ผู้เชี่ยวชาญฟันธง "ถังแก๊สอิ่มอุ่น" ไม่ช่วยลดอันตรายบึ้มใต้
ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดระบุว่า ถังแก๊ส "อิ่มอุ่น" ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เห็นชอบให้เป็นโครงการนำร่องใช้ถังแก๊สจากวัสดุคอมโพสิต หรือใยแก้วผสมเรซิน แทนถังแก๊สที่เป็นเหล็ก โดยหวังลดความเสี่ยงจากการที่คนร้ายนำถังแก๊สแบบเหล็กไปดัดแปลงเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่มีความร้ายแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น แท้ที่จริงแล้วแทบจะไร้ผลในแง่ลดความรุนแรงของระเบิด
"ถังแก๊สอิ่มอุ่นไม่ได้ช่วยให้คนร้ายเอาไปทำระเบิดไม่ได้ ผลการทดสอบก็บอกอยู่แล้วว่าเอาไปทำระเบิดแสวงเครื่องได้ ส่วนอำนาจการระเบิดและความรุนแรงของระเบิดขึ้นอยู่กับปริมาณดินระเบิดที่บรรจุเข้าไปในถัง ฉะนั้นหากคนร้ายนำถังแก๊สอิ่มอุ่นไปใช้ทำระเบิด แรงระเบิดก็ไม่ได้ลดลง ใส่ดินระเบิดเข้าไปเท่าไหร่ก็ระเบิดเท่านั้น ไม่ต่างกับถังแก๊สแบบเดิมๆ"
ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดรายนี้ บอกว่า สิ่งที่แตกต่างจากถังแก๊สแบบเหล็กมีเพียงอย่างเดียว คือ สะเก็ดระเบิดที่เกิดจากตัวถังแก๊ส (หลังถูกแรงอัดของดินระเบิด) หากเป็นถังเหล็ก เศษของตัวถังก็เป็นสะเก็ดระเบิดที่ทำอันตรายได้มาก แต่ถังแก๊สอิ่มอุ่น สะเก็ดของมันจะเป็นชิ้นเล็กๆ มีอันตรายน้อยกว่าถังเหล็ก
"ความแตกต่างมีแค่ตรงนี้เท่านั้น ถามว่าหากคนร้ายเอาไปทำระเบิดแสวงเครื่องจะปลอดภัยกว่าถังแบบเก่าหรือไม่ คำตอบคือไม่ เพราะเมื่อเอาไปทำระเบิด มันก็คือระเบิด ความอันตรายมันก็ยังมีอยู่ เมื่อตัวถังไม่มีสะเก็ด คนร้ายก็ทำสะเก็ดใส่เข้าไปได้ เหมือนระเบิดแสวงเครื่องชนิดอื่นๆ ที่เอาเหล็กเส้นตัดท่อนมาเป็นสะเก็ด ก็ทำให้เกิดความรุนแรงเสียหายได้เหมือนเดิม"
อนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 12 ก.ย. จะมีพิธีมอบถังแก๊สอิ่มอุ่นจำนวน 100 ถัง ให้ กอ.รมน.นำไปใช้ประโยชน์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ห้องรับรองภายในกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) โดยมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ รมน.เป็นผู้รับมอบ
ที่มา "ถังแก๊สอิ่มอุ่น" กับ 3 บททดสอบ
สำหรับถังแก๊สอิ่มอุ่น ผลิตโดย บริษัท พีเอพี แก๊สแอนด์ออยล์ จำกัด ที่ผ่านมากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) โดยหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย ได้ดำเนินการทดสอบและประเมินผลตัวถังบรรจุแก๊ส "อิ่มอุ่น" ใน 3 ลักษณะ ได้แก่
1.ทดสอบโดยการยิงด้วยกระสุนปืนชนิดและขนาดต่างๆ ทั้งถังเปล่าและถังบรรจุแก๊ส ผลการทดสอบพบว่าสามารถยิงทะลุผ่านถังเปล่าและถังบรรจุแก๊ส
2.ทดสอบโดยการระเบิดด้วยแท่งดินระเบิด ขนาด 1 และ 1/4 ปอนด์ ผลการทดสอบสามารถทำให้เกิดการระเบิดได้เช่นเดียวกับถังบรรจุแก๊สแบบเหล็ก แต่มีส่วนที่คงรูปเหลือมากกว่า และมีรัศมีการกระจายเล็กน้อย
3.ทดสอบโดยการบรรจุวัตถุระเบิดชนิดแสวงเครื่อง ANFO น้ำหนัก 25 กิโลกรัม ผลการทดสอบพบว่าเมื่อทำการจุดระเบิดจากภายใน (บรรจุวัตถุระเบิดไว้ภายในถัง) สามารถเกิดการระเบิดได้เช่นเดียวกับถังบรรจุแก๊สแบบเหล็ก แต่สะเก็ดระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นขนาดชิ้นเล็ก มวลเบา ไม่สามารถกระเด็นได้ไกล ไม่เป็นอันตรายเหมือนถังบรรจุที่เป็นเหล็ก
อย่างไรก็ดี ถังแก๊สอิ่มอุ่นนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ บริษัท พีเอพี แก๊สแอนด์ออยล์ กำลังทำตลาดอยู่แล้ว เปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2555 โดยผลิตถังแก๊สแบบใหม่ที่มีน้ำหนักเบาเพียง 18 กิโลกรัม ออกแบบเป็นรูปตุ๊กตาน่ารัก หุ้มด้วยโพลียูริเทนสีสันสดใส (สีชมพู) เพื่อใช้แทนถังแก๊สเหล็กแบบเก่าซึ่งมีน้ำหนักถึง 31 กิโลกรัม ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทำถังแก๊สให้เหมือนเป็นของตกแต่งบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์ในครัว แทนที่จะมองเห็นเป็นวัสดุแปลกปลอมที่เป็นอันตราย
ยิงหมอประจำตำบลสาหัสที่รามัน
