แรงกระเพื่อมหลังเลือกตั้ง...เพื่อไทยร้องนับใหม่ เปิดตัว 2 ว่าที่ ส.ส.ปัตตานีโค่น ปชป.
ความเคลื่อนไหวที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ภายหลังการเลือกตั้งใหญ่ผ่านพ้นไป มีผู้สมัครคนดังจากพรรคเพื่อไทย จ.ยะลา ยื่นคำร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัด (กกต.จังหวัด) นับคะแนนใหม่ เพราะพ่ายไปแค่หลักสิบ ขณะที่ “ทีมข่าวอิศรา” เปิดตัวว่าที่ ส.ส.ใหม่จากปัตตานี 2 เขตที่สามารถเบียดแทรกผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ที่เข้าวินมาเป็นแผงได้สำเร็จ ส่วนสถานการณ์ความรุนแรงยังคงเกิดขึ้นบ้างประปราย
วันจันทร์ที่ 4 ก.ค.2554 หลังปิดหีบนับคะแนนเสียงเลือกตั้งเพียง 1 วัน นายซูการ์โน มะทา ผู้สมัคร ส.ส.ยะลา เขต 2 พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด บริเวณชั้น 2 อาคารศาลากลางจังหวัดยะลาหลังเก่า เพื่อร้องขอให้ตรวจนับคะแนนใหม่ เพราะเขามีคะแนนตามหลัง นายอับดุลการิม เด็งระกีนา ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 เพียง 48 คะแนนเท่านั้น
นายซูการ์โน กล่าวว่า การนับคะแนนที่เขตเลือกตั้งที่ 2 มีข้อสังเกตหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังปิดหีบเลือกตั้ง และนับคะแนนไปได้ระยะหนึ่ง สื่อบางสื่อได้นำเสนอข่าวออกไปว่าเขาแพ้เลือกตั้งแล้วกว่า 500 คะแนน แต่จากการตรวจสอบผลต่างของคะแนน ทราบว่ามีคะแนนตามหลังคู่แข่งจากพรรคประชาธิปัตย์เพียง 48 คะแนนเท่านั้น จึงมีข้อสงสัยว่าในกระบวนการนับคะแนน หรือการพิจารณาบัตรดี-บัตรเสีย จะมีผลต่อการประกาศคะแนนหรือไม่ โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นยังพบว่าเขตนี้มีบัตรเสียจำนวนมาก และมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา คือกว่า 9 พันใบ
“จุดนี้ถือเป็นข้อสังเกตว่าการเลือกตั้งและการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.ยะลา ส่อไปในทางที่ไม่โปร่งใส จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรม เพื่อให้ระงับการประกาศผลการเลือกตั้งในเขตนี้ไว้ก่อน และนับคะแนนใหม่” นายซูการ์โน กล่าว
อนึ่ง นายซูการ์โน มะทา เป็นน้องชายแท้ๆ ของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีต ส.ส.หลายสมัย รัฐมนตรีหลายกระทรวง และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกว้างขวางและมีบารมีอย่างมากในพื้นที่ โดยนายซูการ์โนถือเป็นผู้สมัครความหวังของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อพลาดท่าส่อว่าจะสอบตก ทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ ส.ส.ในพื้นที่นี้เลยแม้แต่คนเดียว
“มาตุภูมิ-ภูมิใจไทย”ปักธงปัตตานี
สำหรับผลการเลือกตั้งที่เรียกเสียงฮือฮาอย่างมากคือที่ จ.ปัตตานี ซึ่งมีเขตเลือกตั้ง 4 เขต ปรากฏว่าผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ถึง 2 เขต ปิดกับ จ.นราธิวาส ที่กวาดหมดทั้ง 4 เขต และ จ.ยะลา ก็ได้รับชัยชนะหมดทั้ง 3 เขต
โดยในเขต 3 ปัตตานี นายอนุมัติ ซูสารอ ผู้สมัครหน้าใหม่จากพรรคมาตุภูมิ ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 คือ 27,142 คะแนน ส่วนเขต 4 ปัตตานี คะแนนสูสีกันถึง 3 คนจาก 3 พรรค ตาย นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ผู้สมัครม้ามืดจากพรรคภูมิใจไทย ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 คือ 21,510 คะแนน ตามด้วย นายซาตา อาแวกือจิ จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 19,735 คะแนน และ นายมุข สุไลมาน จากพรรคมาตุภูมิ ได้ 19,718 คะแนน
ชัยชนะของพรรคการเมืองอื่นที่ไม่ใช่ประชาธิปัตย์จากทั้ง 2 เขต ทำให้พรรคมาตุภูมิกับพรรคภูมิใจไทยซึ่งเพิ่งผ่านสนามเลือกตั้งใหญ่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก จึงนับว่าได้แจ้งเกิดในพื้นที่ปลายสุดด้ามขวาน
เปิดตัว 2 ว่าที่ ส.ส.โค่น ปชป.
นายอนุมัติ ซูสารอ ว่าที่ ส.ส.ปัตตานี เขต 3 จากพรรคมาตุภูมิ อายุ 60 ปี จบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นชาว ต.ควน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เคยเป็นกำนัน ต.ควน นาน 7 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ควน 2 สมัย สมาชิกสภาจังหวัด เขต อ.ปะนาเระ 2 สมัย เป็นประธานชมรมนายก อบต.ปัตตานีและเป็นบิดาของ นายยุสรี ซูสารอ อดีต ส.ส.พรรคเพิ่อแผ่นดิน ในการเลือกตั้งปี 2550
นายอนุมัติ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ประชาชนให้การสนับสนุนจนได้เป็น ส.ส. ถึงแม้จะเป็น ส.ส.สมัยแรกและเป็นคนเดียวของพรรคมาตุภูมิในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็ไม่มีปัญหาในการทำงาน เพราะมีประสบการณ์เคยเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมาก่อน
สิ่งที่จะทำเป็นอันดับแรก คือ การสร้างความสงบสุข ลดความวุ่นวายในพื้นที่ โดยจะพยายามหาวิธีการเพื่อสร้างความปรองดองระหว่างพี่น้องไทยพุทธกับมุสลิมให้เกิดความรักความเข้าใจกันมากขึ้น
ส่วน นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ว่าที่ ส.ส.ปัตตานี เขต 4 จากพรรคภูมิใจไทย เป็นชาว ต.สะบารัง อ.เมืองปัตตานี อายุ 45 ปี เป็นหลานของนายวิไล เบ็ญจลักษณ์ อดีต ส.ส.ปัตตานี
นายสมมุติ มีอาชีพทนายความ จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัด (ส.จ.) เขต อ.เมืองปัตตานี เป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปัตตานี เป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน และเคยเป็นที่ปรึกษา นายมั่น พัธโนทัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ด้วย
นายสมมุติ กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจมากที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ ทุกคะแนนที่เลือกมาถือเป็นกำลังใจในการทำงาน และคิดว่าจะไม่มีปัญหาในการทำงาน เพราะมีความพร้อมสำหรับการทำงานร่วมกับทุกคน ทุกพรรค ถึงแม้จะเป็นพรรคตรงข้ามหรือไม่ได้ร่วมรัฐบาลก็ไม่เป็นปัญหา จะทำงานในพื้นที่อย่างเต็มที่ต่อไป
“เนื่องจากเป็น ส.ส.สมัยแรก ผมคงต้องศึกษาทำความเข้าใจพื้นที่ ตลอดจนบทบาทหน้าที่เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนก่อน แต่แน่นอนว่าต้องเน้นสร้างความสงบสุขและสันติภาพ โดยเสนอรูปแบบการแก้ไขปัญหาต่อรัฐบาล” นายสมมุติ ระบุ
คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ ปชป.นำโด่ง
สำหรับผลคะแนนในระบบบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ได้ 158,102 คะแนน พรรคมาตุภูมิได้ 51,836 คะแนน พรรคเพื่อไทยได้ 23,245 คะแนน พรรคภูมิใจไทยได้ 23,172 พรรคแทนคุณแผ่นดินได้ 11,163 คะแนน พรรคประชาธรรมได้ 5,301 คะแนน พรรครักประเทศไทยได้ 3,032 คะแนน พรรคชาติไทยพัฒนาได้ 2,185 และพรรคพลังชลได้ 2,178 คะแนน
ใต้ป่วนวางบึ้มลวงก่อนระเบิดจริง-ตูมสนั่นเจ็บ 3
ด้านสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย ที่หนักที่สุดคือเหตุการณ์วางระเบิดลวงก่อนบึ้มซ้ำ ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี ได้รับบาดเจ็บเจ็บ 3 นาย
โดยเมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 4 ก.ค. เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดหน่วยเฉพาะกิจอโณทัยได้รับแจ้งเหตุพบวัตถุต้องสงสัยบนทางหลวงหมายเลข 4066 (สาวอ-จะกว๊ะ) ท้องที่บ้านตาโละ บ้านย่อยบ้านจือแร หมู่ 3 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบปี๊บขนมปังขนาดเล็กพันด้วยเทปกาวสีเหลืองติดไว้บนเสาไฟฟ้า จึงใช้ปืนยิงทำลาย จากนั้นจึงเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด พบเป็นเพียงปี๊บบรรจุทราย มีหน้ากากโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหนึ่ง และแผงวงจรเก่า ไม่มีวัตถุระเบิดแต่อย่างใด
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบพื้นที่โดยรอบเสาไฟฟ้า พบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในท่อพีวีซี เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว โดยมีกิ่งไม้ปิดไว้ จึงได้ยิงทำลายอีกครั้งด้วยปืนน้ำแรงดันสูง แต่ระเบิดไม่ได้ถูกทำลาย เจ้าหน้าที่จึงเตรียมใช้ดินระเบิด ทว่าระหว่างที่เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีถอยออกมา ได้เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องอีกลูกหนึ่งที่คนร้ายวางเอาไว้ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย คือ ร.อ.ชาล์ ศิริวรรณยา อาการสาหัส จ.ส.อ.ประยงค์ อั้นเท่ห์ อายุ 40 ปี และ จ.ส.อ.ศิริวัณญ์ จารุสาร อายุ 51 ปี
วันอังคารที่ 5 ก.ค.เวลา 20.35 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายมะซอเร สิรอมา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/2 หมู่ 3 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนในหมู่บ้านบาโง หมู่ 4 ต.บาโงสะโต เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
ทหารรุกปิดล้อม 2 วัน 3 จุดรวบ 6 ผู้ต้องสงสัย
ด้านผลปฏิบัติการของฝ่ายความมั่นคง เมื่อวันพุธที่ 6 ก.ค.หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 26 ร่วมกับตำรวจ สภ.สายบุรี เข้าจับกุม นายอัมรัม ยะสีงอ อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 1 ต.ลุโบะสาวอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ผู้ต้องหาตามหมายจับลงวันที่ 17 พ.ค.2553 ของ สภ.ยี่งอ จ.นราธิวาส คดีฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 133 บ้านจ่ากอง หมู่ 6 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
บ่ายวันเดียวกัน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 พร้อมด้วยกำลังทหารหลัก และตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา เข้าพิสูจน์ทราบที่บ้านบือราเป๊ะ หมู่ 7 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา และปิดล้อมตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 7 ต.บันนังสตา โดยมี น.ส.ซาดีนา อาลีมามะ แสดงตนเป็นผู้ครอบครองสถานที่
ทั้งนี้ ระหว่างเข้าตรวจค้นมีบุคคลวิ่งหนีออกจากบ้าน จากการสอบถาม น.ส.ซาดีนา ทราบว่าคนที่วิ่งหลบหนีไปคือ นายอาหะมะ มะแตหะ สามีของนางเอง ซึ่งเป็นบุคคลตามเป้าหมายของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นจึงตรวจยึดรถจักรยานยนต์ อาวุธปืนพกขนาด .38 เครื่องกระสุน และโทรศัพท์มือถือไปตรวจสอบ พร้อมเชิญตัว น.ส.ซาดีนา ไปซักถามที่ สภ.บันนังสตา และได้ปล่อยตัวกลับบ้านในเวลาต่อมา
