กรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยแพร่ข่าวชี้แจงคดี GGC ขายน้ำมัน B100 PTTOR เป็นทางการ ยังอยู่ในกระบวนการสืบสวน เผยศาลอาญามีหมายขอเอกสารหลักฐาน เรียกเจ้าหน้าที่ไปเบิกความ 25 พ.ย.2567 หลังมีผู้เสียหายยื่นฟ้อง ปตท. เรื่องเดียวกัน infographic หนังสือราชการเป็นเรื่องคู่ความบุคคลภายนอก ไม่เกี่ยวข้องดีเอสไอ
จากกรณีปรากฏข่าวมีผู้นำข้อมูลหนังสือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งตอบกลับศาลอาญา กรณีมีหมายเรียกพยานเอกสาร สรุปข้อเท็จจริง สรุปบันทึกถ้อยคำพยานบุคคล และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในเรื่องสืบสวนประเด็นที่บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาขบ) (GGC) ลดราคาขายน้ำมัน B100 ให้กับบริษัท ปตท น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (PTTOR) ในไตรมาสที่ 2/2566 ในคดีหมายเลขดำที่ อ.1260/2567 ลงวันที่ 14 ส.ค.2567 มาเผยแพร่ในโลกออนไลน์
ขณะที่ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์สำนักข่าวอิศราเบื้องต้นว่า เท่าที่ตรวจสอบกรณีเป็นผู้มาร้องดีเอสไอให้สืบสวนเรื่องการทุจริตการซื้อน้ำมันปาล์มดิบของบริษัทที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ มีการส่งข้อมูลให้ ก.ล.ต. ขณะเดียวกันผู้เสียหายก็ไปฟ้องตรงที่ศาลอาญา ศาลก็เรียกผู้สืบสวนดีเอสไอ ไปเบิกความที่ศาลแล้ว
- หนังสือDSI ตอบศาลอาญาคดี GGC ขายน้ำมัน OR ว่อนเน็ต- ‘ยุทธนา’ยันยังไม่สรุปกล่าวหาใคร
- ใช้บัญชีอวตาร! ปตท.ซัดมือปล่อยหนังสือ DSI ตอบศาลอาญาคดีขายน้ำมันOR บ่อนทำลายชื่อเสียง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2567 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเป็นทางการ ระบุว่า ตามที่ ปรากฏภาพข่าว เป็น infographic เป็นตรากรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุข้อความว่า “DSI สรุปสำนวน เชื่อว่า ผู้ว่า ปตท. และ CEO OR พัวพันทุจริต ฟอกเงินและฉ้อโกงประชาชน” โดยมีภาพประกอบเป็นเอกสารหนังสือระบุเป็นของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และต่อมาได้ปรากฏข่าวผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ นำเสนอภาพเอกสารราชการ รวมทั้งมีการนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง นั้น
พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และขอชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณชน ดังนี้
1. กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับการร้องทุกข์จากผู้ถือหุ้น ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ขอให้ตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ กรณีว่าอาจมีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และเนื่องจากความผิดตามกฎหมายดังกล่าวมีประกาศคณะกรรมการคดีพิเศษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2565 เรื่อง กำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 กำหนดไว้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงรับเรื่องดังกล่าวไว้ทำการสืบสวน ทั้งนี้ ได้มีการประสานข้อมูลกับสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว เนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำที่เข้าลักษณะเป็นคดีพิเศษ
2. ระหว่างทำการสืบสวนตามข้อ 1 ได้มีผู้เสียหายยื่นฟ้องผู้บริหารในกลุ่มบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ต่อศาลอาญาเกี่ยวกับเรื่องเดียวกัน และศาลอาญาได้มีหมายเรียกมายังหัวหน้าหน่วยงานที่ทำหน้าที่สืบสวนเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ส่งเอกสารสรุปข้อเท็จจริง บันทึกถ้อยคำพยานบุคคล และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ประกอบการพิจารณาของศาลอาญา ซึ่งผู้ครอบครองข้อมูลได้ส่งเฉพาะสรุปพยานหลักฐานเนื่องจากยังเป็นชั้นสืบสวน และยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้น รวมทั้งได้ไปเบิกความประกอบเอกสารตามหมายเรียกของศาล เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา
3. เอกสารภาพข่าว infographic และภาพหนังสือราชการที่มีการเผยแพร่ตามสื่อต่าง ๆ เป็นเรื่องของคู่ความหรือบุคคลภายนอก มิใช่เอกสารหรือภาพข่าวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเผยแพร่แต่อย่างใด
อนึ่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหน่วยงานมีอำนาจหน้าที่ดำเนินคดีอาญาที่สำคัญและเป็นหน่วยงาน ในกระบวนการยุติธรรม ในการปฏิบัติหน้าที่สืบสวนสอบสวนต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและพยานหลักฐาน จึงประชาสัมพันธ์มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน