยว่า เป็นการประชุมเพื่อตรวจสอบผลงานการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในรอบ 1 ปี ระหว่างเดือน ส.ค.ปี 2554 ถึง ส.ค.ปี 2555 ว่าการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานต่างๆ และรัฐบาลได้ดำเนินการอะไรไปบ้าง มีสิ่งไหนที่เป็นประโยชน์และพัฒนาขึ้น มีอะไรที่ยังขาดและต้องเพิ่มเติม
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) และรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาค (ศอ.บต.) ได้เข้าชี้แจง จึงได้เห็นผลงานของ ศอ.บต.ว่าพัฒนาไปมากและน่าชื่นชม รวมถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็ได้ชี้แจงในเรื่องการพัฒนางานด้านการข่าว การบูรณาการงานข่าว การใช้หน่วยงานข่าวให้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารในระดับปฏิบัติและระดับนโยบายกับระดับสูงให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นอกจากนั้นได้ให้แต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องชี้แจงงานของตนเองว่าได้ทำอะไรไปบ้าง และในปี 2556 มีแผนจะทำอะไรบ้าง
"ผมคิดว่าเป็นผลงานที่พัฒนาดีขึ้นกว่าเดิม เพราะจากภาพทุกอย่างดีขึ้น ไม่ได้ล้มเหลวอย่างที่ว่าไว้ หลังจากนี้จะรวบรวมสรุปเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ชี้แจงในนามสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ระบุ
ส่วนที่มองกันว่าสถานการณ์ในพื้นที่ยังรุนแรงอยู่นั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ได้พูดคุยกันว่าจะทำให้สิ่งเหล่านี้ลดน้อยลงไปทีละนิด แต่จะให้หมดไปต้องใช้เวลา เพราะพื้นที่กว้าง และมีเป้าหมายอ่อนแอมากกว่ากำลังของเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปดูแลทุกจุดได้ การทำร้ายประชาชนเพื่อการข่มขู่นั้นลำบาก แต่ขณะเดียวกันเราก็พยายามสร้างให้ประชาชนมาเป็นฝ่ายเรา และช่วยดูแลตัวเองด้วย
"เรามีตัวเลข แต่เราไม่อยากพูดกันในเรื่องสถิติว่าลดลง การก่อเหตุอาจจะมีจำนวนน้อยลง แต่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ผมขอให้เป็นภาพชัดเจนของความรู้สึกจากประชาชนมากกว่า การชี้แจงผลงานครั้งนี้เอาความรู้สึกมาพูดกัน อย่าเอาตัวเลขมาพูดกัน เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยจะเสนอนายกรัฐมนตรีให้ตรวจสอบภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งนายกฯจะกำหนดเวลาในการชี้แจง" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
รวบมือต่อระเบิดป่วนยะลา-รับประกอบในปอเนาะ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันพุธที่ 29 ส.ค. พ.ท.ชลัช ศรีวิเชียร รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา 11 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจ สภ.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ได้คุมตัว นายสาการียา สาและ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 3 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคงซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเมื่อวันที่ 24 ส.ค. ในพื้นที่ ต.ลำใหม่ ไปชี้จุดประกอบระเบิดภายในห้องพักชาย โรงเรียนพัฒนาอิสลามวิทยา (ปอเนาะลำใหม่) โดยมีครูใหญ่ของโรงเรียนอำนวยความสะดวกในการตรวจค้น
นายสาการียา ให้การว่าใช้ห้องพักดังกล่าวเป็นสถานที่ประกอบระเบิด โดยมี นายซอบรี บือแน แกนนำผู้ก่อเหตุรุนแรงเป็นผู้สอน ทั้งนี้ นายสาการียาถูกจับกุมภายหลังฝ่ายความมั่นคงรวบตัว นายเปาซี เจ๊ะและ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/2 หมู่ 2 ต.ลำใหม่ และ นายการียา อีตำ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/3 หมู่ 2 ต.ลำใหม่ เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยทั้งสองเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา) ในคดีความมั่นคงหลายคดี โดยเฉพาะคดียิงทหารชุดรักษาความปลอดภัยพระ (รปภ.พระ) เสียชีวิต 2 นาย ที่ถนนอุตสาหกรรม ในเขตเทศบาลนครยะลา เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2553
สำหรับ นายสาการียา มีรายงานว่าเป็นผู้ต้องหาในคดีลอบวางระเบิดหลายครั้งในเขตเทศบาลนครยะลา โดยเฉพาะเหตุระเบิดคาร์บอมบ์บริเวณหน้าร้านเฮนเบเกอรี่ ถนน ณ นคร เมื่อวันที่ 13 ก.พ.2554 ทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านค้าหลายคูหา
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : สภาพรถของ นายต่วนดาโอ๊ะ ต่วนสุหลง ที่ถูกคนร้ายเผาพร้อมร่างของเขาในท้องที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
ขอบคุณ : เนื้อหาข่าวเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เอื้อเฟื้อโดยสำนักข่าวเนชั่น