ปัญหายิงครูเข้าสภา...ไฟใต้ในสายตานักการเมือง-กองทัพ
ปัญหาครูใต้เข้าสภา ส.ส.ฝ่ายค้านหยิบไปซักฟอกนายกฯ ซัดรัฐบาลลอยตัวหนีปัญหา "ยิ่งลักษณ์" โต้อัดงบพัฒนาเพิ่ม ขณะที่ "สุกำพล" บอกรออีกนิด ให้ตำรวจรับภารกิจ รปภ.แทนทหารก่อนเปิดปฏิบัติการเชิงรุกครั้งใหญ่ ด้าน กอ.รมน.รับข้อเสนอ 8 มาตรการคุ้มครองความปลอดภัยจากแกนนำครู ผบ.ทบ.แนะนอนในโรงเรียนลดตกเป็นเป้า รัฐยาหอมเพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัย นัดถกรัฐมนตรีศึกษา 30 พ.ย. ใต้ยังเดือดต่อ ลูกจ้างศาลยะลาสังเวยอีกศพ
สถานการณ์ตึงเครียดในจังหวัดชายแดนภาคใต้จากเหตุการณ์ลอบประทุษร้ายครูอย่างต่อเนื่องได้ถูกหยิบยกเข้าไปอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ในขณะที่ฝ่ายความมั่นคงเร่งแก้ไขปัญหาแกนนำครูสั่งหยุดการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนดใน จ.ปัตตานี
เมื่อวันอังคารที่ 27 พ.ย.2555 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในประเด็นเกี่ยวกับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า นายกฯมีพฤติกรรมลอยตัวหนีปัญหา เพราะยังไม่เคยเห็นกรอบความคิดหรือมันสมองของนายกฯในการแก้ไขปัญหานี้เลย
ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่ที่ จ.ยะลา และระเบิดรถไฟที่ จ.นราธิวาส มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บมากมาย แต่นายกฯไม่เคยแสดงความห่วงใยต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่
"จากสถิติพบตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2555 ถึง 22 พ.ย.2555 ระยะเวลา 327 วัน พื้นที่ชายแดนภาคใต้เกิดเหตุรุนแรงทุกวัน ยกเว้นเพียง 38 วันเท่านั้นที่ไม่มีเหตุรุนแรง และเมื่อย้อนดูสถานการณ์ตั้งแต่ปี 2547 จะพบว่าปี 2555 มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นถี่ที่สุด" นายเจะอามิง กล่าว และว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่เคยมีใครให้ความสนใจครูที่อยู่ในพื้นที่และถูกยิงเสียชีวิตบ่อยครั้งจนสมาพันธ์ครูฯต้องลุกขึ้นมาเรียกร้อง
"สุกำพล"ให้รอตำรวจรับไม้ต่อ-ทหารลุยงานเชิงรุก
ด้าน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า นายกฯมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) โดยนายกฯมอบหมายให้เขาเข้าไปดูแลงานความมั่นคงในภาคใต้ซึ่งรัฐบาลถือเป็นวาระเร่งด่วน
"เราเป็นห่วงงานเชิงรับ เช่น พระออกบิณฑบาต รักษาความปลอดภัยครู ทุกวันนี้ทหารต้องตื่นตี 4 ดูแลคุ้มครองพระแล้วก็พานักเรียนไปเรียนหนังสือ แล้วก็ไปดูตลาด ทิ้งไม่ได้ แต่เราจะทำมาตรการเชิงรุกมากขึ้น แต่ต้องใช้เวลา ขอให้รออีกนิดเดียว ถ้ามีคนมาเปลี่ยนแทนเรา เช่น ตำรวจ มารับผิดชอบภารกิจเชิงรับ ทหารก็จะมีเวลาไปทำภารกิจเชิงรุกมากขึ้น" พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว และว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีโครงสร้างที่ซับซ้อนและต้องการยกระดับสู่โลกภายนอก มีแกนนำ 2,000 คน ผู้ปฏิบัติการ 7,000 คน เชื่อว่าสถานการณ์จะค่อยๆ คลี่คลายลง
นายกฯเผยอัดงบพัฒนาเพิ่ม-สูญเสีย 1.49 คนต่อวัน
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันจันทร์ที่ 26 พ.ย. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน และได้กล่าวตอนหนึ่งถึงการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ได้ยึดมั่นในยุทธศาสตร์พระราชทาน คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา โดยให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดชายแดนภาคใต้มีส่วนร่วมเพื่อช่วยสร้างความเข้าใจที่ดี และลดเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดปัญหาต่อสังคม รวมถึงการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชน เยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
