เปิดประวัติ "บูคอรี หลำโส๊ะ" ตัวเอ้ป่วนใต้ หรือซุกใต้ปีกใคร?
ที่เห็นในภาพประกอบบทความชิ้นนี้ คือโฉมหน้าของ "บูคอรี หลำโส๊ะ" ที่ฝ่ายความมั่นคงเชื่อว่าเป็นผู้บงการก่อเหตุคาร์บอมบ์ลูกล่าสุด ใกล้กับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ต.ท่าม่วง อ.เทพา เมื่อช่วงเช้ามืดวันอังคารที่ 8 ม.ค.62
คาร์บอมบ์ลูกนี้เป็นลูกแรกของปี 62 ซึ่งเพิ่งผ่านเทศกาลปีใหม่มาได้เพียงแค่ 8 วัน และเป็น “คาร์บอมบ์” ลูกที่ 55 แล้ว นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ไฟใต้มาตั้งแต่ปี 47
"ศูนย์ข่าวอิศรา" รวบรวมสถิติระเบิดในรูปแบบ “คาร์บอบม์” เอาไว้ ตั้งแต่เริ่มมีสถานการณ์ความไม่สงบเมื่อต้นปี 47 เป็นต้นมา มีเหตุ “คาร์บอมบ์” เกิดขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น 54 ครั้ง ไม่รวมครั้งล่าสุดนี้ โดยเหตุคาร์บอมบ์ลูกที่ 54 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ปี 60 เป็นคาร์บอมบ์หน้าบ้านพักตำรวจ สภ.มายอ จ.ปัตตานี
รถที่ใช้ทำคาร์บอมบ์ในครั้งนั้น ถูกปล้นมาจากเต็นท์รถมือสอง "วังโต้ คาร์เซ็นเตอร์" ใน อ.นาทวี จ.สงขลา คนร้ายปล้นรถกระบะ 6 คัน ขับหนีกระจายแยกกันไปทำคาร์บอมบ์ สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง แต่ก็ถือเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญ วางแผนก่อเหตุกันเหมือนในภาพยนตร์
เหตุปล้นรถกระบะ 6 คันไปทำคาร์บอมบ์ ก็มีชื่อ บูคอรี หลำโส๊ะ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ
ข้อมูลจากแฟ้มประวัติของฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า บูคอรี เป็นสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบคนสำคัญที่เคลื่อนไหวในอำเภอรอยต่อของ จ.สงขลา กับปัตตานี ภูมิลำเนาที่แท้จริงอยู่ที่บ้านควนหรัน ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา มีประวัติก่อเหตุรุนแรงครั้งแรกเมื่อปี 48 โดยร่วมกับพวกใช้ท่อนไม้ทุบตีครูในพื้นที่บ้านควนหรันจนได้รับบาดเจ็บ โดยขณะก่อเหตุยังอยู่ในวัยหนุ่มรุ่นกระทง
จากนั้น บูคอรี ถูกจับกุมโดยอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก และเจ้าตัวยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายครูจริงๆ แต่ประวัติหลังจากนั้นไม่แน่ชัดว่าถูกดำเนินคดีหรือไม่ หรือว่าโดนดำเนินคดีแล้วพ้นโทษออกมา เพราะในช่วงสิบกว่าปีมานี้ มีคดีความมั่นคงหลายคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี จ.สงขลา รวมถึง อ.โคกโพธิ์ กับอำเภอใกล้เคียง และ อ.เมืองปัตตานี ที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นฝีมือของบูคอรีและพวก
คดีใหญ่ๆ ที่มีชื่อของ บูคอรี เข้าไปเกี่ยวข้อง นอกจากคดีปล้นรถกระบะ 6 คันจากเต็นท์รถมือ 2 ใน อ.นาทวี แล้ว ยังมีคดีคาร์บอมบ์หน้าห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ ปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ปี 60 ด้วย โดยในครั้งนั้น คนร้ายใช้วิธีปล้นรถกระบะ ฆ่าเจ้าของรถ ก่อนนำรถไปบรรทุกระเบิด และขับไปก่อเหตุที่หน้าห้างบิ๊กซี เช่นเดียวกับเหตุปล้นฆ่าสองสามีภรรยา แล้วโยนร่างทิ้งแม่น้ำเทพา เพื่อชิงรถกระบะไปทำคาร์บอมบ์ช่วงต้นปี 60 ซึ่งก็มีชื่อของทีมงานของ บูคอรี เป็นผู้ก่อเหตุเช่นกัน
บูคอรี มีพ่อเลี้ยงเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่นคง มีภรรยาเกี่ยวข้องกับคนในขบวนการผู้ก่อเหตุรุนแรง และยังมีน้องชายชื่อ รอซาลี หลำโส๊ะ เคยก่อเหตุรุนแรงมาแล้วหลายครั้งเช่นกัน แถมยังเคยถูกจับกุมเข้ากระบวนการซักถามอย่างน้อย 3 ครั้ง แต่ไม่สามารถดำเนินคดีได้ เช่น เหตุการณ์ชิงรถรับส่งนักเรียนและฆ่าเจ้าของรถ ก่อนนำไปก่อเหตุยิงและวางระเบิดอาคารเทศบาลตำบลมะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 57
นี่คือประวัติของบูคอรีและพวก จากแฟ้มข้อมูลของฝ่ายความมั่นคง ต้องบอกว่ารู้ลึกรู้ละเอียดจริงๆ เขาเริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่อายุ 18 ปี แต่ผ่านมาแล้วเกือบ 15 ปี ยังจับกุมไม่ได้ ทำให้น่าคิดว่าคนเหล่านี้ซ่อนตัวอยู่ที่ไหน เหตุใดจึงรอดหูรอดตาเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่มากมายเหมือนตาสับปะรดไปได้
หรือเขาซุกตัวอยู่ใต้ปีกใคร?
มีเนาะ (สงวนนามสกุล) ชาว อ.สะบ้าย้อย เผยความรู้สึกที่น่าจะตรงใจใครหลายคน...
"เหตุรุนแรงแต่ละครั้งชาวบ้านไม่รู้หรอกเป็นเรื่องอะไร แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องผลประโยชน์ ที่ชาวบ้านคุยๆ กันก็เป็นแบบนี้ ที่นี่จะสงบคงยาก เพราะผลประโยชน์มันเยอะ ชาวบ้านจะไปทำอะไรได้ ถ้าจะให้มองสาเหตุที่มาจากขบวนการแบ่งแยกดินแดน มันก็คิดได้ แต่ชาวบ้านเขาก็รู้ว่าคนที่ก่อเหตุเป็นคนของใคร คงมีนั่นแหละที่พวกเขาเสียประโยชน์แล้วมาสร้างสถานการณ์"
เยาวชนที่เป็นผู้สนับสนุนขบวนการแบ่งแยกดินแดนรายหนึ่ง ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ใน อ.เทพา จ.สงขลา บอกว่า เป็นไปได้ที่คาร์บอมบ์เป็นฝีมือของกลุ่มบูคอรี เพราะเขามีท่าทีแข็งกร้าว ไม่ยอมเจรจากับใคร
ชาวบ้านอีกคนใน อ.สะบ้าย้อย บอกว่า บูคอรีเป็นคนของจูแว (นักต่อสู้ โดยนัยหมายถึงสมาชิกขบวนการก่อความไม่สงบ) ไม่อยู่บ้านนานแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับคาร์บอมบ์ครั้งนี้หรือไม่