ส่ง "ดาว์พงษ์" นั่งเลขา ศปก.จชต. "ถวิล"เตือนดับไฟใต้ยังไร้สมดุล
"ยุทธศักดิ์" ถกอีกรอบโครงสร้าง ศปก.จชต. เตรียมส่งกฤษฎีกาตรวจสอบประเด็นข้อกฎหมายก่อนชงนายกฯลงนามสัปดาห์หน้า กอ.รมน.เสนอ "ดาว์พงษ์" นั่งเลขานุการ ศปก.จชต. ไฟเขียว "อาสาสมัครตำรวจ" เสริมงานดูแลพื้นที่ พร้อมบูรณาการ 66 ด่านสามจังหวัดชายแดน ด้าน "ถวิล" ติงสัดส่วนงานยังไม่สมดุล แนะต้องให้หน่วยในพื้นที่ขับเคลื่อนเป็นหลัก ใต้ระอุ! เจ้าหน้าที่ยิงปะทะแก๊งต้มน้ำใบกระท่อม ดับ 1 เจ็บ 2
โครงสร้างของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.จชต.) เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ภายหลังรัฐบาลจัดประชุมใหญ่ทุกหน่วยงานเพื่อเดินหน้าจัดตั้งให้เป็น "องค์กรพิเศษ" เพื่อบูรณาการการทำงานของ 17 กระทรวง 66 หน่วยงาน
โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 ส.ค.2555 พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) ที่มี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า วาระการประชุมที่สำคัญก็คือพิจารณาโครงสร้าง ศปก.จชต. สรุปว่าโครงสร้าง ศปก.จชต.ยังมีข้อแก้ไขที่ควรปรับปรุงบางส่วน เมื่อแก้ไขเสร็จสิ้นจะส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาต่อไป คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะเสนอให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงนามได้
สำหรับประเด็นที่ยังต้องปรับปรุงก็เช่น บางหน่วยงานต้องร่วมงานกับบางหน่วยงาน จะแก้ไขอย่างไร รวมทั้งการจัดกลุ่มหน่วยงานที่ดูแลโครงสร้างภายในแต่ละด้าน ส่วนกรณีสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนา (สปต.) คัดค้านการจัดตั้ง ศปก.จชต.นั้น เรื่องนี้รองนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ไปชี้แจงทำความเข้าใจ
ส่วนกรณีชาวมุสลิมกัมพูชาที่เข้ามาในประเทศไทย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ตรวจสอบความผิดปกตินั้น พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า หลายหน่วยงานสรุปว่ายังไม่มีข้อมูลเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุร้ายในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะคนกลุ่มนี้บางส่วนเข้ามาหางานทำ บางส่วนข้ามไปมาเลเซียเพื่อไปพบกับแรงงานกัมพูชาที่นั่น
โฆษก กอ.รมน.ยังกล่าวถึงการดูแลสถานประกอบการของภาคเอกชน ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายบุกเผารถยนต์ในบริษัทปัตตานีฮอนด้าคาร์ส จำกัด เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา และลอบวางระเบิดโรงแรมซี.เอส.ปัตตานี เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ว่า เจ้าของกิจการต่างๆ ในพื้นที่เป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าจะต้องดูแลสถานประกอบการของตนอย่างไร หากไม่มั่นใจในความปลอดภัย ให้หารือกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้่นๆ เพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสม
"สาเหตุของการก่อเหตุรุนแรงกับสถานประกอบการของภาคเอกชนนั้น สังคมทราบดีว่าการก่อเหตุมีหลายปัจจัยที่ละเลยไม่ได้ เช่น กลุ่มแบ่งแยกดินแดน ผู้มีอิทธิพล ค้าของเถื่อน ยาเสพติด กลุ่มเหล่านี้ต้องการสร้างสถานการณ์ให้เจ้าหน้าที่ดูแลพื้นที่ไม่ได้ หรือกดดันให้เจ้าหน้าที่ออกไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง ปัจจัยเหล่านี้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันในหลายเหตุการณ์ จึงต้องตรวจสอบว่าแต่ละเหตุเชื่อมโยงกับกลุ่มใด และต้องใช้เวลาดำเนินการตามหลักฐาน" โฆษก กอ.รมน.ระบุ
เสนอชื่อ"ดาว์พงษ์"นั่งเลขานุการ ศปก.จชต.