นอกจากนั้น ยังได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) เป็นหน่วยงานกลางเพื่อประสานงานระหว่างกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กับ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ด้วย
สำหรับงบประมาณที่ใช้ในการพัฒนาพื้นที่นับจากปี 2554 พบว่ามีการจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้น โดยปี 2554 จัดสรรให้ 3,696 ล้านบาท ปี 2555 จัดสรรให้ 7,651 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2556 เตรียมจัดสรรให้ 7,938 ล้านบาท ทั้งนี้ หากพิจารณาอัตราการสูญเสียของคนในพื้นที่ ล่าสุดมีสถิติอยู่ที่ 1.49 คนต่อวัน
กอ.รมน.รับ 8 มาตรการ รปภ.ครู – ถกไม่จบตั้งฐานในโรงเรียน
ด้านความคืบหน้าการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) ภายหลังเหตุการณ์สังหาร ครูนันทนา แก้วจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อ 22 พ.ย. จนโรงเรียน 332 แห่งใน จ.ปัตตานี ปิดการเรียนการสอนทั้งหมดนั้น
เมื่อวันอังคารที่ 27 พ.ย. พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.) ได้เชิญสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้บริหารสถานศึกษา เข้าประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
ภายหลังการประชุม พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) แถลงว่า ที่ประชุมตัวแทนครูได้เสนอให้เจ้าหน้าที่ทบทวนมาตรการ รปภ.ให้เคร่งครัดมากขึ้น และได้เสนอ 8 มาตรการในการทำงานร่วมกัน เช่น การให้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลความปลอดภัยภายในโรงเรียน การประสานงานระหว่างครูกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองกำลังที่ต้องมีมากขึ้น เป็นต้น (อ่านรายละเอียดได้ใน ปิด 332 โรงเรียนปัตตานี ครูเสนอ 8 มาตรการจี้ปรับแผน รปภ. http://bit.ly/Y7aEa4)
อย่างไรก็ดี พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ยังมีประเด็นที่ต้องหารือกันต่อไป คือการเข้าไปประจำการของเจ้าหน้าที่ภายในโรงเรียน เนื่องจากยังมีความเห็นที่แตกต่างกัน เพราะโรงเรียนบางแห่งต้องการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตั้งฐานภายในโรงเรียน และเดินทางร่วมกับคณะครูทุกครั้งเพื่อสร้างความมั่นใจ ขณะที่โรงเรียนบางแห่งไม่ต้องการ เพราะเกรงจะตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เบื้องต้นได้พิจารณาให้ผู้บริหารโรงเรียนหารือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองกำลังเป็นรายพื้นที่ไป เพื่อกำหนดมาตรการตามความเหมาะสม
ศธ.คาดต้น ธ.ค.เปิดเรียนปกติ – ยาหอมเพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัย
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า วันที่ 30 พ.ย. ผู้แทนครูจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ติดต่อขอพบที่กระทรวงฯ เพื่อหารือถึงปัญหาที่ต้องประสบ โดยอาจจะมีประเด็นเรื่องขวัญกำลังใจด้วย และช่วงเดือน ธ.ค.จะเดินทางลงพื้นที่ คาดว่าช่วงนั้นโรงเรียนจะกลับมาเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติแล้ว ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ลอยตัวหนีปัญหา
ขณะที่ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า จะลงพื้นที่ในวันที่ 29 พ.ย.เพื่อร่วมงานศพผู้อำนวยการโรงเรียนท่ากำชำ และจะหารือกับหน่วยงานด้านความมั่นคง และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) รวมทั้งจะพบกับสมาพันธ์ครูในพื้นที่ด้วย ส่วนเรื่องเบี้ยเสี่ยงภัยจะพิจารณาเพิ่มจากเดิม 2,500 บาทเป็น 3,500 บาท
