บึ้มทหาร-ยิง ตร.วันเดียวดับ 4 "เฉลิม" เล็งพบ "มหาธีร์"-ไปอินโดฯ
ใต้ระอุดักบึ้มทหารที่ยะรัง ปัตตานี ขณะไปมอบของขวัญวันเด็ก กำลังพลดับ 2 เจ็บ 2 รัวเอ็ม 16 ถล่มรถตำรวจทางหลวงที่สายบุรี สีกากีพลีชีพอีก 2 นาย ชาวบ้านติดรถมาด้วยสังเวย "เฉลิม" เผยถกมาเลย์ประสบความสำเร็จ แต่พูดคนละทางกับเลขาฯสมช.ปมพร้อม-ไม่พร้อมเป็นตัวกลางเจรจา
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เพิ่งกลับจากการเดินทางเยือนประเทศมาเลเซีย โดยอ้างว่าผู้นำมาเลย์แสดงท่าทีให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยก็ตาม
โดยเมื่อเวลา 09.20 น.วันศุกร์ที่ 11 ม.ค.2556 คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดทหารชุดปฏิบัติการ กองร้อยทหารราบที่ 8033 (ร้อย ร.8033) หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 ขณะเดินทางไปมอบของขวัญให้กับโรงเรียนและองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่จัดงานวันเด็ก จุดเกิดเหตุอยู่บนถนนในหมู่บ้านบือแนปีแน หมู่ 4 ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ทำให้กำลังพลเสียชีวิต 2 นาย ประกอบด้วย ส.อ.สหเทพ ปีไธสงค์ อายุ 28 ปี เป็นชาว อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว และ พลทหารอนุรักษ์ สุนทรภักดิ์ อายุ 22 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ นอกจากนั้น ยังมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย คือ ร.อ.อนุชา มหาลีวีรัศมี ผู้บังคับกองร้อย (ผบ.ร้อย ร.8033) และ ส.อ.นิรันดร์ ประสิทธิพันธ์
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบและสอบสวนจนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ชุดปฏิบัติการ ร้อย ร.8033 กำลังพล 4 นาย ได้เดินทางด้วยรถกระบะที่ดัดแปลงเป็นรถหุ้มเกราะ เพื่อนำของขวัญไปมอบให้กับโรงเรียนและ อบต.ที่ร่วมจัดกิจกรรมงานวันเด็ก เมื่อรถแล่นผ่านจุดเกิดเหตุ คนร้ายได้ใช้แบตเตอรี่ซึ่งลากสายเข้าไปในป่ายางพาราข้างทางกว่า 150 เมตร จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัมที่วางไว้ในท่อลอดใต้ผิวถนน แรงระเบิดทำให้ตัวถังรถกระบะฉีกขาด และทำให้กำลังพลเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
รัวเอ็ม 16 ถล่มรถตำรวจทางหลวงดับ 3
เวลา 20.45 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ประกบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเสียชีวิต 2 นาย และประชาชนเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ท้องที่บ้านกะลูบี หมู่ 11 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
รายชื่อผู้เสียชีวิตประกอบด้วย
1) ด.ต.วรวิทย์ แก้วสีอ่อน อายุ 44 ปี ผู้บังคับหมู่สำนักงานตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล.) อยู่บ้านเลขที่ 50/38 หมู่ 4 ต.ราตาปันยัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี
2) ด.ต.ปฐมพงศ์ โต๊ะสามารถ อายุ 50 ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล. อยู่บ้านเลขที่ 15/15 หมู่ 6 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
3) นายลีแย สุหลง อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/7 หมู่ 7 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบและสอบสวนจนทราบว่า ด.ต.วรวิทย์ มีหน้าที่เป็นพลขับ ได้ขับรถยนต์ของตำรวจทางหลวง ยี่ห้อโตโยต้า สีเลือดหมูคาดเหลือง หมายเลขข้างรถ 7506 หมายเลขทะเบียน พล 1475 กรุงเทพมหานคร มุ่งหน้ากลับป้อมยามตำรวจทางหลวงริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 45-46 บ้านกะลูบี หมู่ 11 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี หลังเสร็จภารกิจขับรถนำขบวนผู้แทนพระองค์จากพื้นที่ จ.นราธิวาส ไปส่งในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา โดยมี ด.ต.ปฐมพงศ์ พนักงานวิทยุ นั่งมาด้วยกัน และยังมีนายลีแย ประชาชนขอติดรถมาด้วย
