เวทีอิหม่ามแนะ "หยุดยิง" เดือนรอมฎอน สรุปเหตุป่วนใต้ยังเพียบ
เวทีอิหม่ามนราธิวาสเสนอเลขาฯสมช.ยื่นข้อเรียกร้องบีอาร์เอ็น "หยุดยิง" ช่วงเดือนแห่งการถือศีลอด ส่วน 5 ข้อบีอาร์เอ็นรับได้บางข้อ ไม่เอานิรโทษผู้ต้องขังคดีความมั่นคงยกล็อต สถานการณ์ในพื้นที่ยังป่วนต่อเนื่อง บึ้ม 2 จุดซ้อน 2 อำเภอ ยิง อส. คนสาธารณสุขโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดับ ดักระเบิดรถนายอำเภอรอดหวิว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่บุกทลายโรงพยาบาลสนาม-แหล่งประกอบระเบิดกลุ่มก่อความไม่สงบ
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ยังคงจัดเวทีอย่างต่อเนื่องเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนกลุ่มต่างๆ ต่อการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่จะมีขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งที่ 3 ในวันที่ 13 มิ.ย.2556
โดยล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. เป็นเวทีรับฟังความคิดเห็นจากโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดจำนวน 634 แห่งในพื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ที่หอประชุมบรมราชกุมารี คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์ราชการจังหวัดนราธิวาส ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ทั้งนี้มี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.ร่วมรับฟัง
ภายในงานได้มีการแจกกระดาษเอ 4 ให้อิหม่ามเขียนความเห็นเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของบีอาร์เอ็นทั้ง 5 ข้อ สรุปความเห็นรวมๆ ได้ว่า อิหม่ามส่วนใหญ่เห็นด้วยและยอมรับให้มาเลเซียเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยในการเจรจา (mediator) แต่ข้อตกลงต่างๆ ต้องไม่รู้กันแค่ในวงจำกัด ส่วนที่ให้มีผู้สังเกตการณ์จากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน องค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) และองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) นั้น ยังไม่ยอมรับ เพราะต้องรู้เบื้องหน้าเบื้องหลังก่อนว่ามีนัยยะอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า เช่นเดียวกับข้อที่ให้ยอมรับว่าบีอาร์เอ็นเป็นองค์กรปลดปล่อย และเป็นตัวแทนของชาวปาตานีเพื่อพูดคุยเจรจากับรัฐไทย
สำหรับข้อเรียกร้องของบีอาร์เอ็นที่ให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีความมั่นคง และยกเลิกหมายจับทั้งหมดนั้น ไม่สามารถยอมรับได้
นอกจากนั้น ตัวแทนโต๊ะอิหม่ามทั้ง 634 มัสยิด ยังได้แสดงความคิดเห็นผ่าน นายอับดุลเร๊าะห์มาน อับดุลสมัด ประธานสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเสนอต่อเลขาธิการ สมช.เป็นกรณีพิเศษเพิ่มเติมอีก 1 ข้อ คือ สาระสำคัญของการพูดคุยเจรจาในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ทั้งสองฝ่ายควรถอยกันคนละก้าว เพื่อหาข้อยุติที่เป็นกลางและเป็นรูปธรรมในการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ และในช่วงเดือนรอมฎอน (เดือนแห่งการถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม) ที่จะมีขึ้นในราววันที่ 7 ก.ค.2556 ถึง 7 ส.ค.2556 ขอให้เลขาธิการ สมช.ยื่นข้อเสนอกับฝ่ายบีอาร์เอ็นให้หยุดก่อเหตุร้ายเป็นเวลา 1 เดือน ข้อเรียกร้องแบบเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นในการสู้รบระหว่างอิรักกับอิหร่านมาแล้ว และทั้งสองฝ่ายก็ยอมสงบศึกช่วงเดือนรอมฎอน
ทั้งนี้ พล.ท.ภราดร ได้รับข้อเรียกร้องทั้งหมดของตัวแทนโต๊ะอิหม่าม ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เดือนรอมฏอนเป็นเดือนอันประเสริฐของพี่น้องทุกศาสนิก ไม่ใช่เฉพาะมุสลิม จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันทำความดี
อดีตผู้ต้องขังคดีความมั่นคงสังเวยอีก
ด้านสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมีเหตุรุนแรงรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ลดความถี่ลงบ้าง โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.2556 เวลา 02.15 น.ขณะที่ นายจรัญ พรหมขาวทอง และ นางสมจิตร ทองเต็ม สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 44/2 หมู่ 3 ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา กำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปกรีดยางพารา โดยมี นายสมภพ ปุปะกา หลานชาย ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปอีกคันนั้น เมื่อถึงถนนในหมู่บ้านสวนโอน หมู่ 6 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ นายจรัญ กับ นางสมจิตร แต่กระสุนพลาด ไม่โดนใคร เพียงแต่โดนรถจักรยานยนต์เสียหายเล็กน้อย จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
วันศุกร์ที่ 7 มิ.ย.เวลา 09.00 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายมะรอเซะ กายียุ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/2 บ้านบันนังดามา หมู่ 1 ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา เสียชีวิต เหตุเกิดขณะที่ นายมะรอเซะ กำลังยืนอยู่หน้าบ้านของตนเองซึ่งเปิดเป็นร้านขายข้าวยำ
ทั้งนี้ นายมะรอเซ มีประวัติเคยถูกจับกุมในคดีความมั่นคง และต่อสู้คดีอยู่ในชั้นศาล โดยกรณีของนายมะรอเซะนำมาสู่การร้องเรียนของกลุ่มอดีตผู้ต้องขังคดีความมั่นคงที่ศาลยกฟ้อง โดยร้องเรียนต่อศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพราะถูกยิงเสียชีวิตมาหลายรายแล้ว ล่าสุดได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบสวนเบื้องต้นให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
ยิง อส.ยะลาดับ – พนักงาน สธ.รือเสาะสิ้นชื่อ
วันศุกร์ที่ 7 มิ.ย.เช่นกัน เวลาประมาณ 15.50 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิง อาสารักษาดินแดน (อส.) การิม กะโด อายุ 38 ปี สังกัดกองร้อย อส.จังหวัดยะลา เคยเป็นคนขับรถให้อดีตผู้ว่าฯยะลา นายบุณยสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ ด้วย โดย อส.การิม อยู่บ้านเลขที่ 69/2 บ้านจ๊ะกือเละ หมู่ 3 ต.บันนังสาเรง อ.เมือง จ.ยะลา ถูกกระสุนปืนของคนร้ายจนเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะที่ อส.การิม กำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายบ้านตาลาเตะ-บ้านบันนังบูโย หมู่ 2 ต.บันนังสาเรง เพื่อไปรับลูกที่โรงเรียนบันนังบูโย เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่การสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
เวลา 18.30 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ขี่ตามประกบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ญว 1657 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมี นายอัสรัน มะดือเร๊ะ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 9 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เป็นคนขับ และมีเพื่อนๆ นั่งมาในรถและในกระบะท้าย หลังเสร็จจากการเตะฟุตบอลที่สนามขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) รือเสาะ
เมื่อสบโอกาสคนร้ายได้รัวกระสุนใส่ ทำให้ นายอัสรัน เสียชีวิต ส่วนนายไยรานี เจ๊ะแต อายุ 19 ปีที่นั่งคู่มาด้านหน้า ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายอัสรัน เป็นพนักงานสาธารณสุขของ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสโลว์บูกิตจือแร อ.รือเสาะ ที่เพิ่งบรรจุเข้าทำงานได้เพียงไม่กี่เดือน เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ระเบิด 2 ลูกซ้อน "โก-ลก – สุคิริน"