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นประปราย เมื่อเวลา 00.05 น.วันจันทร์ที่ 9 ก.ย.2556 พ.ต.อ.อุทัย ทิพย์เสภา ผู้กำกับการ สภ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งจากชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านพอแม็ง ต.กายูบอเกาะ ว่าเกิดเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย บริเวณสะพานแห่งหนึ่งบนถนนสายกาบู-สาเมาะ ท้องที่หมู่ 4 บ้านพอแม็ง จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดเสียหลักอยู่ข้างทาง สภาพรถเต็มไปด้วยคราบเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บมีชุดกู้ชีพกู้ภัยกายูบอเกาะนำส่งโรงพยาบาลรามันแล้ว แต่อาการสาหัส แพทย์ต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา อ.เมืองยะลา ทราบชื่อคือ นายซะอุดิง สาและเร๊ะ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 4 ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน เป็นแพทย์ประจำตำบลกายูบอเกาะ
สอบสวนทราบว่า ขณะที่ นายซะอุดิง กำลังขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้ากลับบ้านหลังเข้าเวรที่ป้อมจุดตรวจของ ชรบ.บ้านพอแม็ง ได้ถูกคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนซึ่งซ่อนตัวในป่าละเมาะข้างทาง ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่หลายนัด กระสุนถูกนายซะอุดิงได้รับบาดเจ็บดังกล่าว จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายซะอุดิง เคยถูกลอบยิงมาแล้วถึง 2 ครั้งแต่รอดชีวิตมาได้ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่การสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
ยิงรายวันไม่มีหยุด-ชรบ.ดับที่บันนังสตา
เวลา 18.05 น.วันเดียวกัน คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายนิฮารน ดูมา อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/4 ถนนโต๊ะลือเบ ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงงานไม้วัลนภา ขณะที่ นายนิฮารน กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน โดยใช้ถนนโต๊ะลือแบ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ก.ย. เวลา 19.35 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายมาดือรู หะสีแม อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 6 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะนายมาดือรูกำลังนั่งอยู่บนแคร่หน้าบ้านของภรรยา เลขที่ 65 บ้านบือเจาะบองอ หมู่ 7 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว
วันเสาร์ที่ 7 ก.ย.เวลา 19.55 น. คนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายอัมรา ผดุง อายุ 23 ปี เป็น ชรบ. อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 4 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา จนเสียชีวิต เหตุเกิดขณะที่นายอัมราขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (ยะลา-เบตง) บริเวณหน้ามัสยิดบ้านบันนังกูแว หมู่ 4 ต.บันนังสตา มุ่งหน้าไปเข้าเวรรักษาความปลอดภัยที่โรงเรียนบ้านบันนังกูแว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ปิดล้อมที่ยะหารวบผู้ต้องหาคนสำคัญ
ด้านการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 7 ก.ย.ต่อเนื่องวันอาทิตย์ที่ 8 ก.ย. พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการสลาตัน (จ.ยะลา) ได้สนธิกำลังร่วมกับทหารพรานและตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) จำนวน 30 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมาย เลขที่ 114/5 หมู่ 2 ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา หลังจากสืบทราบว่ามีบุคคลตามหมายจับในคดีความมั่นคงเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่
ผลการปิดล้อมตรวจค้น เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว นายมูบาเร๊าะห์ อาบู อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 185 หมู่ 7 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส มีหมายจับ ป.วิอาญา (ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา) 1 หมาย โดยข้อมูลทางการข่าวเชื่อว่า นายมูบาเร๊าะห์ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บุกเข้าตีฐานปฏิบัติการบ้านยือลอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ก.พ.2556 (กรณี นายมะรอโซ จันทรวดี ถูกวิสามัญฆาตกรรมพร้อมพวกรวม 16 ศพ) และเหตุรุนแรงอื่นๆ อีกหลายเหตุการณ์ โดยในการจับกุม เจ้าหน้าที่สามารถยึดเอกสารได้หลายรายการด้วย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 และ 3 ภาพการทดสอบประสิทธิภาพถังแก๊สอิ่มอุ่น บันทึกเป็นวีดีโอจากสนามทำลายวัตถุระเบิด กองคลังแสง กรมสรรพาวุธทหารบก จ.ราชบุรี
2 ภาพจากงานแถลงข่าวเปิดตัวถังแก๊สอิ่มอุ่นของ บริษัท พีเอพี แก๊สแอนด์ออยล์ จำกัด
ขอบคุณ : ภาพประกอบจาก http://pap-gas.com/index.php