ชำแหละ‘พฤติกรรม’จัดซื้ออาหารดิบเรือนจำ 92 แห่งส่อฮั้ว - คู่ค้าช่วงรับ 97% ?
ชำแหละ‘พฤติกรรม’จัดซื้ออาหารดิบเรือนจำผ่านหนังสือ ‘ผู้ประกอบการรายย่อย’ร้อง‘บิ๊กตู่’ยกเลิกสิทธิพิเศษ 4 หน่วยงานจ้าง'วิธีกรณีพิเศษ'งัดข้อมูล 92 แห่งส่อฮั้ว เลือกจิ้มบางรายเป็น‘คู่ค้าช่วง’รับ 3% ที่เหลือคู่ค้าฟัน 97% ก่อนเสนอให้ใช้ระบบ อี-บิดดิ้ง แทนทั้งหมด
11 ส.ค.58 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการรายย่อยได้แก่ นายรุจน์ ทรงแสงธรรม นายปราโมทย์ เจริญลาภนพรัตน์ นายสายัณ อบเชย นายกิตติศักดิ์ อนันต์พิพัฒน์กิจ และนายคฑายุทธ แซ่เตีย ได้ส่งหนังสือร้องเรียนถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้พิจารณาสั่งยกเลิกสิทธิพิเศษขององค์การตลาด กระทรวง มหาดไทย องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร องค์การคลังสินค้า และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ในการเสนอราคาการจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง พร้อมทั้งมีบัญชาสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ยกเลิกการจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง โดยวิธีกรณีพิเศษ กรณีที่ไม่มีเหตุผลและความจำเป็นเท่าที่ควร
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลคำร้องมาเสนออย่างละเอียดดังนี้
เรื่องเดิม
1. ในการจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 พันตำรวจเอกสุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ในขณะนั้น ได้มีหนังสือสั่งการให้เรือนจำและทัณฑสถาน ทำการจัดซื้อด้วยวิธีการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 (E-Auction)
2. ในการจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 และพ.ศ. 2557 พันตำรวจเอกสุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ในขณะนั้น ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการจัดซื้อจากวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 (E-Auction) เป็นวิธีการจัดซื้อโดยวิธีกรณีพิเศษ โดยอ้างเหตุผลว่า เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการลักลอบนำยาเสพติดและสิ่งของต้องห้ามเข้าสู่เรือนจำ
3. ในการจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 นายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์คนปัจจุบัน ได้นำวิธีการจัดซื้อโดยวิธีกรณีพิเศษ มาใช้ทำการจัดซื้อโดยใช้เหตุผลเช่นเดียวกันกับของพันตำรวจเอกสุชาติ วงศ์อนันต์ชัย
ข้อเท็จจริง
1. ในการจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 (E-Auction) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 นอกจากจะเป็นวิธีการจัดซื้อที่โปร่งใสและเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีอาชีพในการขายเครื่องอุปโภคและบริโภคโดยทั่วไป ได้เข้าร่วมแข่งขันราคากันอย่างเป็นธรรมแล้ว ยังเป็นวิธีการจัดซื้อที่ทำให้ราชการสามารถประหยัดงบประมาณได้เป็นจำนวนมาก และไม่เคยปรากฏว่ามีผู้รับจ้างรายใด ละทิ้งงานหรือถูกจับกุมเพราะการลักลอบนำยาเสพติดหรือสิ่งของต้องห้ามเข้าสู่เรือนจำพร้อมกับการจัดส่งอาหารดิบเลยแม้แต่รายเดียว
2. กรมราชทัณฑ์ทราบข้อเท็จจริงดีอยู่แล้วว่า การป้องกันการลักลอบนำยาเสพติดหรือสิ่งของต้องห้ามเข้าสู่เรือนจำเป็นหน้าที่โดยตรงของเรือนจำและทัณฑสถาน อีกทั้งถ้าเจ้าหน้าที่ของเรือนจำไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว ยาเสพติดหรือสิ่งของต้องห้าม จะเข้าไปในเรือนจำไม่ได้ แต่กรมราชทัณฑ์ก็ยังคงนำปัญหาการลักลอบนำยาเสพติดและสิ่งของต้องห้ามเข้าสู่เรือนจำพร้อมกับอาหารดิบ มาใช้เป็นข้ออ้างและเหตุผล เพื่อให้เรือนจำและทัณฑสถานทำการจัดซื้ออาหารดิบสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังมาโดยตลอด ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 จนถึงปัจจุบัน
