- Home
- Community
- กระแสชุมชน
- ข่าวการเมือง
- ก.แรงงานคุมเข้มนายจ้าง ไม่ปรับค่าแรงตามกฎหมายใหม่ ต้องจ่ายย้อนหลัง
ก.แรงงานคุมเข้มนายจ้าง ไม่ปรับค่าแรงตามกฎหมายใหม่ ต้องจ่ายย้อนหลัง
ก.คลังฯเตรียมชง ครม.ลดภาษีส่วนต่างค่าจ้างช่วยเอสเอ็มอี 1.5 เท่า ก.แรงงานฯเตรียมปล่อยกู้ 1 หมื่นล้าน ตั้งศูนย์ร้องเรียนเพิ่ม เตือนนายจ้างไม่ปรับค่าแรงตามกฎหมายใหม่ต้องจ่ายย้อนหลัง
นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน(รง.) ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้างกลาง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้างกลาง ได้ติดตามผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประจำปี 2555 ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมาว่าขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ผิดปกติ ทั้งค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้มีเร่งรัดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี โดยนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจการคลัง
กระทรวงการคลัง ในฐานะกรรมการค่าจ้างกลางฝ่ายรัฐบาล ระบุว่าจะเร่งเสนอมาตรการช่วยเหลือเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา อาทิ มาตรการลดภาษีส่วนต่างที่เกิดขึ้นจากการปรับค่าจ้างขั่นต่ำ 1.5 เท่า ซึ่งต้องเป็นธุรกิจที่จดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้รวมไม่เกิน 30 ล้านต่อปี รวมไปถึงมาตรการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน ในการลดหย่อนภาษีการซื้อเครื่องจักรใหม่ การขายเครื่องจักรเก่า และการคำนวณค่าเสื่อมของเครื่องจักรใหม่นำมาลดหย่อนภาษี เป็นต้น
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ในส่วนของกระทรวงแรงงานได้เตรียมเงินกู้วงเงิน 1 หมื่นล้านบาทในโครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาธุรกิจ ผ่านธนาคาร 5 แห่ง คือ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ และธนาคารเกียรตินาคิน ซึ่งจากการตรวจสอบขณะนี้วงเงินกู้ยังเหลือเพียงพอต่อการปล่อยกู้ เนื่องจากขณะนี้ยังมีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมโครงการไม่มาก
และได้สั่งการให้สำนักงานแรงงานจังหวัดทั่วประเทศ จัดตั้งศูนย์โปร่งใสกระทรวงแรงงานขึ้นที่สำนักงานแรงงานจังหวัดทั่วประเทศ เพิ่มเติมจากส่วนกลางที่กระทรวงแรงงาน เพื่อรองรับประชาชนและผู้ใช้แรงงานที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ ซึ่งศูนย์นี้จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลผลกระทบที่เกิดจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำประจำปี 2555 และส่งมายังส่วนกลาง ขณะเดียวกันยังทำหน้าที่รับเรื่องร้องทุกจากปัญหาการหลอกลวงแรงงานไทยไปต่างประเทศทั้งนี้ยังมีแนวคิดที่จะเพิ่มผลิตภาพเครื่องจักรเพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยจะกำหนดเกณฑ์คุณภาพของเครื่องจักรอุตสาหกรรมให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ คล้ายแนวคิดการประหยัดไฟเบอร์ 5 โดยที่รัฐบาลจะสนับสนุนการหาผู้มาตรวจสอบและกำหนดเกณฑ์ควบคุม
ปลัด รง.ยังกล่าวอีกว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างอัตราใหม่ที่ปรับเพิ่มร้อยละ 40 ทั่วประเทศ หากตรวจพบว่าไม่ปฏิบัติตามก็จะออกคำสั่งให้ปฏิบัติตามทันที หากยังฝ่าฝืนก็จะดำเนินการตามกฎหมาย โดยนายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างย้อนหลังตั้งแต่วันที่เริ่มบังคับใช้ให้กับผู้ใช้แรงงาน
ทั้งนี้หากผู้ประกอบการหรือแรงงานมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะหรือเรื่องร้องเรียนจากการปรับค่าจ้างอัตราใหม่ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์โปร่งใส กระทรวงแรงงานโทร.02-2321137 ในวันเวลาราชการ และในส่วนภูมิภาคติดต่อได้ที่สำนักงานแรงงานจังหวัดทั่วประเทศ