แต่ระหว่างทางก่อนถึงจุดกลับรถบ้านกะลาพอ-บ้านกะลูบี ประมาณ 100 เมตร มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนขับตามประกบ ก่อนใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และปืนพกขนาด 9 มม.ยิงใส่ ทำให้คนในรถเสียชีวิตและรถยนต์ของตำรวจทางหลวงเสียหลักตกข้างทาง ขณะที่คนร้ายเร่งเครื่องรถหลบหนีไปตามถนนสายกะลาพอ-แป้น อ.สายบุรี ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 27 ปลอก และขนาด 9 มม.จำนวน 8 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ช่วงค่ำวันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนลูกซองยิง นายสะมะแอ แตบาตู อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/2 หมู่ 5 ต.ตะมะยูง อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดในสวนยางพาราบ้านตายา หมู่ 1 ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ขณะที่นายมะแอกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านภรรยา หลังจากเลี้ยงแพะและต้อนแพะเข้าคอกเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ยิงรายวันยังเพียบตั้งแต่เปิดศักราชใหม่
สำหรับเหตุร้ายอื่นๆ ตั้งแต่ช่วงปีใหม่ ยกเว้นเหตุการณ์รุนแรงขนาดใหญ่ซึ่งได้รายงานเป็นข่าวไปแล้ว ยังคงมีบ้างประปราย ดังนี้
วันพุธที่ 9 ม.ค.2556 เวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่พบศพ นายมะยูโซ๊ะ แวนุ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102/3 บ้านกูวา หมู่ 5 ต.แว้ง อ.แว้ง จ.นราธิวาส ในสวนยางพาราบ้านยาเด๊ะ หมู่ 2 ต.มาโมง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด 3 นัด โดยบริเวณแผ่นหลังยังถูกฟันด้วยของมีคมอีก 2 จุด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว
ส่วนเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงเข้าไปในร้านน้องนัดคาราโอเกะ และจุดชนวนระเบิดมอเตอร์ไซค์บอมบ์ที่หน้าร้านอาหารแพนด้าซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ย่านหมู่ 7 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ในช่วงค่ำวันเดียวกันนั้น สรุปรายชื่อผู้บาดเจ็บอย่างเป็นทางการดังนี้
1) น.ส.ทิพย์สุดา สัจวรรณ์ อายุ 15
2) น.ส.เพชรมณี จันทบุรี อายุ 26 ปี
3) น.ส.สำราญ ทองใบ อายุ 34 ปี ทั้งสามได้รับบาดเจ็บจากเหตุยิงเข้าไปในร้านคาราโอเกะ
4) ด.ช.ซูฮัรมัน เจ๊ะโซ๊ะ อายุ 14 ปี
5) ด.ช.มูฮัมหมัดคอยรี ดือเระ อายุ 12 ปี ทั้งสองได้รับบาดเจ็บจากเหตุมอเตอร์ไซค์บอมบ์ เพราะขี่รถจักรยานผ่านหน้าร้านน้องนัดคาราโอเกะ
วันอังคารที่ 8 ม.ค.2556 เวลา 13.50 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายมะรอยานิง ยูโซ๊ะมายุ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 บ้านปอเนาะ หมู่ 6 ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในท้องที่บ้านตายา หมู่ 1 ต.สุวารี ขณะที่นายมะรอยานิงกำลังขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านโตนด หมู่ 6 ต.สุวารี เพื่อไปบ้านภรรยาที่บ้านตายา แต่ระหว่างทางได้จอดรถที่หน้าบ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้นหมู่ 1 ต.สุวารี เพื่อพูดคุยธุระ จังหวะนั้นเองได้ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ โดยคนร้ายมาเพียงลำพัง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว
วันเสาร์ที่ 5 ม.ค.2556 เวลา 18.20 น. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง น.ส.นิปาดัยยะห์ อาแว อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 บ้านคลองหงษ์ หมู่ 3 ต.ตะมะยูง อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนสายรือเสาะ-ศรีสาคร ท้องที่บ้านยาแลเบาะหมู่ 5 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ขณะที่ น.ส.นิปาดัยยะห์ กำลังขี่รถจักรยานยนต์จากเขตเทศบาลตำบลรือเสาะกลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
วันศุกร์ที่ 4 ม.ค.2556 เวลา 21.20 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นางศิริพร น้อยปานะ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 บ้านสันติสุข หมู่ 6 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านชุมบก หมู่ 9 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ ขณะที่นางศิริพรกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว
วันพฤหัสบดีที่ 3 ม.ค.2556 เวลา 22.20 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายนูรดีน แวกาจิ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 บ้านมือและห์ หมู่ 1 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านมือและห์ หมู่ 1 ต.สาวอ อ.รือเสาะ ขณะที่นายนูรดีนกำลังซ้อนรถจักรยานยนต์ของนายอุสมาน วาเซ็ง อายุ 40 ปี มุ่งหน้ากลับบ้าน โดยนายอุสมานรอดคมกระสุนไปได้อย่างหวุดหวิด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหารเช่นกัน
"เฉลิม"ถกนายกฯมาเลย์หนุนพูดคุยกลุ่มเห็นต่าง