3. ในการตรวจค้นยาเสพติดและสิ่งของต้องห้ามตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการตรวจพบยาเสพติดและโทรศัพท์มือถืออยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานเป็นจำนวนมาก ฉะนั้น อธิบดีกรมราชทัณฑ์จึงไม่ควรที่จะนำปัญหาการลักลอบนำยาเสพติดและสิ่งของต้องห้ามเข้าสู่เรือนจำพร้อมกับอาหารดิบ มาใช้เป็นเหตุผลเพื่อให้เรือนจำและทัณฑสถาน ทำการจัดซื้ออาหารดิบโดยวิธีกรณีพิเศษได้อีกต่อไป
4. มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2553 กำหนดให้ส่วนราชการที่จะจัดซื้อเครื่องบริโภคอุปโภค โดยวิธีกรณีพิเศษ ให้หน่วยราชการแจ้งหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษ อย่างน้อย 3 ราย จากจำนวนทั้งหมด 5 รายให้มาเสนอราคา และให้ซื้อจากรายที่เสนอราคาต่ำสุด แต่กรมราชทัณฑ์ได้มีการสั่งการให้เรือนจำและทัณฑสถาน เลือกปฏิบัติโดยสั่งการให้เรือนจำและทัณฑสถานใช้ดุลพินิจแจ้งหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษที่มีความน่าเชื่อถือและสามารถที่จะตอบสนองวัตถุประสงค์ตามข้อ 1. ของคำสั่ง ดังนี้
ข้อที่ 1. การจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) มีปัจจัยที่ควรคำนึงถึง ดังนี้
1.1 การลักลอบนำยาเสพติดเข้าภายในเรือนจำ ปัจจุบันยังเป็นปัญหาเกือบทุกเรือนจำ การส่งอาหารก็เป็นปัจจัยหนึ่ง ที่เป็นช่องทางในการลักลอบนำยาเสพติดเข้าในเรือนจำ ดังนั้น กรมราชทัณฑ์จะต้องพิจารณาผู้ประกอบการที่มีความซื่อสัตย์ ไว้ใจได้ ไม่สร้างปัญหาในเรื่องดังกล่าว
5. จากรายละเอียดตามความในข้อ 4. จะเห็นได้ว่าคำสั่งของกรมราชทัณฑ์ดังกล่าว เป็นคำสั่งที่ขัดต่อมติคณะรัฐมนตรีเป็นที่ประจักษ์โดยชัดเจน เนื่องจากหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษทุกหน่วยงาน มีสิทธิในการเข้าร่วมเสนอราคากับเรือนจำและทัณฑสถานต่างๆอย่างเท่าเทียมกันทั้งหมด ส่วนการป้องกันการลักลอบนำยาเสพติดหรือสิ่งของต้องห้ามเข้าสู่เรือนจำพร้อมกับอาหารดิบ เป็นหน้าที่โดยตรงของเรือนจำและทัณฑสถาน กรมราชทัณฑ์จะให้เรือนจำและทัณฑสถาน ใช้ดุลพินิจในการเลือกแจ้งหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษที่มีความน่าเชื่อถือ และสามารถที่จะตอบสนองวัตถุประสงค์ของเรือนจำและทัณฑสถาน แบบมีนัยยะมิได้ เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีการพิจารณาเห็นชอบและได้ให้สิทธิในการเสนอราคากับทุกหน่วยงานไว้อย่างชัดเจนแล้ว
6. การจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังโดยวิธีกรณีพิเศษ ซึ่งเป็นการจัดซื้อจากหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษตามมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 5 หน่วยงาน คือ องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร องค์การคลังสินค้า ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด และสถาบันเกษตรกร ซึ่งในทางปฏิบัติ หน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษทั้งหมด จะไม่สามารถจำหน่ายและจัดส่งอาหารดิบฯ ให้กับเรือนจำและทัณฑสถานต่างๆได้โดยตรง หน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษที่เป็นคู่สัญญากับเรือนจำหรือทัณฑสถานต่างๆ จะต้องไปจ้างช่วงให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนในการจำหน่ายและจัดส่งแทนหน่วยงานทั้งหมด โดยหน่วยงานจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากการเป็นคู่สัญญาในอัตราเพียงร้อยละ 3 ของวงเงินงบประมาณ ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 97 จะเป็นของตัวแทนทั้งหมด ฉะนั้น ด้วยผลประโยชน์ของตัวแทนที่มีจำนวนมากถึงร้อยละ 97 ของวงเงินงบประมาณ จึงทำให้หน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษ สามารถนำสิทธิพิเศษตามมติคณะรัฐมนตรี ไปสร้างเงื่อนไขในการเรียกรับผลประโยชน์ในการให้สิทธิการเป็นตัวแทนในการจำหน่ายและจัดส่งอาหารดิบฯของแต่ละหน่วยงานได้โดยง่าย ดังเช่นกรณีที่ ป.