บึ้มย่านเศรษฐกิจปัตตานี ดักระเบิดรถ ตร.ยะหาเจ็บ 5
ปัตตานีป่วนรับอรุณ คนร้ายวางระเบิดในย่านเศรษฐกิจกลางเมือง ทั้งหน้าห้างไดอาน่า โชว์รูมรถโตโยต้าพังเสียหาย "โกเล็ก" เจ้าของร้านฝั่งตรงข้ามเปิดใจรอดตายหวุดหวิด ช่วงเช้ายังก่อเหตุบึ้มใกล้จุดตรวจตำรวจที่ยะหริ่งไร้เจ็บ จากนั้นดักระเบิดรถตำรวจยะหาเจ้าหน้าที่เจ็บ 3 นาย ชาวบ้านโดนลูกหลง 2 ราย ด้าน ศอ.บต. ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเหตุยิง 6 ศพใบปลิวเกลื่อน ขณะที่แม่ทัพภาค 4 สั่งตรวจสอบเหตุเผา อบต. 8 แห่งรวด
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดและมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 04.40 น.วันพฤหัสบดีที่ 9 พ.ค.2556 เกิดเหตุระเบิดบริเวณกระถางต้นไม้ด้านหน้าประตูทางเข้าห้างสรรพสินค้าไดอาน่า สาขาปัตตานี เลขที่ 16 ถนนนาเกลือ ต.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี แรงระเบิดแม้ไม่ได้ทำให้ใครได้รับบาดเจ็บ เพราะห้างยังไม่เปิดให้บริการ แต่ก็ทำให้ประตูด้านหน้าห้างฯและทรัพย์สินภายในได้รับความเสียหาย
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี ได้นำกลังรุดไปตรวจสอบ พบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบในกล่องเหล็กขึ้นรูป จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร
ต่อมา เวลา 05.30 น. เจ้าหน้าที่พบวัตถุต้องสงสัยเป็นถังแก๊สสีส้ม ถูกวางทิ้งไว้บริเวณประตูทางเข้าโชว์รูมรถยนต์โตโยต้า บริษัทพิธานพาณิชย์ปัตตานี เลขที่ 16/1 ถนนนาเกลือ ต.อาเนาะรู อ.เมืองปัตตานี ซึ่งอยู่ติดกับห้างสรรพสินค้าไดอาน่า เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีได้เข้าทำการเก็บกู้ โดยใช้เชือกตะขอเกี่ยวถังแก๊สให้ล้มลง แต่ระหว่างนั้นได้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้กระจกหน้าโชว์รูมแตกละเอียด และอาคารสำนักงานได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบพบระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ถังแก๊ส จุดชนวนแบบกด-เลิกกด/ดึง-เลิกดึง (ขยับหรือยกภาชนะระเบิดจะเกิดการระเบิด) เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
หลักฐานวงจรปิดจับภาพ 4 คนร้าย
เจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจจุดเกิดเหตุรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ผิดสังเกตที่เห็นถังแก๊สวางอยู่อย่างโจ่งแจ้ง เกรงว่าจะมีระเบิดลูกที่สามตามมา หากคนร้ายซ้อนแผนวางกับระเบิดลูกที่สองที่เป็นระบบขยับ เมื่อเคลื่อนย้ายถังแก๊สนิดเดียวก็จะระเบิดทันที แต่เหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดมีความรอบคอบมากขึ้น จึงใช้วิธีเกี่ยวให้ถังแก๊สล้มลง และเกิดระเบิดขึ้น ซึ่งก็ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สำหรับระเบิดทั้ง 2 ลูก คนร้ายพุ่งเป้าทำร้ายเจ้าหน้าที่อีโอดี เนื่องจากเวลาและจุดที่วางระเบิดไม่มีประชาชนอยู่
ขณะที่ภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดสามารถจับภาพที่คนร้ายกำลังนำระเบิดไปวางหน้าห้างไดอาน่าได้ โดยคนร้ายเป็นชาย 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน 2 คัน นำระเบิดไปวางพร้อมกันทั้ง 2 จุด ก่อนขี่รถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ตำรวจอยู่แกะรอยจากหลักฐานเพื่อหาเบาะแสคนร้ายต่อไป คาดว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกับที่เคยก่อเหตุในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีมาหลายครั้ง คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อแสดงศักยภาพของกลุ่มตนเอง
เจ้าของร้านทักษิณโอชาโล่งใจ-รอดหวุดหวิด
