- Home
- Community
- ประชานิยม - ประชาคม
- เทกระจาดเงินเอสเอ็มแอล"กิตติรัตน์"สั่งแก้หลักเกณฑ์ถลุงงบสะดวก
เทกระจาดเงินเอสเอ็มแอล"กิตติรัตน์"สั่งแก้หลักเกณฑ์ถลุงงบสะดวก
“กิตติรัตน์” สั่งเทกระจาดกองทุนเอสเอ็มแอลลอตแรก 2 หมื่นล้าน ปรับเกณฑ์ปล่อยผี แค่ประชาคมหมู่บ้านมีความเห็นร่วมกันเกินครึ่งไฟเขียวเบิกเงินทำโครงการได้ ทันที ไม่ต้องรอให้อำเภออนุมัติ
นายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (เอสเอ็มแอล) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังเป็นประธาน เห็นชอบหลักเกณฑ์ในการพิจารณาใช้เงินเอสเอ็มแอล โดยการอนุมัติโครงการจะให้เป็นอำนาจของชุมชนในการทำประชาคมร่วมกัน ซึ่งเมื่อประชาคมมีมติเกิน 50% เห็นชอบให้ทำโครงการ ก็จะสามารถนำเงินเอสเอ็มแอลไปใช้ได้ทันที เพื่อให้ได้โครงการที่มาจากการตัดสินใจของชุมชนอย่างแท้จริง โดยจะมีคณะทำงานมาพิจารณาในการโอนเงินจากกองทุนไปให้แต่ละหมู่บ้าน ซึ่งจะพิจารณาจากความพร้อม 3 ด้านคือ 1. มีกรรมการเอสเอ็มแอลถูกต้อง 2.มีกรอบระยะเวลาในการดำเนินงานที่ชัดเจน และ 3. มีการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรองรับการโอนเงินหรือไม่ หากครบทั้ง 3 ข้อ จะโอนเงินเอสเอ็มแอลไปให้แต่ละหมู่บ้านทันที
สำหรับการใช้เงินเอสเอ็มแอลรอบนี้จะไม่ยึดตามหลักเกณฑ์เดิมที่แต่ละชุมชนต้องเขียนโครงการนำเสนอและขออนุมัติจากทางอำเภอ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า มีช่องว่างให้เกิดการทุจริตในขั้นตอนดังกล่าว เช่น มีการเสนอขายสินค้าผ่านผู้มีอำนาจอนุมัติ ทำให้ชุมชนไม่ได้ประโยชน์เต็มที่ ซึ่งเกณฑ์การพิจารณาแบบใหม่ตกลงว่า ชุมชนไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเขียนโครงการมาเสนอ แต่หลักก็คือจะให้เงินไปก้อนหนึ่ง เงินตรงนี้จะไปทำอะไรก็ได้ที่เป็นประโยชน์กับชุมชน แต่ต้องเป็นความเห็นชอบจากคนส่วนใหญ่ เช่น ใช้ในการซ่อมแซมถนน หรือซื้อเครื่องสูบน้ำ หากใช้แล้วโครงการประสบผลสำเร็จก็จะอนุมัติให้เงินในปีต่อไป
ทั้งนี้ การเปลี่ยนหลักเกณฑ์การอนุมัติเงินจะทำให้สามารถจัดสรรงบประมาณลงสู่ชุมชนได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งในขณะนี้ทางกองทุนมีเงินเตรียม พร้อมแล้ว สำหรับปีงบประมาณ 2555 โดยจะเริ่มโอนเงินได้ทันทีภายในเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้ทางกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยได้ส่งข้อมูลให้กับคณะกรรมการเอสเอ็มแอลว่ามี
หมู่บ้านและชุมชนที่แสดงความประสงค์ขอใช้เงินเอสเอ็มแอลแล้วจำนวน 74,812 หมู่บ้าน จาก 86,000 หมู่บ้าน หรือคิดเป็น 94% ของหมู่บ้านและชุมชนที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตาม
ประกาศของกระทรวงมหาดไทยทั้งหมด 76 จังหวัด ยกเว้นกรุงเทพมหานคร โดยมี 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว ลำพูน บึงกาฬ หนอง–บัวลำภู ร้อยเอ็ด พังงา และสตูล ที่มีหมู่บ้านยื่นความประสงค์ขอใช้วงเงินครบ 100%
“นายกิตติรัตน์ได้ให้ความเห็นว่า การให้สิทธิ์ขาดกับชุมชนในการพิจารณาการใช้เงิน ไม่ได้เป็นการให้อิสระกับชุมชนมากเกินไป แต่เป็นการให้โอกาสชุมชนในการบริหารจัดการ ได้เรียนรู้และเติบโต โดยต้องเชื่อมั่นในความดีของชุมชนเพราะเราเอาเงินจำนวนนี้ซื้อความเข้มแข็งของชุมชนในอนาคต หากล้มเหลวชุมชนจะรู้ว่าต้องป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างไร เป็นภาพสะท้อนความซื่อสัตย์ในการบริหารงานของชุมชน”
อย่างไรก็ตาม โครงการเอสเอ็มแอลมีเป้าหมายที่จะให้เงินงบประมาณกับหมู่บ้านและชุมชนจำนวน 86,000 ชุมชนทั่วประเทศ โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 35,000 ล้านบาท ซึ่งในขณะนี้มีงบประมาณจากงบประมาณประจำปี 2555 แล้วจำนวน 20,520 ล้านบาท ส่วนที่เหลือนั้นจะเป็นการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมในปีงบประมาณ 2556.