นวัตกรรมไฟใต้? "ไบค์บอมบ์-บึ้มกระเป๋าสตางค์"
มีประเด็นน่าจับตาเกี่ยวกับเหตุระเบิด 14 จุดใน 3 อำเภอของ จ.ปัตตานี คือ อ.สายบุรี อ.ยะหริ่ง และ อ.ยะรัง ตั้่งแต่วันอาทิตย์ต่อเนื่องถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา
เพราะระเบิดล็อตนี้ไม่ได้สร้างความเสียหายหรือมีอานุภาพทำลายล้างที่รุนแรงมากนัก เนื่องจากทั้งหมดเป็นระเบิดขนาดเล็ก แต่สิ่งที่ฝ่ายความมั่นคงนำมาวิเคราะห์เป็นพิเศษก็คือ รูปแบบของภาชนะบรรจุระเบิด และพาหนะที่ใช้ติดตั้งระเบิด เป็นรูปแบบใหม่ จนหลายคนตั้งคำถามว่านี่เป็น "นวัตกรรมไฟใต้" หรือไม่
รูปแบบการวางระเบิดที่ฝ่ายความมั่นคงให้ความสนใจ คือการใช้ "จักรยาน" เป็นพาหนะติดตั้งระเบิด หรือที่เรียกว่า "ไบค์บอมบ์" โดยจุดเกิดเหตุอยู่ที่ อ.ยะรัง ส่วนระเบิดที่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้ที่ อ.สายบุรี มีอยู่จุดหนึ่งประกอบใส่ในกระเป๋าสตางค์ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น "ระเบิดกระเป๋าสตางค์"
จากการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุในพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอนั้น พบว่าทั้งหมดยังคงเป็น "ระเบิดแสวงเครื่อง" ที่ประกอบในลักษณะเดิมๆ ที่เคยพบมาก่อนหน้านี้แทบทุกเหตุการณ์ เช่น ระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกล่องเหล็ก, ระเบิดแสวงเครื่องในรูปแบบ "ไปป์บอมบ์" ที่ใช้ท่อเหล็กหรือท่อพีวีซีเป็นภาชนะในการบรรจุดินระเบิด เพียงแต่ระเบิดที่คนร้ายนำไปแขวนกับจักรยานเสือหมอบ จนกลายเป็น "ไบค์บอมบ์" นั้น คนร้ายประกอบระเบิดแสวงเครื่องใส่ใน "กระติกน้ำ" ที่แขวนติดไว้กับรถจักรยาน จากนั้นก็นำรถไปจอดในพื้นที่เป้าหมายเพื่อก่อเหตุระเบิด โดยการจุดระเบิดใช้ระบบตั้งเวลาด้วยนาฬิกาดิจิทัล
สำหรับองค์ประกอบของระเบิด, วงจร และส่วนประกอบต่างๆ ยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนภาชนะจากกล่องเหล็กหรือท่อพีวีซี เป็นนำระเบิดมาบรรจุใน "กระติกน้ำติดรถจักรยาน" เพื่อใช้อำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ให้สามารถเข้าไปก่อเหตุได้ง่ายขึ้น
ภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บันทึกได้ก็ชัดเจนว่า คนร้ายแต่งกายด้วยชุดนักปั่นจักรยาน เหมือนมาออกกำลังกาย ทำให้ผู้ที่พบเห็นไม่สงสัยในพฤติกรรมของคนร้าย แม้แต่เจ้าหน้าที่ตามด่านตรวจที่คนร้ายขี่จักรยานผ่าน ก็คงไม่คาดคิดว่านักปั่นจักรยานทั้ง 2 คนจะเป็นคนร้ายที่นำระเบิดไปวาง แต่หากใช้รถจักรยานยนต์ จะถูกจับจ้องและตรวจละเอียดมาก เนื่องจากเพิ่งเกิดเหตุ "มอเตอร์ไซค์บอมบ์" ในตลาดกลางเมืองยะลาเมื่อเดือนที่แล้ว
ส่วน "ระเบิดกระเป๋าสตางค์" ที่พบในพื้นที่ อ.สายบุรีนั้น วงจรที่คนร้ายต่อขึ้น ดูคล้ายวงจรระเบิดปกติ แต่จริงๆ แล้วเป็นเพียงวงจรจุดความร้อนเพื่อทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ ไม่ได้มีอานุภาพหรือสะเก็ดทำลายเป้าหมายเหมือนระเบิดแสวงเครื่องทั่วไป อาจเรียกได้ว่าเป็น "ระเบิดเพลิง" ชนิดหนึ่ง จากภาพที่เห็น ใช้นาฬิกาเป็นวงจรจุดระเบิดแบบตั้งเวลา ใกล้ๆ กันมีถุงที่บรรจุ "หัวไม้ขีดไฟ" จำนวนมาก 1 ถุง และมีถุงที่คาดว่าจะเป็นเชื้อเพลิง คล้ายๆ แอลกอฮอล์ก้อนอีก 1 ถุง
เมื่อถึงเวลาตามที่ตั้งเอาไว้ วงจรระเบิดก็จะทำงาน เป็นตัวจุดความร้อนให้เกิดเพลิงลุกไหม้ วงจรระเบิดเพลิงในลักษณะนี้น่าจะเคยมีใช้ก่อเหตุลอบวางเพลิงมาแล้วหลายครั้ง โดยมากเป็นร้านขายของชำ หรือห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ เพียงแต่ภาชนะและวัสดุที่นำมาประกอบเป็นระเบิดไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะการประกอบระเบิดใส่กระเป๋าสตางค์ เจ้าหน้าที่เพิ่งเคยพบเป็นครั้งแรก คาดว่าคนร้ายต้องการความสะดวกในการพกพา และเลี่ยงการตรวจจากเจ้าหน้าที่
จากข้อมูลที่ "ทีมข่าวอิศรา" ได้รับมา ทั้งจักรยานบอมบ์ และระเบิดกระเป๋าสตางค์ ซึ่งหลายคนคิดว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ในการประกอบระเบิดของคนร้ายนั้น จริงๆ แล้วรูปแบบของระเบิดยังเป็นแบบเดิม ไม่ได้มีรูปแบบวงจรซับซ้อนหรือแตกต่างไปจากเดิมเลย ที่เปลี่ยนใหม่คือ "ภาชนะบรรจุระเบิด" และ "พาหนะในการติดตั้งระเบิด" เท่านั้น เพื่อประโยชน์ในอำพรางเจ้าหน้าที่และประชาชนทั่วไป
---------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ระเบิดเพลิงที่ประกอบใส่กระเป๋าสตางค์
2 จักรยานระเบิด หรือ "ไบค์บอมบ์"
ขอบคุณ : ภาพจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจที่เกิดเหตุ
อ่านประกอบ :