โกเล็ก เจ้าของร้านทักษิณโอชา ร้านค้าเบ็ดเตล็ดตั้งอยู่ตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าไดอาน่า เล่าว่า ปกติจะออกไปวิ่งออกกำลังกายเวลาประมาณ 04.00 น.เป็นประจำ เมื่อคืนก็ลงมาจากบ้าน เตรียมตัวจะไปวิ่ง กำลังเปิดประตู แต่ช้ากว่าปกตินิดเดียว จังหวะนั้นมีเสียงระเบิดดังขึ้นพอดี
"เสียงระเบิดมันดังมาก พอเสียงเงียบผมก็เปิดออกมา เห็นแต่กลุ่มควันเต็มไปหมด สะเก็ดระเบิดกระเด็นโดนหน้าบ้านนิดหน่อย กลัวว่าจะมีลูกที่สองอีก แต่ก็ยังตัดสินใจไปวิ่ง กลับมาเจอลูกที่สองจริงๆ หน้าโชว์รูมโตโยต้าที่อยู่เยื้องไปอีกหน่อย"
โกเล็ก บอกว่า เมื่อเกิดเรื่องขึ้นก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่เก็บกวาดทำความสะอาด ทำมาหากินกันต่อ จะทำอย่างไรได้ ถือเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะไปทำอะไรใครไม่ได้ มันน่ากลัวแต่ก็ชินชาเสียแล้ว เรื่องของการเยียวยาถ้าหากตายไปก็ไม่คุ้มกันเลย
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดมี 1 คน คือ นางอุไร ยี่สกุล อายุ 60 ปี พักอยู่ที่ร้านเบสท์เบเกอรี่ ตั้งอยู่ตรงข้ามโชว์รูมโตโยต้า โดนสะเก็ดระเบิดที่นิ้วมือ ขา และหลัง อาการไม่หนักมากนัก โดยขณะเกิดเหตุ นางอุไร อยู่ชั้นล่างของร้าน แรงระเบิดทำให้กระจกด้านหน้าทุกชั้นของบ้านแตกหมด รวมทั้งตู้กระจกใส่ขนมชั้นล่างและประตูเหล็กด้วย
ผู้จัดการคนหนึ่งของห้างสรรพสินค้าไดอาน่า (ขอสงวนนาม) บอกว่า เจ้าของห้างไดอาน่ากับโชว์รูมโตโยต้าเป็นญาติกัน หลังเกิดเหตุยังไม่มีใครเดินทางมาดู ปกติเวลากลางวันทางโชว์รูมจะจอดรถโชว์ให้ลูกค้าเข้าชม เมื่อปิดบริการก็จะเก็บรถไว้ด้านหลัง ทำให้รถยนต์ในโชว์รูมไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนห้างไดอาน่าจะมี รปภ. (พนักงานรักษาความปลอดภัย) 2 คน คนหนึ่งดูกล้องวงจรปิด อีกคนจะเดินดูรอบๆ ห้าง ความเสียหายที่เกิดกับห้างต้องซ่อมแซมเร่งด่วนเพื่อให้เปิดทำการได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
ตูมสนั่นใกล้จุดตรวจภูมี - ดักบึ้มรถตำรวจยะหาเจ็บ 5
ต่อมาเวลา 07.30 น.วันเดียวกัน เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณสามแยกริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ใกล้กับจุดตรวจยุทธศาสตร์ภูมี บ้านภูมีน้ำพุ่ง หมู่ 2 ต.ยามู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี แม้แรงระเบิดจะไม่ได้ทำให้ผู้ใดได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ทำให้รถตำรวจได้รับความเสียหาย กระจกหน้าแตก 1 คัน จากการตรวจสอบพบระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ในกล่องเหล็ก น้ำหนักประมาณ 3-5 กิโลกรัม
เวลา 10.45 น. พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ มัทยาท ผู้กำกับการ สภ.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา รับแจ้งเหตุระเบิดบนถนนสายยะลา–ยะหา ท้องที่บ้านบาตูปูเต๊ะ หมู่ 3 ต.ลิดล อ.เมืองยะลา จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา)
ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะตราโล่ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ หมายเลขทะเบียน ญย 9800 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของ สภ.ยะหา ถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหายทั้งคัน อยู่ในสภาพหงายท้องอยู่กลางถนน ห่างกันประมาณ 30 เมตรพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บม 7817 สงขลา ของ นายบือราเฮง มะลี ท้ายกระบะอยู่คาหลุมระเบิด ส่วนบริเวณริมถนนบริเวณหัวโค้งยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม 125 สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน กมก 336 ยะลา ล้มคว่ำอยู่ โดยในที่เกิดเหตุยังพบสะเก็ดระเบิด เศษซากชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และสายไฟฟ้าลากยาวเข้าไปในป่าข้างทางยาวประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดเป็นนายตำรวจ สภ.