- Home
- Community
- กระแสชุมชน
- ข่าวการเมือง
- "หมออำพล" แนะสภาพัฒน์ฯนำแผนชุมชนวางฐานประเทศ
"หมออำพล" แนะสภาพัฒน์ฯนำแผนชุมชนวางฐานประเทศ
"หมอพลเดช" เร่ง อปท.หนุนแผนพัฒนาโดยชุมชน "หมออำพล" เสนอสภาพัฒน์ฯรับแผนชาวบ้านวางรากฐานประเทศ "ปราชญ์ไม้เรียง" แนะเลิกตามก้นตะวันตกยึดพอเพียงทางรอดไทย
วันที่ 10 พ.ค. 55 ที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.)ถ.นวมินทร์ กรุงเทพฯ นักวิชาการ เอ็นจีโอ ตัวแทนชุมชน ชาวบ้านจัดเสวนาสืบทอดอุดมการณ์ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรมครั้งที่ ๒ “แผนชีวิตชุมชน สู่ความสุขที่ยั่งยืน”โดย นางทิพย์รัตน์ นพลดารมย์ ผู้อำนวยการพอช. กล่าวว่า อาจารย์ไพบูลย์เป็นผู้มีบทบาทสำคัญเป็นผู้เปิดพื้นที่การพัฒนาชุมชนทั่วประเทศ การจัดเวทีเสวนาเพื่อเป็นการสืบทอดอุดมการณ์ที่อาจารย์ไพบูลย์เป็นผู้ก่อตั้งสถาบันพอช.ปูทางไว้ซึ่งจะมีการจัดทุกๆสองสัปดาห์ โดยมีการแสดงรูปธรรมที่ชุมชนได้ขับเคลื่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทิศทางข้างหน้าจะขับเคลื่อนอย่างไรให้สังคมเป็นสุข
“แผนชุมชนต้องสร้างความเปลี่ยนแปลง ขยายผลไปยังชุมชนข้างเคียง สร้างคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ ร่วมคิดร่วมทำอย่างจริงจัง ให้มีกระบวนปฏิรูปชุมชนท้องถิ่นไม่ใช่แค่การกระจายอำนาจแต่เป็นการกระจายการตัดสินใจรับมือความเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นประชาคมอาเซียน และความเปลี่ยนแปลงด้านอื่นๆ โดย สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นด้วยทุนของตัวเอง”ผู้อำนวยการพอช. กล่าว
นพ.พลเดช ปิ่นประทีป ประธานกรรมการนโยบายส.ส.ท. กล่าวว่า อาจารย์ไพบูลย์มีสถานะเป็นผู้นำชาวบ้านโดยปริยาย ทุกพื้นที่ทุกชุมชนยอมรับในความตั้งใจความมุ่งมั่น จากการสัมผัสกับนักพัฒนา ยังไม่เห็นใครได้รับการยอมรับอย่างถ้วนทั่วเหมือนอาจารย์ไพบูลย์ การต่อยอดงานต้องสร้างคนรุ่นใหม่ การสานต่อหรือขับเคลื่อนสร้างคนรุ่นใหม่ต้องคิดอย่างจริงจังเพื่อให้คนที่จะเข้ามาทำงานมีคุณภาพ
“เรื่องการชุมชนเข้มแข็งไม่มีใครค้าน องค์ความรู้เป็นเครื่องมือที่ดี แผนชุมชนที่มีนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ที่ผ่านมาบางแห่งองค์กรท้องถิ่นก็ไม่เข้าใจการทำแผนชุมชน จึงเป็นเรื่องท้าทาย ทำอย่างไรที่จะทำให้กระบวนชุมชนสามารถชนะใจองค์กรปกครองท้องถิ่นได้ มีวิธีการอย่างไรที่จะเข้าไปปรับเปลี่ยนทัศนะคติ สมมติภายใน 5 ปีถ้าสามารถเอาชนะใจท้องถิ่นได้ประมาณ 1,000 แห่งจะทำให้การพัฒนาท้องถิ่นพลิกทันที การสร้างคนต้องมีความมุ่งมั่น ทำงานให้เชี่ยวชาญ วางแผนระยะยาว”นพ.พลเดช กล่าว
