ใต้ป่วนระเบิดเทพา – สายบุรีเผาซีซีทีวี ฉกถังแก๊ส
ใต้ป่วนหนักช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ สายบุรีระอุคนร้ายลอบเผากล้องวงจรปิด 26 ตัว แถมงัดโรงพยาบาลชุมชนขโมยถังแก๊ส ถังออกซิเจน คาดเตรียมประกอบระเบิด เทพาระทึกบึ้มตลาด โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ ด้านนายก อบต.บาเจาะ เข้าให้ปากคำตำรวจปมเผาที่ทำการ โต้ปมทุจริต แย้มเป็นปัญหาขัดแย้งภายใน ขณะที่กลุ่มพลังมวลชนระแงะเดินรณรงค์ต่อต้านความรุนแรง ตอกลิ่มคนสองศาสนา
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดและเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 22 ธ.ค.2555 เวลาประมาณ 02.00 น. ตำรวจ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเหตุลอบวางเพลิงกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) หลายจุดในพื้นที่ อ.สายบุรี จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุมีด้วยกัน 3 จุด ประกอบด้วย
1.บนถนนในหมู่บ้านเจาะกือแย หมู่ 3 ต.ตะบิ้ง ทำให้กล้องได้รับความเสียหาย 19 ตัว
2.บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) บริเวณจุดกลับรถปั๊มน้ำมันหลอดบ้านเจาะกือแย หมู่ 3 ต.ตะบิ้ง ทำให้กล้องได้รับความเสียหาย 5 ตัว
3.บริเวณสี่แยกบ้านตะบิ้ง หมู่ 1 ต.ตะบิ้ง ทำให้กล้องได้รับความเสียหาย 2 ตัว รวมกล้องทั้งหมดที่ถูกเผาทำลาย 26 ตัว โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไป
จากการตรวจบริเวณจุดเกิดเหตุพบเศษยางรถจักรยานยนต์ เศษชิ้นส่วนเสื้อผ้าที่ถูกเผาแล้ว คาดว่าคนร้ายใช้เป็นเชื้อเพลิง ทั้งยังพบไม้ไผ่ยาวและขวดน้ำอัดลมที่ใช้บรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย โดยวิธีการของคนร้ายคือราดน้ำมันจุดไฟยางรถจักรยานยนต์หรือเสื้อผ้า แล้วใช้ไม้ไผ่ยาวเกี่ยวขึ้นไปคล้องกับกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเพื่อให้เพลิงเผากล้อง หรือบางจุดก็ใช้ไม้ไผ่สอยกล้องให้ตกลงมา แล้วจึงจุดไฟเผา
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายมีประมาณ 5-6 คน และน่าจะเป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบที่เผาทำลายกล้องเพื่อเตรียมก่อเหตุรุนแรงในบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะได้ไม่มีหลักฐานในการติดตามจับกุม
งัด รพ.ชุมชนฉกถังแก๊ส-ถังออกซิเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณที่เกิดเหตุลอบเผากล้องโทรทัศน์วงจรปิดครั้งนี้ เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันมาแล้ว 2 ครั้ง และยังเป็นจุดที่คนร้ายมักก่อเหตุยิงข้าราชการและประชาชนจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตมาแล้วหลายรายด้วย
สำหรับเหตุการณ์ลอบเผาทำลายกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเกิดขึ้นเป็นระยะตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว รวมแล้วเกือบ 10 ครั้ง ส่วนใหญ่เกิดใน อ.ยะรัง อ.หนองจิก อ.สายบุรี และ อ.เมือง จ.ปัตตานี รวมจำนวนกล้องที่ถูกทำลายราวๆ 200 ตัว
ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ยังมีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน งัดหน้าต่างลอบเข้าไปในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนระหว่างตำบล ท้องที่หมู่ 1 ต.กะดุนง อ.สายบุรี จากนั้นคนร้ายได้ขโมยโทรทัศน์, คอมพิวเตอร์, ถังออกซิเจน และถังแก๊สหลบหนีไป เชื่อว่าเป็นการกระทำของบกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ที่ต้องการนำถังออกซิเจนและถังแก๊สไปประกอบระเบิดเพื่อสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วน
บึ้มตรงข้ามตลาดเทพาไร้เจ็บ
เวลา16.00 น.วันเดียวกัน ร.ต.ต.ประคัลภ์ บุญหวังช่วย ร้อยเวร สภ.ห้วยปลิง อ.เทพา จ.สงขลา รับแจ้งเหตุระเบิดบริเวณตลาดนิคมเทพา จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยทหารหน่วยเฉพาะกิจสงขลา และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดของตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณโคนต้นมะขามติดกับร้านน้ำชา ริมถนนสายลำไพล-โคกโพธิ์ ห่างจากปากทางเข้าหน่วยเฉพาะกิจสงขลาประมาณ 500 เมตร
จากการตรวจสอบพบว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ไว้ในแกลลอนน้ำมัน น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ โดยรอบๆ จุดเกิดเหตุพบชิ้นส่วนโทรศัพท์และเหล็กเส้นตัดท่อนที่คนร้ายใช้เป็นสะเก็ดระเบิดกระจายเกลื่อน แต่อานุภาพของระเบิดไม่รุนแรงจึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียง นางตีฮาวอ หัดเจ อายุ 70 ปี เจ้าของร้านน้ำชาที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุมีอาการหูอื้อเท่านั้น
จากการประเมินสถานการณ์เจ้าหน้าที่คาดว่า กลุ่มคนร้ายต้องการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ที่มีเขตติดต่อกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มากกว่าต้องการให้เกิดความสูญเสียหรือทำร้ายชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ เนื่องจากช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นช่วงที่ตลาดเริ่มปิด ผู้คนบางตาแล้ว
นายกฯบาเจาะให้ปากคำ ตร.ปมเผาอบต.