บ่ายวันอังคารที่ 5 ก.ค. หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 นำกำลังเข้าพิสูจน์ทราบที่บ้านเลขที่ 82/1 บ้านบือเระ หมู่ 1 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และสามารถควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยได้ 4 ราย คือ 1.นายมะธาฮา ยะสีงอ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 1 ต.ลุโบะสาวอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส มีหมายจับคดีอาญา 2.นายอาดา เจ๊ะเลาะ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/2 หมู่ 4 ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี 3.นายรอบี อาบุหลง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 5 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เคยถูกออกหมาย พ.ร.ก. (ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548) เมื่อปี 2553 ส่วนอีกรายหนึ่งเป็นเยาวชน พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้นขนาด .357 เครื่องกระสุน และรถจักรยานยนต์ ทั้งนี้ ได้ส่งตัวบุคคลทั้ง 4 เข้ากระบวนการซักถาม และได้ส่งตัวเยาวชนกลับภูมิลำเนาแล้ว
อาชญากรรมพุ่ง-ฆ่าทิ้งศพ 2 รายคาดชนวนยาเสพติด
ส่วนคดีอาชญากรรมที่ยังไม่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบหรือไม่ ก็เกิดขึ้นอีกหลายเหตุการณ์ โดยเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 7 ก.ค. พบศพชายไทยไม่ทราบชื่อบริเวณริมถนนบ้านชอมอง หมู่ 11 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส สภาพศพถูกยิงบริเวณศีรษะ 1 นัด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ากว่า 5 ชั่วโมง ค้นตัวพบยาบ้า 1 เม็ด ใกล้ๆ ศพมีรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่ด้วย 1 คัน เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานเป็นการสังหารเพราะเหตุขัดแย้งส่วนตัวหรือปมยาเสพติด
เช้าวันจันทร์ที่ 4 ก.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา รับแจ้งพบศพลอยลอยอยู่ในแม่น้ำปัตตานี บริเวณบ้านบาโงยบาแด หมู่ 5 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบเป็นศพชายไทยสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ บริเวณลำคอมีรอยถูกเชือดด้วยของมีคมจนหลอดลมขาด เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบร่องรอยการต่อสู้ มีกระเป๋าใส่สตางค์ตกอยู่พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน 2 ใบ บัตรของผู้ตายระบุชื่อ นายอับดุลรอมัน สะแลแม อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/3 หมู่ 4 บ้านควนนางา ต.ปุโรง อ.กรงปินัง จ.ยะลา ส่วนอีกใบเป็นของเยาวชนอายุ 19 ปีจาก อ.กรงปินังเช่นกัน นอกจากนั้นยังพบกระดาษห่อยาบ้า 1 เม็ด จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายกับคนร้ายเป็นเพื่อนกัน นัดกันมาตกลงเรื่องธุรกิจผิดกฎหมาย แต่ตกลงกันไม่ได้ พวกคนร้ายจึงรุมชกต่อยและใช้ของมีคมปาดคอจนขาดใจตาย ก่อนช่วยกันทิ้งศพลงแม่น้ำ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 นายซูการ์โน มะทา ผู้สมัคร ส.ส.ยะลา เขต 2 ยื่นหนังสือต่อ กกต.จังหวัด ขอให้นับคะแนนเลือกตั้งใหม่
2 นายอนุมัติ ซูสารอ กับ นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์