นพ.อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) กล่าวว่า เชื่อว่าชุมชนเข้มแข็งจัดการตนเองได้ ซึ่งจะใช้รูปแบบอะไรก็แล้วแต่ เพื่อนำไปสู่ความยั่งยืน คนที่จบอะไรไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ความคิดอะไรและนำความคิดนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ชุมชนเข้มแข็ง แผนแม่บทชุมชนเกิดขึ้นตลอดเวลา ในวันนี้ลาตินอเมริกา ยุโรปกำลังแย่ ทิศทางการพัฒนาที่ใช้เงินใช้ทุนเป็นพระเจ้า เอาเงินเป็นตัวตั้ง พอถึงวันหนึ่งมีหนี้สินล้น โดยไม่ได้ดูตัวเองจะทำให้เกิดวิกฤติ ประเทศไทยทุกรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศ ก็ใช้นโยบายตามหลังตะวันตก แต่บ้านเรามีชุมชนมีทุนมากมายมหาศาล ถ้าเอามาใช้ได้จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศ
“การเปลี่ยนแปลงบนโลกใบนี้รวดเร็วและไวมาก ผลกระทบมหึมา ชุมชนต้องขยายผลมีกระบวนการสร้างคนให้เข้มแข็ง ไม่ใช่แค่การอบรมแต่ให้ทำงานจริง รวมทั้งสร้างความรู้ จัดการความรู้ที่เกี่ยวกับการพัฒนาชุมชน สร้างชุดความรู้ขึ้นมาโดยไม่ใช่การลอกฝรั่งมา เพราะฉะนั้นการถอดความรู้จากประสบการณ์ของชุมชนต่างๆเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องมีการทำเพื่อให้เกิดการต่อยอด เรื่องท้าทายคือการส่งข้อมูลมอบแผนชุมชนให้สภาพัฒน์นำไปเป็นฐานในการเขียนแผนพัฒนาฉบับที่ 12 จึงจะเกิดรากฐานพัฒนาแท้จริง” เลขาธิการสช. กล่าว
นายประยงค์ รณรงค์ ปราญช์บ้านไม้เรียง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การทำแผนชุมชนที่ไม้เรียงเป็นการรวมกลุ่มต่างวัฒนธรรม ต่างพื้นที่ที่มีความหลากหลาย จากประสบการณ์พบว่าการพึ่งพาภายนอกไม่ใช่แนวทางไปสู่ความสำเร็จ แต่แนวทางคิดเองทำเองเป็นแนวทางนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ไม้เรียงเริ่มทำแผนชุมชนประมาณปี 38-39 มีการทดลองผิดลองถูก เจ้าหน้าที่นำแผนไม้เรียงไปวิเคราะห์ทำเป็นแผนพัฒนาประเทศแผน8 ออกมาใช้ คำว่าแผนไม้เรียงเรียกว่าแผนแม่บทหรือแผนชีวิตที่มีความแตกต่างจากแผนชุมชน เพราะเป็นแผนที่ใช้กับแต่ละคนในครอบครัว ครอบคุลมหมดทุกด้าน แผนแม่บทชุมชนจะไม่มีเรื่องโครงการหรืองบประมาณเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นแต่เพียงแผนที่ครอบคลุมวิถีชีวิตตลอดเวลา
“แผนชุมชนเป็นสิ่งจำเป็น ในอนาคตทำอย่างไรให้แผนชุมชนใช้แนวคิดการวางแผนชีวิต กำหนดแผนแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เราอยู่รอดได้ภายใต้ความพอประมาณ ความพอเพียง รู้รอบคอบระมัดระวัง ขยันอดทน มีสติปัญญาแบ่งปัน แต่ถ้าไขว่คว้าหวังจะร่ำรวยลมๆแล้งๆตัวอย่างตะวันตกมีให้เห็น แม้การถ่ายทอดไปสู่คนรุ่นหลังยากพอสมควร แต่ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะให้มีการบรรจุเศรษฐกิจพอเพียงลงในหลักสูตรสถานศึกษา ต่อยอดการทำงานให้ขยายวงกว้างยิ่งขึ้น” ปราชญ์ไม้เรียง กล่าว