รองผู้การตำรวจนราธิวาส ยันมือมืดขโมยรถกระบะกลางเมืองยะลา มีเด็กติดในรถ 3 คน ก่อนปล่อยตัวเด็ก และจอดรถทิ้งในพื้นที่ อ.บาเจาะ น่าจะเป็นคนสติไม่สมประกอบ เคยก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่ ขณะที่กระบวนการตรวจรถสุดระทึก อีโอดีระมัดระวังเต็มพิกัด หวั่นเจอซุกบึ้ม
พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) เผยกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า กรณีคนร้ายขโมยรถยนต์กระบะของ นายฮาฟิซ อาแว อายุ 31 ปี ในพื้นที่ จ.ยะลา ขณะจอดรถติดเครื่องเอาไว้ แล้วลงไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พ.ย.65 ที่ผ่านมา ก่อนขับรถหลบหนีไป โดยมีเด็กอายุเพียง 4-5 ขวบ ติดไปด้วยถึง 3 คน ก่อนที่คนร้ายจะปล่อยเด็กลง และนำรถไปจอดทิ้งในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส นั้น
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดพบว่า คนร้ายมีลักษณะท่าทางคล้ายกับคนสติไม่สมประกอบ ซึ่งเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันในพื้นที่ จ.ยะลา และปัตตานีมาแล้วหลายครั้ง โดยก่อนหน้านี้มีภาพวงจรปิดสามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายที่ขโมยรถยนต์จากพื้นที่ ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี แล้วนำไปจอดทิ้งในพื้นที่ ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้
“เจ้าหน้าที่กำลังไล่กล้องวงจรปิดจากจุดที่คนร้ายนำรถไปจอด ว่าคนร้ายหลบหนีไปทางใด โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัดประเด็นไปได้เลยว่า ไม่ใช่กลุ่มคนร้ายขโมยรถไปขาย หรือกลุ่มคนร้ายนำรถไปก่อเหตุคดีความมั่นคง” รองผู้การตำรวจนราธิวาส กล่าว
@@ อีโอดีตรวจระทึกกว่า 1 ชั่วโมง หวั่นซุกบึ้มในรถ
ก่อนหน้านั้นในช่วงเช้า พ.ต.อ.ลุกมาน บาเกาะ ผู้กำกับการ สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้ประสานไปยังชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อมิตซูบิซิ สีขาว หมายเลขทะเบียน ญผ 3672 กรุงเทพมหานคร ที่ถูกคนร้ายปล้นชิงจากนายฮาฟิซ ขณะจอดติดเครื่องซื้อสินค้า บริเวณตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา
โดยคนร้ายได้นำรถไปจอดทิ้งไว้บริเวณปากทางเข้าตลาดนัดร้าง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับทางเข้ามัสยิด 300 ปี บ้านตะโละมาเนาะ หมู่ 1 ต.ลุโบะสาวอ อ.บาเจาะ ซึ่งชาวบ้านได้พบเห็นเมื่อเวลา 20.36 น.ของคืนวันอาทิตย์ที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง ได้กันพื้นที่โดยรอบเพื่อเข้าตรวจสอบอย่างระมัดระวัง ทั้งยังปิดกั้นถนนทั้งขาเข้าและขาออก เพราะเกรงจะเกิดอันตรายหากคนร้ายซุกระเบิดไว้ในรถกระบะ
จากการตรวจสอบอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ไม่พบวัตถุระเบิดหรือวัตถุต้องสงสัยใดๆ ภายในรถ แต่พบว่าน้ำมันเชื้อเพลิงหมด คาดว่าเป็นสาเหตุที่คนร้ายนำไปจอดทิ้ง
ด้าน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ได้จัดเก็บคราบลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายที่พวงมาลัย เบาะนั่ง กระจกประตูด้านคนขับ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับบุคคลในสารบบความมั่นคง รวมทั้งประวัติในทะเบียนราษฎร เพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนสอบสวนหาตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงมาเติมใส่รถ และมอบรถยนต์กระบะคืนให้กับนายฮาฟิซ