logo isranews

logo small 2

เปิดพฤติกรรม‘บิ๊กกรมศุลฯ’สั่งยกเลิกประเมินภาษีเอื้อ 2 บ.นำเข้ารถหรู 16 คัน - สตง.สอบ

เขียนวันที่
วันอังคาร ที่ 12 กรกฎาคม 2559 เวลา 16:30 น.
เขียนโดย
isranews

เปิดพฤติกรรมละเอียด บิ๊กกรมศุลฯ สั่งยกเลิกประเมินภาษี บ.นำเข้ารถยนต์ยี่ห้อหรู 16 คัน รัฐเสียหายหลายสิบ ล. ก่อนถูก สตง.สอบ – สาวลึก 2 เอกชนมีผู้ถือหุ้น กลุ่มเดียวกัน

piccarrrrrrr12 7 16

กรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อยู่ระหว่างการตรวจสอบการจัดเก็บภาษีอากรของกรมศุลกากรอันเนื่องจาก เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร (ตำแหน่งขณะนั้น) ได้สั่งคืนภาษีอากร (ที่รัฐจะต้องจัดเก็บตามกฎหมาย) ให้แก่ บริษัท จูบิไลน์ จำกัด และ บริษัท นิชคาร์ จำกัด ผู้นำเข้ารถยนต์หรูจากประเทศอังกฤษ แต่สำแดงราคานำเข้าต่ำกว่าความเป็นจริงโดยเกี่ยวพันกับรองอธิบดีกรมศุลกากร (ตำแหน่งในขณะนั้น) และเจ้าหน้าที่อีก 2 คน ตามข่าวที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานก่อนหน้านี้ (อ่านประกอบ:สตง.สอบบิ๊กกรมศุลฯสั่งยกเลิกประเมินภาษี บ.นำเข้ารถหรู 16 คัน เสียหายหลายสิบ ล.)

piccddddeee12 7 16

ล่าสุด ก่อนเรื่องจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ สตง. สำนักข่าวอิศรา ขอนำความเป็นมาในกรณีดังกล่าว พร้อมข้อสังเกต มาเสนอ

บริษัท จูบิไลน์ จำกัด ได้นำรถยนต์ยี่ห้อ LAMBORGHINI รุ่น GALLARDO จำนวน 6 คันราคาคันละกว่า 20 ล้านบาทผลิตจากประเทศอิตาลี และ บริษัท นิชคาร์ จำกัด ได้นำเข้ารถยนต์ยี่ห้อ LOTUS รุ่น EXIGE และ ELISE จำนวน 10 คัน ราคาคันละกว่า 10 ล้านบาท ผลิตจากประเทศอังกฤษ (รวมนำเข้า 2 บริษัทประมาณ 230 ล้าน) เข้ามาเก็บไว้ในเขตปลอดอากรบางกอกฟรีโซน ถ.บางนา-ตราด

ต่อมาทั้งสองบริษัทได้ยื่นใบขนสินค้าขาเข้าขอเสียภาษีเพื่อนำรถยนต์จำนวนดังกล่าวออกจากเขตปลอดอากรเพื่อขายในประเทศ แต่สำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่รับผิดชอบเขตปลอดอากรในเวลานั้นให้บริษัททั้งสองวางประกันราคาเพิ่ม เพื่อรับรถยนต์ทั้ง 16 คันออกไป ขณะที่บริษัทฯกลับไม่ยอมมาชี้แจงเหตุผลหรือแสดงหลักฐานการซื้อขายที่ชำระเงินกันจริง

เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการคลังสินค้าทัณฑ์บนและเขตปลอดอากรที่ 3 (บางปู) สำนักงานศุลกากรกรุงเทพฯ รับผิดชอบจึงได้ออกแบบแจ้งการประเมินอากรเพื่อให้บริษัทฯมาชำระเงิน และเพื่อให้บริษัทฯใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ราคา และได้สั่งการให้ผลักเงินประกันเป็นค่าภาษีอากรรายได้แผ่นดินจำนวนหลายสิบล้านบาท

ต่อมาบริษัททั้งสองได้รับแบบแจ้งการประเมินอากรจากกรมศุลกากรแล้วยื่นอุทธรณ์และคัดค้านการประเมินภาษีอากร ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ดังนี้