ยะหา ที่โดยสารมากับรถกระบะคันดังกล่าวจำนวน 3 นาย คือ ร.ต.ท.มนตรี วิจิตรเวชการ อายุ 40 ปี ร.ต.ท.สมภพ เพชรมณี อายุ 42 ปี เป็นพนักงานสอบสวน สภ.ยะหา และ ร.ต.ต.วรวิทย์ จันทร์แก้ว อายุ 53 ปี เป็นรองสารวัตรปราบปราม (สวป.) ทำหน้าที่ขับรถ นอกจากนั้นยังมีชาวบ้านที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาอีก 2 ราย ทราบชื่อคือ นายซาอุดี ลาเต๊ะ และ น.ส.ฟาริด๊ะ โต๊ะอาลี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 2 ต.พร่อน อ.เมือง จ.ยะลา
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายได้เดินทางออกจาก สภ.ยะหา เพื่อนำสำนวนการสอบสวนไปส่งที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (บก.ภ.จว.ยะลา) แต่ขณะที่เดินทางถึงจุดเกิดเหตุ มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้แบตเตอรี่กดจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ในถังดับเพลิง น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม ซุกไว้ในท่อระบายน้ำใต้ผิวถนน จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว รถกระบะของตำรวจเสียหลักพลิกคว่ำ ส่วนชาวบ้านที่ขี่รถจักรยานยนต์อยู่ในละแวกนั้นหลังหลับจากกรีดยางพารา โดนสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วน นายบือราเฮง มะลี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/2 หมู่ 6 ต.ลำใหม่ ขับรถกระบะแล่นตามหลังมา รถถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหายและเสียหลักตกลงไปในหลุมระเบิด แต่ตัวนายบือราเฮงไม่ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าทั้งสองเหตุการณ์เป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ยิงหนุ่มขายวัสดุก่อสร้างขณะตระเวนส่งของที่สายบุรี
เวลา 13.25 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายวิธาน ยาชำนาญ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1-3 ถนนชัยมงคล ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบนถนนสายชนบทบ้านกะลูแปเหนือ หมู่ 9 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และสอบสวนจนทราบว่า ขณะเกิดเหตุนายวิธานซึ่งเป็นลูกจ้างร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างใน จ.สงขลา กำลังขับรถกระบะบรรทุกวัสดุก่อสร้างไปส่งตามร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ ต.เตราะบอน โดยมีเพื่อนไปด้วย 1 คน แต่ระหว่างทางถูกคนร้ายประกบยิงจนเสียชีวิต แต่เพื่อนได้เปิดประตูรถวิ่งหนีเข้าป่า จึงรอดชีวิตไปได้ โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงรถพร้อมวัสดุก่อสร้างหลบหนีไปด้วย เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ยิงดับสมาชิก อบต.ศรีบรรพต - เผารถที่เทพา
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพุธที่ 8 พ.ค. เวลา 06.30 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ 4 ประตู สีบรอนซ์ทองเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิง นายสีวากา นิเซ็ง อายุ 46 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 1 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร เสียชีวิตคาที่ และ นายยาลี อาลี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 2 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะที่ นายสีวากายืนอยู่ที่หน้าบ้านของตนเอง โดยเมื่อคนร้ายใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงถล่ม นายสีวากาได้วิ่งหนีเข้าไปในบ้าน คนร้ายตามไปยิงซ้ำจนเสียชีวิต และกระสุนพลาดไปถูก นายยาลี น้องภรรยาของนายสีวากาซึ่งพักผ่อนอยู่ภายในบ้านได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น