วันเดียวกัน ที่กระทรวงกลาโหม (กห.) มีการประชุมสภากลาโหม ซึ่งมี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน โดยภายหลังการประชุม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กห.แถลงว่า ได้มีการชี้แจงถึงความสำคัญ บทบาท และหน้าที่ของ ศปก.จชต. ส่วนการปฏิบัติงานในพื้นที่ ในส่วนของกองทัพบกและ กอ.รมน.ได้จัดแบ่งงานออกเป็น 5 กลุ่มเพื่อให้ง่ายต่อการปฏิบัติ คือ 1.การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 2.งานยุติธรรม 3.การสร้างคุณภาพชีวิตและโครงสร้างพื้นฐาน 4.สิทธิมนุษยชน และ 5.การหาทางออกเมื่อเกิดความขัดแย้งในพื้นที่
ทั้งนี้ กอ.รมน.จะนำแผนงานและกรอบการทำงานเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนามในวันที่ 24 ส.ค.นี้ เพื่อนำไปใช้ปฏิบัติในพื้นที่ต่อไป รวมถึงการปรับปรุงรูปแบบกิจกรรมใน 5 รูปแบบ เช่น การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ก็จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยเพิ่มเติม รวมไปถึงรับอาสาสมัครตำรวจเข้ามา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การบรรยายสรุปของ กอ.รมน.เกี่ยวกับการจัดตั้ง ศปก.จชต.ต่อที่ประชุมสภากลาโหมนั้น ในส่วนของสำนักงานเลขานุการ ศปก.จชต. ได้มีการเสนอชื่อ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองผู้บัญชาการทหารบก (รองผบ.ทบ.) เป็นเลขานุการ โดยมีผู้แทนจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ศอ.บต. และ กอ.รมน.เป็นรองเลขานุการ
ลุยใช้"สมาร์ทการ์ด"ตรวจบัตรประชาชน
สำหรับลักษณะการปฏิบัติงานของ ศปก.จชต.จะปฏิบัติภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี แบ่งการปฏิบัติออกเป็น 2 ระดับ คือ ระดับปกติ ปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมงเฉพาะส่วนบังคับบัญชา สำนักงานเลขานุการ และส่วนข่าวติดตามสถานการณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานประจำรวม 37 อัตรา และระดับไม่ปกติ คือห้วงเวลาที่มีสถานการณ์ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพสังคม จิตวิทยา และความเชื่อมั่นในวงกว้าง ให้มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานไม่เกินตามอัตราเต็มของ ศปก.จชต.จำนวน 85 อัตรา
พ.อ.ธนาธิป กล่าวด้วยว่า พล.อ.อ.สุกำพล ได้เน้นย้ำให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ นำผลงานที่ได้จากการวิจัยทางทหารไปปฏิบัติในพื้นที่และให้กำลังพลได้ใช้ประโยชน์ โดยที่ผ่านมามีงานวิจัย 30 รายการ แต่ที่จะนำไปใช้งานคือ ชุดเสื้อเกราะ อุปกรณ์เก็บกู้ตะปูเรือใบ ยางรถยนต์ป้องกันการโปรยตะปูเรือใบ เครื่องมือการตรวจบัตรประชาชน หรือ สมาร์ทการ์ด เพื่อลดขั้นตอนในการตรวจสอบ
"ถวิล"ชี้แก้ใต้ไร้สมดุล-บี้เคลื่อนงานในพื้นที่
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอดีตเลขาธิการ สมช.กล่าวถึงปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ปัญหาขณะนี้เป็นความไม่สมดุลในการทำงาน เช่น เอกภาพ การประสานงาน และความชัดเจนของการทำงานเชิงนโยบาย สิ่งที่บอกว่าขาดความสมดุลคืองานอื่นๆ ยังทำได้ไม่เต็มที่และควรเห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะสถานการณ์ไม่ปกติ ยังมีความไม่ปลอดภัยอยู่
"การแก้ไขโดยตั้ง ศปก.จชต.เป็นความพยายาม ส่วนจะดีขึ้นหรือไม่ อยู่ที่การทำงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนกลางจะตั้งอะไรก็ตั้งไปเถอะ หากไม่สามารถผลักดันการปฏิบัติในพื้นที่ได้ ก็ย่อมไม่เกิดผล เพราะของจริงมันอยู่ในพื้นที่" นายถวิล กล่าว
ส่ง อส.ดูแลบริษัทเครือ ส.ว.อนุศาสน์
สำหรับความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกเผารถยนต์ในบริษัทปัตตานีฮอนด้าคาร์ส จำกัด อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นของ นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สายสรรหานั้น ปรากฏว่าการหาเบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุยังไม่คืบหน้า เพราะภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดไม่ชัด ประกอบกับคนร้ายสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า