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ในวันที่ 4 ธ.ค.จะมีการประชุมร่วมกับสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่เกี่ยวข้อง ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับการปิดโรงเรียนซึ่งจะกระทบกับเด็กนักเรียนนั้น ขณะนี้ได้ประสานงานให้ครูมอบการบ้านให้เด็กไปทำช่วงหยุดเรียน เมื่อเปิดเรียนตามปกติแล้วก็ให้มีการสอนชดเชยต่อไป
ผบ.ทบ.เสนอไอเดียครูพักที่โรงเรียนลดตกเป็นเป้า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีครูในพื้นที่ชายแดนใต้ถูกลอบสังหารอย่างต่อเนื่องว่า ฝ่ายความมั่นคงพยายามแก้ปัญหาทุกครั้ง แต่ขณะนี้ยังมีการก่อเหตุรุนแรงอยู่ และครูเป็นเป้าหมายหลักของการก่อความไม่สงบ เพราะไม่ต้องการประชาชนและผู้บริสุทธิ์ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมากองทัพให้ความสำคัญกับปัญหานี้ และมีมาตรการในการจัดชุด รปภ.ครู พร้อมกำหนดเส้นทางและเวลาในการเดินทาง แต่ยอมรับว่ามีความบกพร่องบ้าง บางครั้งครูมีธุระส่วนตัวหรือมีความจำเป็นต้องออกนอกเส้นทางหรือนอกเวลาที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม ต้องขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสีย
"กองทัพพยายามหาทุกมาตรการในการดูแล และได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 4 รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งหามาตรการป้องกัน ขณะนี้มองเห็นอย่างเดียวว่าหากจะทำให้เกิดความปลอดภัย ต้องให้ครูพักที่โรงเรียนเพื่อลดเป้าหมาย แต่เป็นเรื่องยากเพราะครูมีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ฝ่ายตรงข้ามพยายามลดความน่าเชื่อถือ และดิสเครดิตเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้การแก้ปัญหามีผลกระทบไปถึงสากล"
ส่วนมาตรการด้านการข่าวนั้น ผบ.ทบ. บอกว่า เรารู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรต่อครูและนักเรียน แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดพื้นที่ไหน แต่เมื่อมีโอกาสทำร้ายครู ทางกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะทำตามคำสั่งทันที
"พวกโจรสามารถทำได้ทั้งปี ตรงไหนไม่รู้ เพียงแต่เรารู้ว่าจะเกิด ก็ได้แจ้งเตือนไป ดังนั้นจึงอยากขอร้องให้ครูปฏิบัติตามข้อตกลงที่ตกลงร่วมกับฝ่ายความมั่นคง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
โรงเรียนบันนังสตาหยุดสอนหลังเจอเอ็ม79
ด้านความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงถล่มฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารราบที่ 7024 (ร้อย ร.7024) หน่วยเฉพาะกิจยะลา 15 ซึ่งตั้งอยู่ข้างโรงเรียนบ้านบาเจาะ หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 นาย เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น
ต่อมาเมื่อวันอังคารที่ 27 พ.ย. เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา พร้อมพนักงานสอบสวน ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบกระสุนเอ็ม 79 ตกบริเวณฐานปฏิบัติการของทหารจำนวน 4 ลูก และนอกฐานอีก 1 ลูก แรงระเบิดทำให้หลังคาห้องสมุดของโรงเรียนบ้านบาเจาะได้รับความเสียหาย จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ นายอุเซ็ง หลงเดวา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบาเจาะ สั่งปิดการเรียนการสอนทันทีเป็นเวลา 1 วัน และหลังจากนั้นในวันพุธที่ 28 พ.ย.ก็ได้เปิดการเรียนการสอนตามปกติ
อนึ่ง โรงเรียนบ้านบาเจาะ มีนักเรียนจำนวน 474 คน มีครูและบุคคลากรทางการศึกษา 28 คน เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6
ยิงชาวบ้าน-อส.ดับ 1 เจ็บ 1 ที่ยะหริ่ง
