- Home
- Community
- ประชานิยม - ประชาคม
- โต้งสั่งเดินหน้า'กอช.'ได้ให้ออมสิน-ธกส.ร่วมบริหารหั่นงบกองทุนเหลือ 250 ล้าน
โต้งสั่งเดินหน้า'กอช.'ได้ให้ออมสิน-ธกส.ร่วมบริหารหั่นงบกองทุนเหลือ 250 ล้าน
"กิตติรัตน์" ขอให้ธ.ก.ส.และออมสิน ร่วมบริหารจัดการกองทุนการออมแห่งชาติขยายสวัสดิการไปยังผู้มีอาชีพอิสระเชื่อใช้ระบบธนาคารสร้างความมั่นใจเจ้าของเงิน
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้ฝากงานไว้ในที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารครั้งล่าสุด ขอให้ ธ.ก.ส.และธนาคารออมสิน มีส่วนร่วมในการดำเนินการกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.) เพื่อสร้างหลักประกันให้แก่ผู้ที่มีอาชีพอิสระที่ไม่อยู่ในระบบประกันตน
ทั้งนี้ ธ.ก.ส.พร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพราะฐานลูกค้าของธนาคารส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและผู้ที่อยู่ในชนบท ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของ กอช.และยังตรงกับความต้องการของธนาคารที่อยากให้ลูกค้ามีวินัยการออมที่เป็นระบบ เพื่อความมั่นคงในชีวิตสำหรับสิ่งที่ต้องการให้ ธ.ก.ส.ดำเนินการคือ ประชาสัมพันธ์ลงไปในพื้นที่เพื่อชักชวนให้ประชาชนได้เข้ามาเป็นสมาชิก วางแผนการทำงานที่ทำให้ชาวบ้านสามารถออมเงินได้อย่างสม่ำเสมอ จัดระบบปฏิบัติการดูแลเงินออมและเงินสมทบของรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ
"รองนายกฯ เห็นว่า หากให้ธนาคารของรัฐเป็นผู้ดูแลเงินกองทุน กอช. จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ออมได้ว่าเงินของเขาจะไม่หายไปไหน และยิ่ง ธ.ก.ส. เคยมีประสบการณ์ทำกองทุนทวีสุข ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ กอช. จึงมั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากแน่นอน" นายลักษณ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี แนวทางบริหารจัดการเงินนั้น จะอยู่ในรูปเงินฝากเป็นสำคัญ แต่รองนายกรัฐมนตรีเปิดกว้างให้สามารถลงทุนในตราสารหรือพันธบัตรที่ไม่มีความเสี่ยงได้ไม่เกิน 20% โดยรูปแบบการบริหารจัดการได้นำส่งให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พิจารณาต่อไป
นายธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า เพื่อให้ กอช.เกิดขึ้นได้ ธนาคารยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ด้วยฐานลูกค้าของธนาคารที่มีจำนวนเกือบครึ่งหนึ่ง หรือ 11-12 ล้านคน จากกลุ่มเป้าหมายสมาชิกที่ตั้งไว้ 35 ล้านคน โดยขณะนี้เวลามีการประชุมร่วมกับผู้นำหมู่บ้าน ก็จะพ่วงการให้ความรู้เกี่ยวกับ กอช.ด้วย เนื่องจากเป็นรูปบบการออมอย่างหนึ่งที่มีประโยชน์แก่ประชาชน
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ประเด็นที่ทำให้กองทุนเดินได้ล่าช้าคือการขาดงบประมาณสนับสนุน โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลชุดก่อนได้จัดสรรงบประมาณปี 2555 ไว้ให้ 1,000 ล้านบาท แต่รัฐบาลปัจจุบันได้ปรับลดลงเหลือ 250 ล้านบาทเท่านั้น และยังไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายรู้เรื่องเลย