แถลงหยุดยิงรอมฎอนล่ม บีอาร์เอ็นปัดร่วมวง ป้ายผ้าโจมตีรัฐพรึ่บ
โต๊ะแถลงหยุดยิงรอมฎอนล่มหลัง "บีอาร์เอ็น" ปัดร่วมวง ทั้งๆ ที่มาเลเซียเตรียมจัดงานใหญ่ เชิญตัวแทนรัฐบาลไทยนั่งจ้อสื่อ "ภราดร" รับเป็นการสั่งงดแบบกะทันหัน ยังไม่ทราบเหตุผล แต่ยืนยันข้อตกลงหยุดยิงยังเหมือนเดิม ย้ำหลัง 10 ก.ค.เกิดเหตุป่วนต้องระบุได้เป็นฝีมือฝ่ายไหนภายใน 48 ชั่วโมง ใต้ยังวุ่น มือมืดติดป้ายผ้าโจมตีรัฐพรึ่บ เลขาฯโอไอซีหนุนยุติรุนแรง
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์เมื่อเวลา 16.00 น.วันอังคาร 9 ก.ค.2556 ว่า ทางการมาเลเซียซึ่งเป็นผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ได้เลื่อนการแถลงยุติก่อเหตุรุนแรงในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งมีกำหนดจะแถลงเวลา 17.00 น.วันเดียวกันตามเวลาในประเทศมาเลเซีย
"ผมได้รับการประสานงานว่า เดิมผู้อำนวยความสะดวกระบุว่าจะมีการแถลงข่าวในเวลา 17.00 น.ที่ประเทศมาเลเซีย แต่ล่าสุดได้รับการประสานจากผู้อำนวยความสะดวกอีกครั้งว่าได้ของดการแถลงไปก่อน อย่างไรก็ตาม บรรยากาศและจุดยืนการหยุดยิงนั้นยังคงอยู่ เพียงแต่เรื่องแถลงข่าวไม่มีแล้ว ส่วนจะเลื่อนออกไปหรือจะไม่แถลงแล้วอยู่กับขั้นตอนการประสานงาน ในชั้นนี้เพียงแต่แจ้งของดการแถลงไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือเอกสาร"
พล.ท.ภราดร กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุผลที่งดการแถลงข่าวนั้น จากการประสานงานขั้นต้นยังไม่มีการแจ้งมา ซึ่งฝ่ายไทยยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่อย่างน้อยทางเลขาธิการองค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ได้ออกข่าวทางเว็บไซต์ของโอไอซีว่าเห็นด้วยและยินดีในการลดเหตุความรุนแรงในช่วงเดือนรอมฎอนซึ่งเป็นข้อตกลงของรัฐบาลไทยกับบีอาร์เอ็น
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการตั้งแง่ของกลุ่มก่อความไม่สงบหรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ถึงวันนี้ทั้งสองฝ่ายมีความปรารถนาดีที่จะลดเหตุรุนแรง แต่เมื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นมาต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีปัญหา แต่ไม่ใช่มาจากฝ่ายไทยแน่ เพราะเรายินดีเต็มที่ในมาตรการต่างๆ และได้แจ้งมาตรการทุกอย่างไปแล้ว ก็คงต้องรอฟังเหตุผล และยืนยันว่าไม่ใช่มาจากสาเหตุที่กองทัพไม่เห็นด้วยกับการพูดคุยกับบีอาร์เอ็น
เมื่อซักว่า หากวันที่ 10 ก.ค.ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นเดือนรอมฎอนยังคงเกิดเหตุรุนแรงขึ้น ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า เท่าที่มีการสื่อสารผ่านผู้อำนวยความสะดวกมา ยังได้รับการยืนยันจากฝ่ายบีอาร์เอ็นว่าถ้ามีการเกิดเหตุจะสามารถประสานผ่านผู้อำนวยความสะดวกเพื่ออธิบายได้ว่าเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากฝ่ายใด ซึ่งสองฝ่ายตกลงกันว่าจะต้องร่วมกันหาคำตอบให้ได้ภายใน 48 ชั่วโมง
"ผมเองยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าทำไมจึงงดการแถลงข่าว แต่เราก็ยังยืนยันในเจตนารมย์เดิมคือลดเหตุรุนแรงในช่วงเดือนรอมฎอนตามกรอบที่ได้มีการพูดคุยกันไว้ ระหว่างวันที่ 10 ก.ค.-18 ส.ค. มั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบกับข้อตกลง และเราจะจับสถิติเทียบกับช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นตัวบอกได้ว่าในช่วงรอมฎอนเหตุรุนแรงลดลงหรือไม่" เลขาธิการ สมช. กล่าว
