ไม่ใช่แค่ รายงาน ปธ.ป.ป.ช.! 'เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช' รมว.ท่องเที่ยว-กีฬา ลุยแจ้งผู้ว่าฯ สตง. ช่วยสอบปมเบิกจ่ายงบประมาณ 980 ล้าน จัดแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์-มาร์เชียลอาร์ท หลังมีผู้ร้องเรียนสงสัยอาจทุจริต พร้อมแจ้งปลัดฯ สั่งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านทุจริตดำเนินการตามอำนาจหน้าที่-รายงานผลให้ทราบโดยด่วนด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณีปรากฏข่าวว่า สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) ส่งหนังสือแจ้งยกเลิกให้ ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 เป็นทางการ
ขณะที่ แหล่งข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า เกี่ยวกับกรณีนี้ เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2567 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ปัจจุบันเป็นรักษาการ) ได้ทำหนังสือถึง พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รายงานกรณีสงสัยว่าอาจมีการกระทำการทุจริต
ล่าสุด แหล่งข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า นอกจากทำหนังสือ ถึง พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รายงานกรณีสงสัยว่าอาจมีการกระทำการทุจริต ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้ว
เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2567 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ปัจจุบันเป็นรักษาการ) ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อรายงานกรณีสงสัยว่าอาจมีการกระทำการทุจริต เกี่ยวกับการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ด้วย
โดยเนื้อหาในหนังสือ นายเสริมศักดิ์ แจ้งถึง ผู้ว่าฯ สตง. ระบุเหมือนกันว่า ด้วยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับการร้องเรียนว่าอาจมีการทุจริตเกี่ยวกับการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2567 ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 และได้มีการเลื่อนการจัดการแข่งขันฯ มาเป็นเวลาเกือบ 4 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาดังกล่าวได้มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณจากเงินสะสมของการกีฬาแห่งประเทศไทยและกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมเป็นเงินประมาณ 980 ล้านบาท เพื่อเบิกจ่ายเงินค่าเก็บตัวนักกีฬา ค่าเตรียมการจัดการแข่งขันฯ และค่าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงได้สั่งการให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อยืนยันความถูกต้องและความโปร่งใสของการเบิกจ่ายงบประมาณจำนวนดังกล่าว
"นอกจากหนังสือแจ้ง ประธาน ป.ป.ช.และผู้ว่าฯ สตง. แล้ว นายเสริมศักดิ์ ยังได้ทำบันทึกแจ้งให้ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และรายงานผลให้ตนเองรับทราบโดยด่วนด้วย" แหล่งข่าวระบุ