ป.ช. และตำรวจได้ทำการจับกุมตัวนายพงศ์วิทย์ เหลืองช่วยโชค รองผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เป็นต้น
7. ในการจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 และ พ.ศ. 2557 เรือนจำและทัณฑสถานทั้งหมด ได้แจ้งให้หน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษเฉพาะ 4 หน่วยงานคือ องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร องค์การคลังสินค้า และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ให้เข้าร่วมเสนอราคา แต่เมื่อได้นำหลักฐานการเสนอราคาของหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษของทั้ง 4 หน่วยงาน ที่ได้เสนอกับเรือนจำและทัณฑสถานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 จำนวน 92 แห่ง มาพิจารณาแล้วพบว่าการเสนอราคาดังกล่าวมีพฤติการณ์ในลักษณะของการส่อฮั้วประมูลกันทั้งหมด?
8. จากการแสวงหาข้อเท็จจริง เกี่ยวกับกรณีการเสนอราคาและการแต่งตั้งตัวแทนในการจำหน่ายอาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) ให้กับเรือนจำและทัณฑสถาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 จำนวน 98 แห่ง พบว่าหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษ มีการเสนอราคากันในลักษณะของการส่อฮั้วประมูลในเรือนจำ/ทัณฑสถาน จำนวน 92 แห่ง (ไม่รวมเรือนจำและทัณฑสถานในภาคใต้)
8.1 องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร องค์การคลังสินค้า และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ได้มีการรวมกันเสนอราคา โดยการหลีกเลี่ยงและละเว้นการเสนอราคา หรือส่อว่าจงใจเสนอราคาให้ผิดเงื่อนไขการเสนอราคา ในกรณีที่หน่วยงานของตนเองมิได้เป็นคู่สัญญากับเรือนจำหรือทัณฑสถานแห่งนั้น
8.2 องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และองค์การคลังสินค้า ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่ได้รับสิทธิพิเศษ ตามมติคณะรัฐมนตรี ได้มีการฝ่าฝืนข้อบังคับของหน่วยงาน ว่าด้วยการมอบอำนาจของผู้อำนวยการให้บุคคลอื่นทำการแทน เนื่องจากได้มีการมอบอำนาจให้เอกชนกำหนดราคา กรอกใบเสนอราคา ลงนามในใบเสนอราคา และเป็นผู้เสนอราคาแทนผู้อำนวยการ และหรือมอบเอกสารการเสนอราคาให้เอกชน นำไปเสนอราคากับเรือนจำหรือทัณฑสถาน โดยไม่มีการมอบอำนาจจากผู้อำนวยการ
8.3 องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร องค์การคลังสินค้า และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ได้มีการแต่งตั้งตัวแทนรายเดียวกันให้เป็นตัวแทนฯของหน่วยงาน ฉะนั้น จึงถือว่าหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าว มีการแต่งตั้งตัวแทนที่ทับซ้อนกัน และมีผลประโยชน์ระหว่างหน่วยงานร่วมกันโดยชัดเจน
8.4 นอกจากจะแต่งตั้งตัวแทนรายเดียวกัน ให้เป็นตัวแทนของหน่วยงานแล้ว หน่วยงานยังได้แต่งตั้งบุคคลใกล้ชิดหรือเครือญาติของกลุ่มตัวแทน ให้แยกไปเป็นตัวแทนของแต่ละหน่วยงาน เพื่อป้องกันการตรวจสอบกรณีการฮั้วประมูลและกรณีการเสียภาษีของตัวแทน ซึ่งพวกข้าพเจ้าจะได้แจ้งข้อมูลของกลุ่มตัวแทนดังกล่าวให้ฯพณฯนายกรัฐมนตรีทราบในโอกาสต่อไป