อ้างไม่อยากออกสื่อ-"ทวี"หวิดเก้อ
แหล่งข่าวจากคณะพูดคุยฝ่ายไทย เปิดเผยว่า ทางการมาเลเซียได้เตรียมจัดแถลงข่าวยุติการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยในช่วงเดือนรอมฎอนอย่างเป็นทางการ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยได้เชิญตัวแทนฝ่ายบีอาร์เอ็นและฝ่ายไทยเข้าร่วมด้วย ซึ่งจะมี ดาโต๊ะ สรี อาห์มัด ซัมซามิน ฮาซิม อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติมาเลเซีย ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติภาพ เป็นประธานในการแถลง
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นตัวแทน โดยมีข่าวว่า พ.ต.อ.ทวี เตรียมจะขึ้นเครื่องบินเดินทางไปอยู่แล้ว แต่ได้รับแจ้งยกเลิกการแถลงข่าวเสียก่อน
แหล่งข่าวรายเดิมเผยอีกว่า เหตุผลของการยกเลิกการแถลงข่าวเป็นเพราะฝ่ายแกนนำบีอาร์เอ็นอ้างว่ายังไม่พร้อมออกสื่อ และขอรอดูมาตรการลดการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมของฝ่ายความมั่นคงไทยสักระยะหนึ่งก่อน
เลขาฯโอไอซีหนุนข้อตกลงหยุดยิง
เว็บไซต์ขององค์การความร่วมมืออิสลาม หรือโอไอซี รายงานว่า นายเอกเมเลดดิน อิซาโนกลู เลขาธิการโอไอซี ได้แสดงการตอบรับและยินดีกับการริเริ่มข้อตกลงหยุดยิงช่วงเดือนรอมฎอนระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้เห็นต่างชาวมุสลิมทางตอนใต้ของประเทศ หลังได้รับข้อมูลจากการพบปะกับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา
เลขาธิการโอไอซี กล่าวว่า ขอสนับสนุนการปฏิบัติตามหลักการสำคัญของข้อตกลงหยุดยิงในช่วงเดือนรอมฎอน และตั้งความหวังว่าการหยุดยิงจะนำไปสู่ความสงบสุข การพัฒนา และเพิ่มความเชื่อมั่นในการสร้างมาตรการเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยได้ในที่สุด โดยโอไอซีพร้อมจะเป็นหุ้นส่วนในกระบวนการสู่สันติภาพ ความปลอดภัย การพัฒนา และความสำเร็จใดๆ ที่จะทำให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยมีความสุข
อนึ่ง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เข้าเยี่ยมคารวะเลขาธิการโอไอซีที่ประเทศตุรกี ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับ พล.ท.ภราดร พ.ต.อ.ทวี และ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะคณะทำงานพูดคุยสันติภาพ
ป้ายผ้าโจมตีรัฐไทยพรึ่บสามจังหวัด
วันเดียวกัน ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ได้มีกลุ่มบุคคลลึกลับตระเวนติดป้ายผ้าและวางวัตถุต้องสงสัยตามสถานที่ต่างๆ รวมเกือบ 100 จุด โดยป้ายผ้าส่วนใหญ่มีขนาดยาว 3-5เมตร เขียนด้วยสีน้ำมันเป็นภาษามลายู อักษรรูมี แปลเป็นไทยว่า "ผู้ร้าย ผู้ทำลาย ผู้หลอกลวง ผู้ใส่ร้าย นักล่าอาณานิคมสยาม" นอกจากนั้นยังมีการพ่นสีเป็นข้อความลักษณะเดียวกันบนถนนในหมู่บ้านอีกหลายแห่งด้วย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันไปปลดป้ายผ้า ขณะที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดได้เร่งเก็บกู้วัตถุต้องสงสัย โชคดีที่ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นตามมา
สำหรับในพื้นที่ จ.ปัตตานี มีการแขวนป้ายผ้าและพ่นสีข้อความในพื้นที่ 8 อำเภอจาก 12 อำเภอ รวม 39 จุด และยังพบวัตถุต้องสงสัยอีก 8 จุด ทั้งหมดเป็นระเบิดปลอม ขณะที่ จ.นราธิวาส พบป้ายผ้าและพ่นสีข้อความบนถนนในพื้นที่ 9 อำเภอจาก 13 อำเภอ รวมประมาณ 42 จุด และ จ.ยะลา พบป้ายผ้าอีกจำนวนหนึ่ง