ช่วงค่ำของวันพุธที่ 5 มิ.ย.เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 จุดในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยจุดแรกคือบริเวณกระถางต้นไม้ หน้าร้านขายเครื่องสำอาง ตั้งอยู่เลขที่ 42 ถนนลูกเสืออนุสณ์ ซอย 5 ซึ่งเป็นร้านของ น.ส.พิมพ์พิชา ดำโข อายุ 48 ปี ครูโรงเรียนเทศบาล 3 จุดที่ 2 บริเวณถังขยะตรงข้ามร้านพัฒน์เนื้อกระทะ ห่างจากจุดแรกประมาณ 100 เมตร แต่ทั้ง 2 จุดไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอังคารที่ 4 มิ.ย.เวลาประมาณ 13.30 น.เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 จุดเช่นกันในเขตเทศบาลตำบลสุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส โดยจุดแรกเป็นร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือชื่อ มิเตอร์โฟน เลขที่ 179/1 หมู่ 4 ต.สุคิริน และจุดที่ 2 คือร้านขายของชำ ชื่อร้าน ช.พานิช เลขที่ 163 ห่างจากจุดแรกเพียง 30 เมตร แรงระเบิดทำให้เกิดเพลิงไหม้เสียหายหลายคูหา โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ในกระป๋องสีสเปรย์ จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาด้วยนาฬิกาแบบดิจิตอล
นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดอีก 3 ราย คือ นายมูฮัมหมัดรุสลัน อาลียะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 4 ต.สุคิริน นายมะซู หามะ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/4 หมู่ 5 ต.สุคิริน และ นางแมะหม๊ะ หามะ อายุ 55 ปี เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ดักบึ้มนายอำเภอยะรังรอดหวุดหวิด
วันอังคารที่ 4 มิ.ย.เช่นกัน เวลาประมาณ 13.30 น.คนร้ายจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊ส ฝังไว้ใต้ผิวถนนเลียบแม่น้ำปัตตานี ซึ่งเป็นถนนในหมู่บ้าน สายบ้านกอตอรานอ-บินยา ท้องที่หมู่ 2 บ้านกอตอรานอ ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อดักสังหาร นายสมนึก พรมขียว นายอำเภอยะรัง ขณะเดินทางไปร่วมงานมอบบ้านให้กับผู้ยากไร้ ที่มัสยิดบ้านกอตอรานอ ต.คลองใหม่ โดยมีรถกระบะหุ้มเกราะของ อส.เป็นรถนำขบวน ขณะที่รถของนายอำเภอที่ขับตามมาเป็นรถกันกระสุน โชคดีที่คนร้ายจุดชนวนระเบิดช่วงที่รถของ อส.ผ่านไปแล้ว แต่รถของนายอำเภอยังแล่นไม่ถึงจุดที่ฝังระเบิดไว้ ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
จากการตรวจจุดเกิดเหตุ พบสายไฟฟ้าลากยาวประมาณ 150 เมตรข้ามแม่น้ำปัตตานีไปอีกฝั่งหนึ่ง คาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายใช้กดจุดชนวนระเบิดด้วยแบตเตอรี่
บุกทลายโรงพยาบาลสนามกลุ่มป่วนใต้
ด้านผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง วันอังคารที่ 4 มิ.ย.เช่นกัน กำลังผสมทหารหลัก ทหารพราน จำนวน 50 นาย เดินเท้าเข้าพิสูจน์ทราบบริเวณป่ายางพารารกทึบหลังโรงเรียนตาดีกา บ้านปูโปะ หมู่ 2 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังสืบทราบว่ากลุ่มก่อความไม่สงบใช้สถานที่ดังกล่าวประกอบระเบิดและรักษาอาการบาดเจ็บของสมาชิกที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่
จากการตรวจค้นอย่างละเอียดพบเพิงพักขนาดย่อมที่ปลูกสร้างด้วยไม้เสม็ดจำนวน 1 หลัง มีถังพลาสติกสีฟ้าขนาด 50 ลิตร จำนวน 4 ถังฝังดินเอาไว้รอบเพิงพัก ภายในบรรจุอุปกรณ์ประกอบระเบิด ยูเรีย อุปกรณ์สำหรับดำรงชีพในป่า วิกผมใช้ปลอมตัว และอื่นๆ รวมกว่า 50 รายการ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เจ้าหน้าที่เข้าตรวจจุดเกิดเหตุคนร้ายประกบยิง อส.ยะลา เสียชีวิตคาถนนขณะขี่รถจักรยานยนต์ไปรับลูกที่โรงเรียน เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มิ.ย.2556