สำหรับเหตุรุนแรงอื่นๆ ตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเมื่อเวลา 11.30 น.วันพุธที่ 28 พ.ย.2555 คนร้าย 4 คนมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกขนาด 11 มม.จ่อยิง นายสุวรรณ แก้วศรีหน่อ อายุ 45 ปี อาชีพรับซื้อของเก่า อยู่บ้านเลขที่ 32/8 บ้านคลองต่ำ หมู่ 4 ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เสียชีวิต และ อาสารักษาดินแดน (อส.) องอาจ อินตระการ อายุ 35 ปี อส.ประจำ อ.ปะนาเระ อยู่บ้านเลขที่ 75/1 บ้านท่าข้าม หมู่ 1 ต.ท่าข้าม อ.ปะนาเระ ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ทั้งนี้ เหตุเกิดขณะที่ นายสุวรรณ และ อส.องอาจ กำลังเดินไปขึ้นรถกระบะ หลังเสร็จจากการร่วมแข่งขันนกกรงหัวจุก บริเวณริมถนนสายจะรัง-ปะนาเระ ท้องที่หมู่ 7 ต.จะรัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อคนร้ายจอดรถใกล้ๆ รถของ นายสุวรรณ ก็ได้ชักปืนยิงใส่จนนายสุวรรณเสียชีวิต และ อส.องอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
"ลูกจ้างศาลยะลา-รองนายกอบต.ประจัน"สังเวย
เวลา 17.20 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดประกบยิง นายเสรี เบ็ญดือรามัน อายุ 52 ปี ลูกจ้างศาลจังหวัดยะลา อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 11 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 สสายเก่า บริเวณสามแยกบ้านต้นมะขาม หมู่ 4 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ขณะที่นายเสรีกำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกจากศาลมุ่งหน้ากลับบ้านภรรยาที่บ้านพงสะตา หมู่ 5 ต.ยะรัง อ.ยะรัง เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 20.20 น.ที่ อ.ยะรัง เช่นกัน คนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายรอซาลี กูนา อายุ 55 ปี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ประจัน อยู่บ้านเลขที่ 59 บ้านบือแนกือบง หมู่ 3 ต.ประจัน อ.ยะรัง กระสุนถูกบริเวณขมับขวา เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ท้องที่บ้านบือแนกือบง หมู่ 3 ต.ประจัน ขณะที่นายรอซาลีกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้นาหลังเสร็จพิธีละหมาดที่มัสยิด เบื้องต้นตำรวจยังไมสรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งเรื่องการเมืองท้องถิ่น
เพลิงไหม้โรงเรียนที่ปะนาเระวอด-แท็บเล็ตสูญ
เวลา 00.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 29 พ.ย. เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียนของโรงเรียนบ้านบางมะรวด หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น 8 ห้องเรียน ทำให้อาคารเสียหายทั้งหลัง และเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ 20 เครื่อง รวมทั้งแท็บเล็ตที่ได้รับมอบจากรัฐบาลจำนวน 80 เครื่อง วอดไปกับกองเพลิง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอังคารที่ 27 พ.ย.เวลา 00.30 น.ขณะที่ นายอาณัติ กอแต อายุ 19 ปี กำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลขจ 409 ในท้องที่ ต.ทุ่งคล้า อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน ระหว่างทางได้ถูกคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงจนเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหารเช่นกัน
วันเดียวกัน หน่วยเฉพาะกิจปัตตานีได้สนธิกำลังกับตำรวจและฝ่ายปกครอง เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายใน จ.ปัตตานี จำนวนกว่า 30 จุด และสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีความมั่นคงและคดียาเสพติดได้หลายราย
----------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : มาตรการ รปภ.อย่างเข้มข้นที่โรงเรียนบ้านบาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังปิดการเรียนการสอนไป 1 วัน (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
อ่านประกอบ : ปิด 332 โรงเรียนปัตตานี ครูเสนอ 8 มาตรการจี้ปรับแผน รปภ.