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 โต้ใครกันแน่หลอกลวง
ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ไม่หวังดีติดป้ายผ้าโจมตีรัฐไทยและขับไล่ทหารออกจากพื้นที่ว่า ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจว่า ความจำเป็นของการใช้กำลังพลเพื่อดูแลด้านความมั่นคงทุกรูปแบบนั้น ใช้กำลังทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร มีวัตถุประสงค์เพื่อดูแลปกป้องประชาชนและพื้นที่ให้ปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้หน่วยราชการต่างๆ สามารถเข้าไปพัฒนาพื้นที่ได้ ฉะนั้น กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าจะยังคงใช้กำลังตามหน้าที่ต่อไปตราบใดที่ยังมีความรุนแรงในพื้นที่อยู่
"เจ้าหน้าที่รัฐไม่เคยใช้ความรุนแรงในพื้นที่ แต่ปฏิบัติอยู่ภายใต้หลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัดเสมอมา มุ่งบังคับใช้กฎหมายต่อบุคคล กลุ่มบุคคลที่ใช้ความรุนแรงต่อพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อส่งเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่สร้างสถานการณ์แล้วโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่รัฐ ถือเป็นการกระทำที่กลับกลอก หลอกลวง เชื่อถือไม่ได้ พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุรุนแรงต่างหากที่ตรงกับข้อความที่ปรากฏบนป้ายผ้า" พ.อ.ปราโมทย์ ระบุ
รวบอดีตทหารเกณฑ์พร้อมกล้องเล็งติดปืน
ที่ จ.นราธิวาส เวลาประมาณ 05.30 น.วันอังคารที่ 9 ก.ค. พ.อ.ธนิต แสงจันทร์ หัวหน้าชุดสลาตัน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้สนธิกำลังร่วมกับ พ.ท.สฐิรพงษ์ อาจหาญ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 อาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึกบุกเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายในพื้นที่บ้านยือแรตีงี หมู่ 1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่าอาจมีแนวร่วมก่อความไม่สงบเข้าไปหลบซ่อนตัวเพื่อก่อเหตุรุนแรงช่วงรอมฎอน
ผลการปิดล้อมตรวจค้น สามารถจับกุม นายดุลเนีย แวหะมิ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่มีหมายจับ 3 หมาย อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 7 บ้านสโลว์บูกิตจือแร ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ขณะซ่อนตัวอยู่ในบ้านเช่าหลังหนึ่ง พร้อมยึดยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ เช่น อาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม.จำนวน 1 กระบอก ลูกประคำ กล้องเล็งติดปืน เข็มขัดสนาม เปลสนาม กระเป๋าคาดเอว เวชภัณฑ์ โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ซิมโทรศัพท์ นาฬิกาข้อมือ เสื้อลายพราง แผงวงจรไฟฟ้า และเป้าสอนการยิงปืน เป็นต้น เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดยุทโธปกรณ์ทั้งหมดไปตรวจสอบ พร้อมคุมตัวนายดุลเนียไปสอบปากคำที่หน่วยเฉพาะนราธิวาส 30 เบื้องต้นนายดุลเนียอ้างว่าเป็นอดีตทหารเกณฑ์ และยุทโธปกรณ์ดังกล่าวเป็นของตนเองซึ่งได้มาตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นทหาร
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 เจ้าหน้าที่ทหารตระเวนปลดป้ายผ้าเขียนข้อความโจมตีรัฐไทย
2 ข้อความบนป้ายผ้าเป็นภาษามลายู เขียนด้วยอักษรรูมี