ด้านผลการเดินทางเยือนมาเลเซียระหว่างวันที่ 8-10 ม.ค.2556 ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศปก.กปต.) นั้น
วันพฤหัสบดีที่ 10 ม.ค. รองนายกรัฐมนตรีของไทยได้เข้าพบหารือกับ นายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ได้หารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเห็นพ้องกันว่าจะต้องใช้การพูดคุย ซึ่งตรงกับความเห็นของสันติบาลมาเลเซีย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาเลเซียที่ได้หารือก่อนหน้านี้
"ผมจะให้กระทรวงการต่างประเทศสรุปสาระสำคัญและรายละเอียดทั้งหมดจากการหารือกับทุกฝ่าย เพื่อนำเรียน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และจากนี้เจ้าหน้าที่ไทยจะต้องเป็นหลักในการเปิดรับการหารือ" ร.ต.อ.เฉลิม ระบุ
สำหรับการเปิดเวทีพูดคุยกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า มีแนวทางที่จะดำเนินการอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการหารือกับมาเลเซียอย่างเป็นทางการ รัฐบาลมาเลเซียจึงมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว ดังนั้น จึงใช้โอกาสนี้เข้ามาพูดคุย มาเลเซียยืนยันว่าไม่เห็นด้วยในเรื่องการแบ่งแยกดินแดน แต่นายกฯมาเลเซียยังไม่ถึงขั้นเสนอตัวเป็นตัวกลางในการพูดคุย
"หากสถานการณ์ดีขึ้นต่อเนื่องก็จะเดินทางไปพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเตรียมขอโอกาสพบกับ นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อขอคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาด้วย" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ขอช่วย "แรงงานต้มยำ" เล็งไปอินโดฯต่อ
ต่อมา ร.ต.อ.เฉลิม ยังให้สัมภาษณ์ในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งว่า การเดินทางไปมาเลเซียได้พบกับแรงงานไทยในสมาคมต้มยำกุ้งประมาณ 100 คน จึงได้บรรยายพิเศษให้ฟัง และได้เดินทางไปเยี่ยมโรงเรียนสอนศาสนาที่มีเด็กไทยเข้าไปศึกษา ก็ได้อธิบายถึงเหตุการณ์ต่างๆ ให้ฟังและให้นำไปบอกกับผู้ปกครอง ซึ่งเด็กๆ ก็ชอบใจ
"สิ่งที่มาเลเซียรับหลักการคือมีร้านต้มยำกุ้งในมาเลย์ 6,500 แห่งใน 13 รัฐ มีคนไทยไปทำงานประมาณ 150,000 คน แต่มีคนขึ้นทะเบียนแค่ 6,900 คน เพราะราคาแพง และทางการมาเลเซียอนุญาตเฉพาะคนเป็นกุ๊กกับผู้ช่วยกุ๊ก แต่พนักงานเสิร์ฟไม่อนุญาต ผมพยายามขอร้องว่าหากอนุญาตพนักงานเสิร์ฟขึ้นทะเบียนได้จะทำให้มีรายได้และจะส่งกลับมาบ้าน และพอใครจะชักชวนไปทำอะไรในทางที่ไม่ดีพวกเขาก็ไม่เอา ปัญหาต้องแก้แบบนี้ หากผมทำสำเร็จ ผลที่จะได้คือในประเทศ จะทำให้คนไปร่วมก่อความไม่สงบน้อยลง ซึ่งนายกฯมาเลย์ก็รับปากว่าจะดูแลให้"
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า มั่นใจว่าเดินถูกทางแล้ว และภายหลังได้พบกับนายมหาธีร์ จะเดินทางไปประเทศอินโดนีเซียต่อ การแก้ไขปัญหาภาคใต้นั้น เรื่องยุทธศาสตร์และยุทธวิธีเป็นหน้าที่ของทหาร เขาไม่เกี่ยว แต่หากคนรวย การศึกษาดี พื้นที่เจริญ ทุกอย่างก็จะดีขึ้น
เลขาฯสมช.บอกมาเลย์พร้อมเป็น "ตัวกลางเจรจา"
ด้าน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า บรรยากาศการหารือเป็นไปอย่างดีมาก ยนายกรัฐมนตรีมาเลเซียพร้อมสนับสนุนการเปิดเวทีพูดคุยกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ และมาเลเซียประกาศชัดเจนไม่เห็นด้วยกับการแบ่งแยกดินแดน หากผู้ก่อความไม่สงบข้ามฝั่งไปยังมาเลเซียจะไม่ให้การสนับสนุนอย่างเด็ดขาด โดยนายกรัฐมนตรีมาเลเซียพร้อมที่จะให้ความร่วมมือไทยให้เกิดความสงบสุขเพื่อก้าวสู่บรรยากาศที่ดีในการเป็นประชาคมอาเซียนร่วมกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะเดินทางเยือนไทยและพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีไทยในช่วงต้นเดือน ก.พ.ที่จะถึงนี้ด้วย
"มาเลเซียพร้อมเป็นตัวกลางในการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ หากประเทศไทยร้องขอ โดยจะใช้แนวทางการสร้างสันติภาพในมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์ ที่สามารถเจรจาให้หยุดยิงได้ (มาเลเซียเป็นตัวกลาง)" พล.ท.ภราดร กล่าว
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : หลุมที่เกิดจากแรงอัดของระเบิดที่ดักโจมตีรถทหาร ร้อย ร.8033 ในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
ขอบคุณ :
1 พ.ต.อ.โภท สวยสุวรรณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เอื้อเฟื้อภาพเหตุการณ์
2 ข่าวส่วนที่เกี่ยวกับการเดินทางเยือนมาเลเซียของ ร.ต.อ.เฉลิม จากสำนักข่าวเนชั่น