กู้ระทึก "จรวดแสวงเครื่อง" พบครั้งแรกที่ชายแดนใต้ไม่ไกลสนามบินบ่อทอง!
มีเหตุระทึกขวัญที่จังหวัดปัตตานี เมื่อเจ้าหน้าที่พบวัตถุระเบิดรูปแบบใหม่ มีลักษณะคล้ายหัวจรวด ในพื้นที่อำเภอหนองจิก ใกล้กับสนามบินบ่อทอง หรือท่าอากาศยานปัตตานี
ช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม 2559 พลตำรวจตรี ทนงศักดิ์ วังสุภา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองจิก จังหวัดปัตตานี และชุดทำลายวัตถุระเบิด หรืออีโอดี ของหน่วยเฉพาะกิจอโณทัย ได้เข้าตรวจสอบบริเวณคูน้ำกลางถนน ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 43 หาดใหญ่-ปัตตานี ท้องที่หมู่ 6 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก หลังรับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบวัตถุต้องสงสัย 2 ชิ้น เป็นท่อเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 นิ้ว ยาวประมาณ 120 เซนติเมตร ปลายแหลมมน ลักษณะคล้ายหัวจรวด วางอยู่บนกระเบื้องหลังคาที่พาดเอียงกับแนวลาดของคูน้ำกลางถนน ตรวจสอบแล้วเป็นวัตถุระเบิดที่สามารถระเบิดได้ มีระบบจุดระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร เจ้าหน้าที่จึงเก็บกู้เอาไว้ได้อย่างปลอดภัย
สำหรับวิทยุสื่อสารที่คนร้ายใช้จุดระเบิด เป็นวิทยุสื่อสารแบบวอล์คกี้ ทอล์คกี้ ยี่ห้อ BAOFENG ใช้ย่านความถี่ 400-470 MHz มี 16 ช่องความถี่ ระยะรับส่ง 3-5 กิโลเมตร โดยวิทยุสื่อสารแบบนี้ ไม่เคยพบใช้ในการจุดระเบิดมาก่อนในพื้นที่ชายแดนใต้
สอบสวนเพิ่มเติมทราบว่า วัตถุต้องสงสัยดังกล่าวนี้ เดิมมีอยู่ 5 ลูก แต่ได้เกิดระเบิดไปแล้วจำนวน 3 ลูกเมื่อกลางดึกของวันอาทิตย์ที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา เพราะมีผู้ได้ยินเสียง แต่ไม่พบร่องรอยการระเบิด กระทั่งวันนี้มีผู้พบเห็นวัตถุต้องสงสัยแบบเดียวกันอีก 2 ลูก จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ และทำการเก็บกู้ดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่อีโอดี ให้ข้อมูลว่า วัตถุต้องสงสัยนี้เป็นระเบิดอย่างแน่นอน และลักษณะของหัวระเบิดคล้ายจรวดนี้ เพิ่งพบเป็นครั้งแรกในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อว่าระเบิดถูกประกอบขึ้นเป็นหัวจรวดเพื่อยิงหวังผลในระยะไกล และจากลักษณะของกระเบื้องมุงหลังคาที่พบ คาดว่าคนร้ายวางไว้เป็นฐานประกอบกับระเบิด สำหรับยิงไปข้างหน้า คล้ายการทำงานของบั้งไฟ ทั้งนี้ จุดที่พบวัตถุระเบิดอยู่ใกล้กับสนามบินบ่อทอง หรือ ท่าอากาศยานปัตตานี ซึ่งเป็นท่าอากาศของทหาร และใช้เป็นจุดขึ้น-ลงของเครื่องบินผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่เดินทางลงพื้นที่
ที่แท้ "จรวดแสวงเครื่อง" คาดอยู่ช่วงทดลอง
แหล่งข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด เปิดเผยว่า การพบวัตถุระเบิดที่มีลักษณะเป็นท่อคล้ายหัวจรวดนั้น จากการตรวจสอบได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า เป็นจรวดแสวงเครื่อง (improvised rocket ) มีหลักการเดียวกับหัวจรวดที่ใช้ยิงเพื่อทำลายเป้าหมาย
สำหรับจรวดแสวงเครื่องที่พบนี้ ลักษณะเป็นหัวจรวดที่ประกอบขึ้นเอง ในพื้นที่ และถือเป็นครั้งแรกที่พบวัตถุระเบิดรูปแบบนี้ คาดว่าเป็นการทดลองประกอบและทดลองใช้ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง
นอกจากนั้น ยังมีประเด็นน่าสังเกตถึงจุดที่พบหัวจรวดแสวงเครื่อง กับทิศทางการยิง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเล็งไปที่สนามบินบ่อทอง แต่เบื้องต้นเชื่อว่าแม้จะพี่งเป้ายิงไปจริง แต่จากระยะที่พบหัวจรวดไปถึงสนามบินบ่อทอง ก็ถือว่าค่อนข้างไกล และแม้จะมีข้อมูลว่าคนร้ายยิงไปแล้ว 3 ลูกก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่พบหัวจรวดตกในพื้นที่สนามบินบ่อทอง ฉะนั้นหัวจรวดที่พบ โดยศักยภาพน่าจะยิงได้ในระยะใกล้ คิดว่าคงไม่ได้หวังผลเรื่องการทำลายล้าง แค่ต้องการก่อเหตุป่วนมากกว่า
"หากจะบอกให้ได้ชัดว่า จรวดแสวงเครื่องที่พบมีวัตถุประสงค์อะไร มุ่งยิงไปที่ไหน อย่างไร คงต้องมีการผ่าตรวจสอบอย่างละเอียดถึงองค์ประกอบและโครงสร้างภายในของจรวดแสวงเครื่องก่อนว่าโครงสร้างในการขับเคลื่อนและหัวจรวดเป็นระเบิดแบบตกกระทบหรือไม่ โดยการทำงานของจรวดแสวงเครื่องจะขึ้นอยู่กับ น้ำหนัก ชนิดของดินระเบิด ปริมาณดินระเบิดในส่วนขับเคลื่อน และมุมยิง หากทราบรายละเอียดเหล่านี้ ถึงจะทราบวัตถุประสงค์ของการยิงจรวดแสวงเครื่องที่พบว่าถูกนำมาใช้ทำอะไร"
ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด บอกด้วยว่า จรวดแสวงเครื่องลักษณะนี้ มีพบในต่างประเทศ โดยเฉพาะในแถบตะวันออกกลาง ใช้กันแพร่หลายในกลุ่มผู้ก่อการร้าย ซึ่งรูปแบบก็จะเปลี่ยนไปตามวัสดุหรือการดัดแปลงของผู้ประกอบจรวด ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว บางกรณีที่พบมีการดัดแปลงใช้ถังแก๊สเป็นส่วนของหัวระเบิดก็มี เชื่อว่าคนร้ายน่าจะไปดูแบบจากต่างประเทศ แล้วนำมาทดลองประกอบ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 จรวดแสวงเครื่องที่พบเป็นครั้งแรกในพื้นที่ชายแดนใต้
2 ท่าอากาศยานปัตตานี หรือ สนามบินบ่อทอง
ขอบคุณ : ภาพจรวดแสวงเครื่อง จากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจที่เกิดเหตุ