ด้านความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนร้ายประมาณ 5-6 คน พร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าไปในสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และถามหาเจ้าหน้าที่ไทยพุทธ เมื่อไม่พบก็สั่งให้เจ้าหน้าที่มุสลิมทั้งหมดออกจากสำนักงาน จากนั้นได้จุดไฟเผาจนอาคารสำนักงาน อบต.หลังเก่าวอดทั้งหลัง เหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น
หลังเกิดเหตุ ฝ่ายตำรวจไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ แต่ตั้งประเด็นสอบสวนเกี่ยวกับปัญหาการทุจริตภายใน อบต.และการสร้างสถานการณ์เผาทำลายเอกสารสำคัญ จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ อบต.ทั้งหมดกว่า 10 รายทะยอยเข้าให้ปากคำ
ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 22 ธ.ค. นายอัดนัน เซ็ง นายก อบต.บาเจาะ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจแล้ว โดยให้ข้อมูลว่าวันเกิดเหตุไม่ได้อยู่ที่สำนักงาน จึงไม่ทราบเหตุการณ์ พร้อมยืนยันไม่มีปัญหาการทุจริตใน อบต.แต่เหตุเกิดจากความขัดแย้งภายในสำนักงาน
ด้านแหล่งข่าวจากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 กล่าวว่า ไม่ทราบข้อมูลเรื่องการทุจริตใน อบต. ในส่วนของทหารให้น้ำหนักไปที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เพราะจากอาวุธที่ใช้และการจัดกำลังเข้าบุก อบต.น่าจะเป็นการกระทำของกลุ่มติดอาวุธของขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดน ส่วนสาเหตุที่เป็นเบื้องหลังจะเป็นอะไรนั้น เขาไม่ทราบ
พลังมวลชนระแงะเดินรณรงค์ต้านความรุนแรง
ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงร้านน้ำชาที่บ้านบาดามูเวาะห์ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีชาวบ้านมุสลิมเสียชีวิต 4 ราย หนึ่งในนั้นเป็นคนชราอายุ 70 ปี และเด็กทารกวัยเพียง 11 เดือน หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์คนร้ายพยายามก่อเหตุกับเป้าหมายที่เป็นคนไทยพุทธอย่างต่อเนื่อง จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันในพื้นที่ว่าเป็นการแก้แค้นกัน และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 22 ธ.ค.ได้มีกลุ่มพลังมวลชนในพื้นที่ อ.ระแงะ จำนวนประมาณ 1 พันคน ออกเดินรณรงค์ต่อต้านความรุนแรที่วงเวียนลองกอง เทศบาลตำบลตันหยงมัส
นายมาหะหมัดคาลิก ปาทาน ประธานสภาสันติสุข อ.ระแงะ กล่าวว่า การกระทำรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิตทุกครั้งเป็นการกระทำที่ขาดคุณธรรม และศาสนาอิสลามไม่เคยสอนให้แบ่งแยก ยุแยง หรือสร้างความแตกแยกแตกต่างกับศาสนาอื่น ตามหลักคำสอนที่แท้จริงคือให้ปฏิบัติดี อยู่ร่วมกับทุกคนอย่างสันติ เพราะสันติ คือ มุสลิม ผู้ที่ทำไม่ดีสร้างความแตกแยกระหว่างศาสนาคือพวกนอกรีต ขอวิงวอนให้พระเจ้าดลใจให้ผู้หลงผิดหยุดการกระทำที่รุนแรง ขอดุอาจากพระอัลเลาะฮ์ให้สันติสุขกลับคืนสู่แผ่นดินด้ามขวานโดยเร็ว
ขณะที่ นางสุนัน อ่องบุญ ประธานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กล่าวว่า ขอให้คนไทยไม่ว่าศาสนาพุทธ อิสลาม หรือศาสนาอื่นใดมีความรักความสามัคคีกัน อย่าอยู่กันแบบหวาดระแวง สำหรับคนที่หลงผิด ก็ขอให้กลับบ้าน และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อนำความสันติสุขกลับคืนมา
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เจ้าหน้าที่เข้าตรวจจุดเกิดเหตุและเก็บหลักฐานบริเวณที่คนร้ายลอบวางระเบิดข้างร้านน้ำชาใกล้ตลาดนิคมเทพา อ.เทพา จ.สงขลา (ภาพโดย สุเมธ ปานเพชร)