ส่วนที่ อ.เทพา จ.สงขลา เวลา 07.30 น. พ.ต.อ.อธิป แสงวันลอย ผู้กำกับการ สภ.เทพา รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน บธ 164 สงขลา บริเวณริมถนนบ้านคลองขุด หมู่ 6 ต.ปากบาง อ.เทพา ได้รับความเสียหายเล็กน้อย จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบเชื้อเพลิงที่คนร้ายใช้คือผ้าชุบน้ำมันแล้วจุดไฟ ถูกวางทิ้งไว้บริเวณท้ายกระบะ
พ.ต.อ.อธิป กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเจ้าของรถแล้ว พบว่ากรณีนี้ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ แต่เป็นเรื่องปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว
นอกจากนั้น ห่างจากจุดเกิดเหตุลอบวางเพลิงรถยนต์ประมาณ 300 เมตร บริเวณริมถนนเลียบรางรถไฟ พื้นที่บ้านท่าม่วง หมู่ 1 ต.ท่าม่วง อ.เทพา ซึ่งเป็นท้องที่รับผิดชอบของ สภ.ห้วยปลิง อ.เทพา มีผู้พบซากรถจักรยานยนต์ถูกเผาเสียหายทั้งคัน จากการตรวจสอบเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ หมายเลขทะเบียน คงง 176 สงขลา
พ.ต.อ.วิเชียร ยันตรัตน์ ผู้กำกับการ สภ.ห้วยปลิง กล่าวว่า เหตุเผารถจักรยานยนต์น่าจะเป็นเหตุการณ์เชื่อมโยงกับกรณีลอบวางเพลิงเผารถรถยนต์ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เทพา เนื่องจากจุดเกิดเหตุทั้ง 2 จุดอยู่ห่างกันเพียง 300 เมตร โดยมีทางรถไฟคั่น เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุพยายามเบี่ยงประเด็นเพื่อให้เข้าใจว่าเป็นสถานการณ์ความไม่สงบ ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ถูกเผากำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาเจ้าของ
ยิงปลัดเทศบาลมายอดับกลางเมืองปัตตานี
วันอังคารที่ 7 พ.ค.เวลา 13.15 น. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายธีรลักษณ์ สุวรรณรัตน์ อายุ 51 ปี ปลัดเทศบาลตำบลมายอ อ.มายอ จ.ปัตตานี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 60/2 หมู่ 5 ต.จะทิ้งพระ อ.สทิงพระ จ.สงขลา เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะที่ นายธีรลักษณ์ กำลังเดินเข้าร้านอาหารเดอนารา ถนนเจริญประดิษฐ์ บ้านรูสะมิแล หมู่ 1 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่เรื่องการเมืองท้องถิ่น
เวลา 20.35 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนลูกซองยิง นางตีบ แดงดี อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/1 บ้านปลักแตน หมู่ 4 ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี และ นายมาโนช ทองเอียด อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/3 หมู่ 3 ต.ไม่แก่น อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เหตุเกิดขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งคุยกันอยู่ที่หน้าบ้านของนางตีบ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
วันจันทร์ที่ 6 พ.ค.เวลา 17.15 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดประกบยิง นายเจะยิ เจะมะ อายุ 62 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง บ้านตะโละแลแจ อยู่บ้านเลขที่ 78/1 บ้านตะโละแลแจ บ้านย่อยของบ้านลุโบะสาวอ หมู่ 2 ต.ลุโบะสาวอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ทำให้ นายเจะยิ เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนในหมู่บ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงเหตุยิง 6 ศพ - เผา 8 อบต.
