- Home
- Community
- ประชานิยม - ประชาคม
- "เป้าหมายและยุทธศาสตร์การปฏิรูป"
"เป้าหมายและยุทธศาสตร์การปฏิรูป"
การปฏิรูปประเทศมีเป้าหมายในการสร้างความเป็นธรรมลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เกี่ยวพันกับการปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางอำนาจใหม่ และต้องคำนึงถึงความพร้อมของสังคมในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้การปฏิรูปจะบังเกิดผลได้ก็ต่อเมื่อมีแรงขับเคลื่อนของสังคมและมีการเสริมอำนาจของประชาชนที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมด้วย
เป้าหมายของการปฏิรูป คือ การสร้างความเป็นธรรม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เนื่องจากสังคมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การปฏิรูปจึงต้องคำนึงถึงความพร้อมของสังคมในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้การปฏิรูปจะบังเกิดผลได้ก็ต่อเมื่อมีแรงขับเคลื่อนของสังคมและเมื่อมีการเสริมอำนาจของประชาชนที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมด้วย
เป้าหมายเชิงอุดมคติเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของคนไทยซึ่งเป็นทิศทางหลักในการปฏิรูป ประกอบด้วยเป้าหมาย 3 ประการ คือ 1.เป็นชีวิตที่มีศักดิ์ศรีและเท่าเทียมกันในฐานะความเป็นมนุษย์ มีส่วนร่วมทางสังคม มีสำนึกต่อประโยชน์สุขของส่วนรวม และมีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตนทั้งในทางกายใจ ภูมิปัญญา และจิตวิญญาณ 2.เป็นชีวิตที่สงบสุขตามวิถีวัฒนธรรมแห่งสันติภาพ ปราศจากภัยคุกคามจากผู้อื่นหรือการคุกคามซึ่งกันและกัน ตลอดจนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาวะ 3.เป็นชีวิตที่มีหลักประกันในด้านเงื่อนไขการครองชีพและมีกลไกการคุ้มครองทางสังคม
ประเด็นสำคัญที่การปฏิรูปควรจัดการแก้ไข คือ ความเป็นธรรมด้านเศรษฐกิจและสังคม ความเป็นธรรมด้านที่ดินและทรัพยากร ความเป็นธรรมด้านโอกาส ความเป็นธรรมด้านสิทธิ และความเป็นธรรมด้านอำนาจต่อรอง ซึ่งประเด็นเหล่านี้มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายด้านทั้งที่มาจากการดำเนินการของรัฐ เอกชน และแรงผลักดันจากภายนอกซึ่งควบคุมได้ยาก
โดยเฉพาะการรวมศูนย์อำนาจที่เน้นภารกิจของกลไกรัฐแทนที่จะกระจายลงสู่พื้นที่ มีผลทำให้ปัจเจกบุคคลและชุมชนอ่อนแอ ไม่มีพลังเพียงพอในการจัดการชีวิตและทรัพยากรของตนเองได้ เป็นผลพวงทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ โอกาส สิทธิ และอำนาจการต่อรองอื่นๆ ด้วย ตราบใดที่อำนาจการตัดสินใจเกี่ยวกับวิถีชีวิตของประชาชนยังเป็นของรัฐและทุนอยู่ ปัญหาด้านต่างๆ ของประชาชนจึงไม่อาจแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เงื่อนไขที่จะทำให้การปฏิรูปเป็นผลสำเร็จได้คือ การนำเรื่องการกระจายอำนาจมาเป็นทั้งยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ของการเปลี่ยนแปลง แต่จะต้องเป็นการกระจายอำนาจไปสู่สังคมอย่างแท้จริง แทนที่จะเป็นการโอนถ่ายอำนาจระหว่างองค์กรของรัฐ หรือองค์กรปกครองท้องถิ่นที่รัฐยังสามารถควบคุมได้ การกระจายอำนาจสู่สังคมรวมถึงการเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถมีส่วนสำคัญในการจัดการศึกษา ทรัพยากรของชุมชน ตลอดจนการพัฒนาองค์กรประชาชนให้เป็นฐานสำคัญของการพัฒนา การกระจายอำนาจในความหมายนี้จึงเป็นการเพิ่มอำนาจให้แก่ประชาชน ให้ประชาชนมีความรับผิดชอบในการจัดการกับชีวิตของเขาเอง ลดอำนาจของรัฐลง และปรับเปลี่ยนการจัดสรรงบประมาณเสียใหม่ให้ลงสู่พื้นที่ เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนในการกำหนดเป้าหมายด้านคุณภาพชีวิต และจัดทำแผนการพัฒนาด้วยตนเอง การเสริมอำนาจของประชาชนและการกระจายอำนาจจึงเป็นกระบวนการเดียวกัน
การปรับเปลี่ยนดุลอำนาจใหม่ย่อมส่งผลให้เกิดการถ่วงดุลและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐอย่างทั่วด้าน ซึ่งจะทำให้นักการเมืองและข้าราชการต้องทำงานอย่างรับผิดชอบมากขึ้น กับทั้งลดโอกาสที่จะมีการฉ้อราษฎร์บังหลวงและการใช้อำนาจหน้าที่ในการแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวด้วย
ดังนั้น การปฏิรูปจะก่อให้เกิดระบบการเมืองที่โปร่งใสและรับผิดชอบ ก่อให้เกิดสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อคุณภาพชีวิตที่ดี และโอกาสการพัฒนาที่กระจายไปยังทั่วทุกส่วนของสังคม อันจะนำไปสู่การเป็นสังคมที่ความขัดแย้งน้อยลง อยู่ร่วมกันอย่างสันติและยั่งยืน.
ที่มา : สำนักงานปฏิรูปเพื่อสังคมไทยที่เป็นธรรม (สปร.)
ภาพประกอบจาก : http://www.oknation.net/blog/canthai/2010/06/25/entry-1