ทอท.เล็งใช้สมาร์ทการ์ดผ่านด่านตม.ลดแออัดสุวรรณภูมิ
น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย ( ทอท.) เปิดเผยว่า ได้หารือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และกระทรวงการต่างประเทศ นำเทคโนโลยีการตรวจคนเข้าเมืองแบบใหม่เข้ามาใช้ เช่น ให้ผู้โดยสารคนไทยใช้บัตรสมาร์ทการ์ด และบาร์โค้ด แทนการใช้พาสปอร์ต ซึ่งเมื่อวางบัตรดังกล่าว บนตัวอ่านจะผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง ใช้เวลาเพียงคนละไม่เกิน 10 วินาที รวมทั้งจะยกเลิกการใช้ใบตม.6 ซึ่งมีต้นทุนการพิมพ์ประมาณปีละ 20-30 ล้านบาท คาดว่า ภายในปีนี้จะเร่งรัดใช้ระบบได้ เพื่อลดความแออัดการใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ
“ ปีนี้ได้ประมาณการณ์ผู้โดยสารใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวนกว่า 50 ล้านคน ซึ่งเกินขีดความสามารถในการรองรับของสนามบินสุวรรณภูมิที่ 45 ล้านคน แต่ยังเชื่อว่า ปัญหาความแออัดยังมีไม่มาก เพราะการไหลเวียนของผู้โดยสารยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ขณะเดียวกันความแออัดยังแบ่งเป็นช่วงเวลา บางเวลาก็ไม่แออัด ซึ่งสามารถนำระบบการบริหาร เช่น การลดราคาเพื่อให้เที่ยวบินทำการบินในช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารน้อย รวมทั้งใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ปัญหาความหนาแน่นในขั้นตอนการตรวจคนเข้า เมือง”
อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาดังกล่าวถือเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งระยะยาวทอท.มีแผนขยายสนามบินสุวรรณภูมิระยะที่ 2 วงเงิน 62,503 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบรายละเอียด ใช้เวลาออกแบบประมาณ 10 เดือน และในเดือนมี.ค. 57 จะคัดเลือกบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และเริ่มงานก่อสร้าง โดยจะแล้วเสร็จตามกำหนดภายในปี 59
ทั้งนี้ทอท. ได้ลงนามสัญญาจ้างที่ปรึกษาออกแบบงานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 งานส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้่านทิศใต้และระบบขนส่งผู้โดยสาร กับกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาเอ็มเอเอ 103 กรุ๊ป งบประมาณ 722 ล้านบาท โดยขอบเขตงานให้ที่ปรึกษาออกแบบอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 เป็นอาคาร 4 ชั้น พื้นที่รวมประมาณ 216,000 ตารางเมตร มีประตูทางออกเชื่อมต่อหลุมจอดประชิดอาคาร 28 หลุมจอด งานออกแบบสิ่งก่อสร้างลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรวมพื้นที่ประมาณ 960,000 ตารางเมตร รวมทั้งออกแบบสิ่งก่อสร้างส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้และระบบขนส่งผู้โดยสาร
ขอบคุณข่าวจาก