แกะรอยโฉนดที่ดินร้านอาหาร'อินเลิฟ’ ก่อนกรมเจ้าท่า สั่งรื้อปมรุกล้ำเจ้าพระยา
ชัด ๆ! โฉนดที่ดินร้านอาหาร ‘อินเลิฟ’ ก่อน-หลัง ปรับปรุงของตระกูล ‘อนิรุทธเทวา’ ชาวบ้านร้องทิ้งขยะลงแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งยังส่งเสียงดัง ‘กรมเจ้าท่า’ ยันหากพ้นกำหนดยังไม่รื้อ จะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ ต่อไป
กรณี นายปกรณ์ ประเสริฐวงษ์ หัวหน้ากลุ่มสิ่งแวดล้อม รักษาการผู้อำนวยการสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ กรมเจ้าท่า มีหนังสือถึงผู้จัดการ เจ้าของ หรือผู้ครอบครอง 'ร้านอาหารอินเลิฟ' ให้รื้อถอนสิ่งล่วงล้ำลำน้ำใน 30 วัน เนื่องจาก ผู้พักอาศัยใกล้เคียงร้องเรียนว่า ร้านอาหารดังกล่าวก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำ อีกทั้ง มีการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งเสียงรบกวน ทำให้ได้รับความเดือดร้อน โดย หากทางร้านประสงค์จะอุทธรณ์หรือโต้แย้งคำสั่ง สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อกรมเจ้าท่าภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ
โดยเบื้องต้น กรมเจ้าท่า ตรวจสอบพบว่า เอกสารการขออนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำบริเวณดังกล่าว ได้เคยมีการมาขออนุญาตทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำจริง ตามใบอนุญาตเลขที่ 64/2533 เมื่อ 30 ส.ค. 2533 เพื่อทำการซ่อมแซมบ้าน หน้าโฉนดเลขที่ 7650 แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ขนาด 9.5 x 10.5 ม. แต่ปัจจุบันร้านอาหารได้มีการปรับปรุงจนมีขนาด 20.8 x 30 ม. โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า แต่อย่างใด
(อ่านประกอบ : 'เจ้าท่า'สั่งรื้อใน 30 วัน!'อิน เลิฟ'ร้านอาหารดังรุกแม่น้ำเจ้าพระยา-เจ้าของยังไม่แจง )
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 58 นายสมชาย สุมนัสขจรกุล รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้มีหนังสือถึงเจ้าของร้านอาหารอินเลิฟ ระบุว่า ก่อนหน้าที่จะมีข้อร้องเรียน กรมเจ้าท่า เคยได้ดำเนินการตรวจสอบร้านอาหารดังกล่าวแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่พบเจ้าของร้านหรือผู้ครอบครอง โดยได้แจ้งให้มาพบเจ้าหน้าที่ เพื่อนำเอกสารหรือหลักฐานต่าง ๆ มาแสดงภายในวันที่ 15 ก.ค. 58 และภายในวันที่ 7 ส.ค. 58 เพื่อตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการก่อสร้างร้านอาหาร แต่พอถึงกำหนดก็มิได้มาพบ แต่อย่างใด
หนังสือฉบับนี้ยังระบุด้วยว่า หากพ้นกำหนดเวลาแล้ว ยังมิได้รื้อถอนร้านอาหารออกไป จะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ใบอนุญาตกรมเจ้าท่าให้ทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ เลขที่ 64/2533 เมื่อ 30 ส.ค. 2533 ระบุผู้ได้รับมอบหมายอำนาจเจ้าท่า จากอธิบดีกรมเจ้าท่า โดย ออกใบอนุญาตให้แก่ พลเอกเฟื่องเฉลย อนิรุทธเทวา อยู่บ้านเลขที่ 2 ถ.กรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพ ฯ เพื่อทำการซ่อมแซมบ้านฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กทม. โดย ใบอนุญาตดังกล่าว มีกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่ลงไว้ในใบอนุญาต ขณะที่ ระบุเงื่อนไขว่า กรมเจ้าท่ามีสิทธิเรียกใบอนุญาตนี้คืนได้ทุกเมื่อ ถ้ามีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น ต่อไปนี้
1.ถ้าปรากฏในภายหลังว่า สิ่งที่ได้รับอนุญาตให้ทำดังกล่าวนี้ ล่วงล้ำออกมากีดขวางทางเดินเรือ
2. ถ้ามีเหตุจำเป็นที่กรมเจ้าท่าจะต้องการให้เลื่อนถอยรื้อถอนไปชั่วครั้งคราว เพื่อประโยชน์และความสะดวกในการเดินเรือ
3. ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินการของทางราชการ ซึ่งจำเป็นจะต้องรื้อถอนเลื่อนหรือถอยไปให้พ้นจากพื้นที่ ที่จอดหรือปลูกโดยรัฐบาลจะต้องการที่เป็นต้น
4. หากปรากฏภายหลังว่า สิ่งปลูกสร้างที่ขออนุญาตได้เปลี่ยนแปลงผิดไป จากวัตถุประสงค์เดิมที่ขออนุญาตไว้ อันเป็นการละเมิดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย
5. ผู้ขออนุญาตจะต้องซ่อมแซมตามรูปแบบเดิม และใช้วัสดุเดิม
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า โฉนดที่ดินเลขที่ 7650 ออกโดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายที่ดิน ให้แก่ คุณหญิงเฉลา อนิรุทธเทวา อยู่บ้านเลขที่ 6 แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพ ฯ โดย ที่ดินแปลงนี้มีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ 2 งาน 84 ตร.วา ออกให้เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2527
นอกจากนี้ แผนที่โดยสังเขป ชี้ให้เห็นว่า อาคารเดิมมีขนาด กว้าง 13 ม. ยาว 14 ม. คิดเป็นพื้นที่ทั้งหมด 182 ตร.ม. ก่อนจะขอปรับปรุง(เดิม) จนมีขนาด กว้าง 20.8 ม. ยาว 30 ม. คิดเป็นพื้นที่ทั้งหมด 624 ตร.ม. ต่อมา มีการลดขนาดลง (ปัจจุบัน) โดย กว้าง 17.3 ม. ยาว 30 ม. คิดเป็นพื้นทีทั้งหมด 519 ตร.ม.
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้เดินทางไปที่ร้านอาหารอินเลิฟ เพื่อติดต่อขอสัมภาษณ์เจ้าของหรือผู้ครอบครองร้านดังกล่าว ให้ชี้แจงข้อเท็จจริง
เจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ยืนยันว่า “ขอให้ทิ้งเบอร์โทรติดต่อกลับไว้ได้หรือไม่ พอดีผู้จัดการยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แล้วอย่างไร เลขา ฯ ผู้จัดการจะติดต่อกลับไป”
และจนถึงเวลานี้ยังไม่มีผู้ใดติดต่อกลับมา แต่อย่างใด
ทั้งหมด คือ ข้อมูลการตรวจสอบร้านอาหาร "อินเลิฟ" ที่กรมเจ้าท่า ได้มีการเรียกเจ้าของหรือผู้ครอบครองร้านอาหารดังกล่าว เพื่อให้ชี้แจงและยื่นเอกสารหลักฐานแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่มีผู้ใดมาพบเจ้าหน้าที่ รวมถึง โฉนดที่ดินและใบอนุญาตกรมเจ้าท่าให้ทำสิ่งล่วงล้ำ ที่มีกำหนด 1 ปี ตลอดจน เงื่อนไขทั้งหมด