ด้านความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้าย 4 คนมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 เอชเค และอาก้ารวม 4 กระบอก กราดยิงใส่ร้านขายของชำในพื้นที่หมู่ 5 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 1 พ.ค.2556 จนมีประชาชนเสียชีวิต 6 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กอายุ 2 ขวบเศษ และยังมีคนพิการรวมอยู่ด้วย โดยหลังเกิดเหตุมีการโปรยใบปลิวอ้างว่าเป็นการกระทำของกลุ่มบีอาร์เอ็น และเป็นการแก้แค้นเหตุวิสามัญฆาตกรรมกลุ่มผู้ต้องสงสัยติดอาวุธ 3 รายในพื้นที่รอยต่อ อ.บันนังสตา กับ อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2556 จนเกิดเสียงวิจารณ์ในพื้นที่อย่างกว้างขวางนั้น
เมื่อวันจันทร์ที่ 6 พ.ค. ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ความรุนแรงภายหลังเปิดพื้นที่เจรจากับกลุ่มที่มีความคิดเห็นต่างจากรัฐ โดยเฉพาะกรณี 6 ศพ โดยมี นายวิสุทธิ์ สิงขจรวรกุล สมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตผู้อำนวยการ ศอ.บต.เป็นประธาน และมี นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นรองประธาน
ส่วนเหตุการณ์คนร้ายลอบเผาที่ทำการ อบต.และอาคารส่วนราชการของ อบต. 8 แห่งเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 5 พ.ค.นั้น พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) แถลงว่า คนร้ายมุ่งลอบวางเพลิง อบต.เป็นส่วนใหญ่ ไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่หรือผู้ที่เป็นยามรักษาการ นอกจากนั้นยังมีการป่วนสร้างสถานการณ์ในอีกหลายพื้นที่ เช่น การโปรยตะปูเรือใบ ตัดต้นไม้ขวางถนน เผายางรถยนต์ และลอบวางเพลิงเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเหตุการณ์ในส่วนอื่นๆ เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่ และต้องการขัดขวางไม่ให้เข้าช่วยเหลือดับเพลิง อบต.ที่ถูกเพลิงไหม้
เรื่องนี้ พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอซึ่งเป็นกลไกหลักที่ขับเคลื่อนการแก้ปัญหาในระดับพื้นที่ เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ลอบเผา อบต.มีสาเหตุมาจากเรื่องใดแน่ และขอชื่นชมผู้นำท้องถิ่น รวมทั้งพี่น้องประชาชนที่ได้เข้าไปช่วยควบคุมเพลิงได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ความเสียหายมีไม่มากนัก
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1, 3 และ 4 ความเสียหายของโชว์รูมรถยนต์โตโยต้ากลางเมืองปัตตานี
2 บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าไดอาน่า ปัตตานี ที่ถูกลอบวางระเบิด
5 รถตำรวจ สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิดใกล้จุดตรวจภูมี
6-7 เหตุลอบวางระเบิดรถตำรวจ สภ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งมีประชาชนโดนลูกหลงด้วย