1.บริษัท จูบิไลน์ จำกัด ได้ยื่นคำอุทธรณ์และคัดค้านการประเมนภาษีอากร เลขที่ 0002-0007 ลงวันที่ 19 พ.ค.2552

2.บริษัท นิชคาร์ จำกัด ได้ยื่นคำอุทธรณ์และคัดค้านการประเมนภาษีอากร เลขที่ 0008-0017 ลงวันที่ 19 พ.ค.2552

เมื่อสำนักมาตรฐานพิธีการละราคาศุลกากร กรมศุลกากร ได้รับคำอุทธรณแล้ว เจ้าหน้าที่นักวิชาการศุลกากรชำนาฯการ ซึ่งเป็นหัวหน้าอุทธรณ์ราคา มิได้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ แต่ได้นำเรื่องพิจารณาเสียเอง และได้เสนอเรื่องให้รองอธิบดีกรมศุลฯ (ตำแหน่งขณะนั้น) ใช้อำนาจทางการบริหารแก้ไขเปลี่ยนแปลงการกำหนดราคาศุลกากร และเพิกถอนการออกแบบแจ้งการประเมินอากร โดยอ้างว่าการกำหนดราคาศุลกากรรถยนต์จำนวน 16 คัน รวมทั้งการออกแบบแจ้งการประเมินอากรก่อนหน้านี้ไม่ถูกต้อง และได้ส่งเรื่องกลับให้หัวหน้าฝ่ายบริการคลังสินค้าทัณฑ์บนและเขตปลอดอากรที่ 3 (บางปู) ยกเลิกแบบแจ้งการประเมินอากร และแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาเองเพื่อทบทวนราคารถยนต์ทั้ง 16 คัน พร้อมทั้งสั่งคืนเงินภาษีอากรจำนวนหลายสิบล้านบาทให้แก่ผู้นำเข้ารถยนต์ทั้งสอง ต่อมาบริษัททั้งสองได้รับเงินค่าภาษีคืนแล้วก็ได้ขอถอนคำขออุทธรณ์

น่าสังเกตว่า การกระทำของข้าราชการกรมศุลกากร 3 คน ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเมื่อผู้นำเข้าได้ยื่นคำขออุทธรณ์การประเมินอากรแล้ว อำนาจในการพิจารณาอุทธรณ์ย่อมต้องเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ที่มีอธิบดีกรมศุลกากรเป็นประธานคณะกรรมการ ตามมาตรา 112 สัตตแห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบมาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539

อีกทั้ง การ“ขอถอนคำอุทธรณ์” ก็ต้องเสนอเรื่องให้คณะกรรมการอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาอนุมัติไม่อาจได้รับเงินค่าภาษีคืนอีกด้วย เพราะต้องถือว่ายอมรับผลแห่งการประเมินราคาตามจำนวนเงินที่ระบุในแบบแจ้งการประเมินอากร

นอกจากกรณีนี้ ยังมีกรณีอื่น อาทิ กรณีนำเข้ารถยนต์หรูนับหมื่นคันและสำแดงราคาต่ำ (ทำให้ค่าภาษีของรัฐขาดหายไปนับหมื่นล้านบาท) ถูกตัดตอนมิให้นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ด้วยหรือไม่? 

จากการตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า บริษัท จูบิไลน์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 27 ตุลาคม 2543 ทุน 10 ล้านบาท ปัจจุบัน 20 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 2366 ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 30 เมษายน 2558 นายวิทวัส ชินบารมี นางผ่องศรี สุทธิรัตน์เสรีกุล และ นายวิชญา รักษ์วิทย์ ถือหุ้นใหญ่ นางผ่องศรี สุทธิรัตน์เสรีกุล เป็นกรรมการ

บริษัท นิชคาร์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2547 ทุน 10 ล้านบาท ปัจจุบัน 50 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 760/469 ซอยพัฒนาการ38 ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร นาย วิทวัส ชินบารมี กรรมผู้อำนาจ บัญชีผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 22 มิ.ย.2558 น.ส. ศิริพรรณ บุญประกอบ ถือหุ้น 99.99% และเป็นกรรมการ

กรณีนี้ต้องติดตามผลตรวจสอบของ สตง.กันต่อไป และ อดีตข้าราชการระดับสูงรายนี้เป็นใคร?