มีรายงานว่า นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้นายอำเภอทั้ง 8 อำเภอกำชับเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) และตำรวจ ทหาร ให้เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ และเน้นรักษาความปลอดภัยโชว์รูมรถยนต์ โชว์รูมรถจักรยานยนต์ และบริษัทห้างร้านต่างๆ โดยใน อ.เมืองยะลา มีเครือข่ายธุรกิจของนายอนุศาสน์ คือ โชว์รูมรถยนต์อีซูซุ บริษัทปัตตานีเจริญเทรดดิ้ง (1972) จำกัด สาขายะลา ซึ่งทางจังหวัดได้ส่ง อส.ไปดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
วันเดียวกัน มีการประชุม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จากนั้น พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงว่า ประเด็นที่ผู้บังคับบัญชาเน้นย้ำคือมาตรการตั้งด่านตรวจ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งศูนย์ประสานงานด่านตรวจ โดยให้หน่วยเฉพาะกิจกองพลทหารราบที่ 15 ดำเนินการบูรณาการด่านตรวจ 66 ด่านใน 37 อำเภอ เพื่อจะได้ดำเนินการไปตามแผนงานในทิศทางเดียวกัน
รามันระอุ! ดักบึ้มทหาร-ปะทะแก๊งต้มน้ำกระท่อมดับ 1 เจ็บ 2
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ วันศุกร์ที่ 24 ส.ค.2555 เวลา 10.00 น. ขณะที่ชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารราบที่ 15214 หน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 กำลังเดินทางเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยบนถนนสายชนบท หน้าโรงเรียนบ้านเกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา ตามที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีนั้น ระหว่างทางในท้องที่บ้านปาแตรายอ หมู่ 2 ต.เกะรอ ได้ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดดักสังหาร โดยวางระเบิดไว้ริมถนนสายชนบท โชคดีที่กำลังพลใช้รถหุ้มเกราะเป้นพาหนะ จึงไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง จุดชนวนโดยการลากสายและช็อตด้วยไฟฟ้า
ส่วนปฏิบัติการของฝ่ายความมั่นคง เวลา 06.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.เตียน ทองสมสี พนักงานสอบสวน สภ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงปะทะกับกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัย เป็นเหตุให้ฝ่ายติดอาวุธเสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดที่บ้านทำนบ หมู่ 3 ต.กาลอ อ.รามัน จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหลังโรงพยาบาลชุมชนบ้านกาลอ ริมลำธารเชิงเขากาลอ พบศพ นายอับดุลเลาะ มะซี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 3 ต.กาลอ ในมือยังกำอาวุธปืนเอ็ม 16 อยู่ ห่างกันประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่พบขนำ (กระท่อม) ซึ่งเป็นที่ผลิตน้ำกระท่อมส่วนผสมยาเสพติดสูตรสี่คูณร้อย บรรจุถุงพลาสติกใส่ในถุงปุ๋ยจำนวน 2 ถุง น้ำหนักกว่า 10 ลิตร และยังมีน้ำกระท่อมพร้อมดื่มอีก 1 ขวดบนแคร่หน้าขนำ นอกจากนั้นยังพบแม็กกาซีนปืนเอ็ม 16 อาวุธปืนคาร์บินขนาด .22 ติดกล้อง และเครื่องกระสุน รวมทั้งน้ำกระท่อมต้มแล้วอีกจำนวนหนึ่ง
ขณะเดียวกันยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย คือ นายซาอุดิง ยะโก๊ะ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 2 ต.กาลอ และ นายนูรดิง ลีเกียก อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/5 หมู่ 3 ต.กาลอ เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลรามัน แพทย์ส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าที่บ้านทำนบ หมู่ 3 ต.กาลอ มีขบวนการลักลอบผลิตยาเสพติดสูตรสี่คูณร้อย และเกี่ยวข้องกับแนวร่วมก่อความไม่สงบ จึงได้ส่งกำลังเข้าพิสูจน์ทราบ เมื่อไปถึงพบผู้ต้องสงสัย 3 รายอยู่ในขนำ จึงเรียกให้ออกมา แต่กลุ่มคนดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืน เอ็ม 16 และปืนคาร์บินขนาด .22 ยิงใส่เพื่อเปิดทางหลบหนี จนถูกเจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้กลายเป็นการยิงปะทะกันอย่างดุเดือดราว 15 นาที หลังเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่พบศพ นายอับดุลเลาะ และพบผู้บาดเจ็บ 2 คนดังกล่าว จึงนำส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นได้ตรวจสอบประวัติทั้ง 3 คนว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อความไม่สงบหรือไม่ และอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ใช้ เคยก่อเหตุที่ใดมาก่อนหรือเปล่า
ช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังสกัดจับรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กง 2416 ปัตตานี ขณะขับอยู่บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 มุ่งหน้า อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และพยายามแหกด่านจนเกือบเฉี่ยวชนเจ้าหน้าที่ พบเป็นรถขนน้ำมันเถื่อนจำนวน 800 ลิตร จึงจับกุม นายอิบรอเฮง มะลือสะ อายุ 26 ปี ชาว ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา คนขับ ไปสอบสวนดำเนินคดี
ปิดล้อมตรวจค้น "กะพ้อ-เมืองยะลา"
วันพฤหัสบดีที่ 23 ส.ค.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ได้จัดกำลังร่วมกับทหารพรานหญิง ทหารหลัก และตำรวจ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เข้าปิดล้อมตรวจค้น บ้านไม่มีเลขที่ ท้องที่บ้านคอกวัว หมู่ 5 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ พบพานท้ายปืน โครงปืนจำลอง เครื่องกระสุน และกล้องส่องทางไกล จึงเชิญตัว นายมูฮัมหมัดสับรี สมาแอ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 7 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ ซึ่งแสดงตนเป็นผู้ครอบครองสถานที่ ไปดำเนินกรรมวิธีซักถาม
ส่วนที่บ้านเปาะยานิ หมู่ 3 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลา 11 ได้สนธิกำลังกับทหารพรานและตำรวจ เข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่บ้าน 2 หลังในท้องที่หมู่ 3 ต.สะเตงนอก พบยาบ้าจำนวน 80 เม็ด พืชกระท่อม และอุปกรณ์อื่นๆ จึงควบคุมตัว นายยิ่งศักดิ์ บาราเฮง กับ นายเปาซี มะยี ซึ่งแสดงตัวเป็นผู้ครอบครองสถานที่ไปสอบสวนดำเนินคดี
ด้านความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงทหารพรานเสียชีวิต สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลเฉลิม (ส.อบต.เฉลิม) ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะเข้าไปสำรวจความต้องการรถเข็นคนพิการในพื้นที่บ้านกูจิงรือปะ หมู่ 4 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ต่อมา นายสุริยา บากอสุงีกอยิ ปลัดฝ่ายปกครอง อ.ระแงะ นำกำลังอาสารักษาดินแดน (อส.) เข้าตรวจที่เกิดเหตุ ก็ถูกคนร้ายลอบวางระเบิด 3 ลูกซ้อนเพื่อดักสังหาร แต่คณะของนายสุริยารอดตายอย่างหวุดหวิด เหตุเกิดเมื่อวันอังคารที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่หมู่ 4 ต.เฉลิม ไปซักถามและทำประวัติรวม 19 คน ทั้งหมดปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุคคลที่น่าจะเกี่ยวข้อง กำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัว
---------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : เนื้อหาข่าวบางส่วนที่เกี่ยวกับ ศปก.จชต.จากสำนักข่าวเนชั่น และภาพ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ จากศูนย์ภาพเนชั่น
หมายเหตุ : ภาพ อส.ดูแลความปลอดภัยโชว์รูมรถยนต์ใน จ.ยะลา โดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์