8.5 องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด และตัวแทนฯ มีระบบผูกขาดในการจำหน่ายอาหารดิบฯ ให้กับเรือนจำและทัณฑสถานแต่ละแห่งมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย จนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานในปัจจุบัน ซึ่งถ้าหน่วยงานฯและกลุ่มตัวแทนฯดังกล่าว ไม่มีข้อตกลงร่วมกันไว้ก่อนเป็นการล่วงหน้า (ส่อฮั้วประมูล?) ระบบผูกขาดในการจัดส่งอาหารดิบฯกับเรือนจำและทัณฑสถานต่างๆ จะเกิดขึ้นไม่ได้อย่างแน่นอน
9. สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษตามมติคณะรัฐมนตรี เช่นเดียวกับองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร องค์การคลังสินค้า และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ได้เสนอตัวเพื่อขอเข้าร่วมแข่งขันราคาในการจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 โดยวิธีกรณีพิเศษ กับทัณฑสถานวัยหนุ่มพระนครศรีอยุธยา ทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา เรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรือนจำจังหวัดอ่างทอง และเรือนจำจังหวัดสระบุรี ซึ่งในการเสนอราคาดังกล่าว ไม่มีกรณีการฮั้วประมูลกันเกิดขึ้น จึงทำให้องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด จำต้องทำการแข่งขันราคากับสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ตามความเป็นจริง และสามารถเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางได้มากถึง 18.21 - 63.40 เปอร์เซ็นต์ ราชการสามารถประหยัดงบประมาณของแผ่นดินลงได้ประมาณ 112,079,312 บาท สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558
ฉะนั้น เพื่อให้มาตรการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ตามคำสั่งของ คสช.ที่69/2557 และนโยบายของรัฐบาลข้อที่ 10 มีผลในทางปฏิบัติเกิดขึ้นจริง พวกข้าพเจ้าจึงขอให้ฯพณฯนายกรัฐมนตรี ได้โปรดมีบัญชาสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ ทำการจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ในปีงบประมาณต่อไปด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (E-Bidding) เช่นเดียวกับการจัดซื้อของสถานพินิจ โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์ โรงเรียนทหาร โรงเรียนตำรวจ เป็นต้น อีกทั้งขอให้ฯพณฯนายกรัฐมนตรี ได้โปรดพิจารณาทบทวนและยกเลิกสิทธิพิเศษขององค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร องค์การคลังสินค้า และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ต่อไปด้วย เนื่องจากหน่วยงานทั้ง 4 แห่งดังกล่าว ได้นำสิทธิพิเศษของหน่วยงานไปให้เอกชนใช้เป็นช่องทางในการประกอบธุรกิจ และแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติหรือไม่ ส่งผลทำให้ราชการได้รับความเสียหายมาเป็นระยะเวลานานมากพอสมควรแล้ว
ทั้งนี้ พวกข้าพเจ้าจะได้รวบรวมข้อมูล พยานหลักฐานการทุจริตในการเสนอราคาขององค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร องค์การคลังสินค้า และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด แยกเรื่องเป็นรายเรือนจำและทัณฑสถานจำนวน 92 เรือนจำและทัณฑสถาน ส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการทุจริต เป็นผู้พิจารณาทำการตรวจสอบพฤติการณ์ในการเสนอราคาของหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษ พร้อมทั้งจะได้ส่งสำเนากราบนำเรียนให้ฯพณฯนายกรัฐมนตรีทราบในโอกาสต่อไป จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดทราบและมีบัญชาสั่งการต่อไป
ต้องรอดูว่ารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะตรวจสอบข้อเท็จจริงพฤติกรรมข้างต้นและจะแก้ไขปัญหานี้ให้โปร่งใสอย่างไร?