เผยมติ ป.ป.ช.เสียงแตกตีตกคดี 'สมหมาย ทับศรี' นายก อบต.ยางตลาด กาฬสินธุ์ จัดซื้อเมล็ดพันธุ์ดอกดาวเรืองพร้อมอุปกรณ์เพาะปลูกโครงการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ผิดระเบียบ กรรมการข้างมาก 6 เสียง เห็นว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่ากระทำความผิด เห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตีตกคดีกล่าวหานายสมหมาย ทับศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ยางตลาด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดซื้อเมล็ดพันธุ์ดอกดาวเรือง พร้อมอุปกรณ์เพาะปลูก โครงการปลูกดาวเรืองเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เมื่อปี พ.ศ. 2560 ก่อนดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบ
โดยที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีความเห็นแบ่งออก 2 ฝ่าย ฝ่ายเสียงข้างมาก 6 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ไม่ปรากฏพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่า นายสมหมาย ทับศรี กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล เห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุพฤติการณ์กล่าวหาคดีนี้ ว่า เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2560 ผู้ถูกกล่าวหาได้โอนเงินงบประมาณ 290,000 บาท ของสำนักปลัดมาเพิ่มในรายการค่าใช้จ่ายงานรัฐพิธี เนื่องจากงบประมาณที่ตั้งไว้ไม่พอ ประมาณวันที่ 3 มิถุนายน 2560 ผู้ถูกกล่าวหาได้นำใบเสร็จรับเงินค่าเมล็ดพันธุ์ดาวเรือง พร้อมอุปกรณ์การเพาะปลูกดาวเรือง จากร้านชัยยุทธการเกษตร เลขที่ 259 - 260 ซอยหน้าตลาดสด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นเงินรวม 212,060 บาท มาให้นายยุทธวี วิโทจิตร เจ้าหน้าที่พัสดุ และแจ้งว่าให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเรื่องนี้ให้ตามระเบียบ วันที่ 7 มิถุนายน 2560 กองสวัสดิการสังคม ได้ทำรายงานความต้องการใช้วัสดุประกอบโครงการปลูกดาวเรืองเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และผู้ถูกกล่าวหาได้ลงนามอนุมัติ
ประมาณวันที่ 19 มิถุนายน 2560 เจ้าหน้าที่ธุรการได้นำใบเสนอราคาเมล็ดพันธุ์ดาวเรืองและอุปกรณ์การเพาะปลูกมามอบให้ นายยุทธวี วิโทจิตร โดยเป็นใบเสนอราคา จากร้าน เอ.เอส. 2008 เลขที่ 7 หมู่ 3 ถนนร้อยเอ็ด - พนมไพร ตำบลหนองไผ่ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเสนอราคาเม็ดดาวเรือง และอุปกรณ์การปลูก ราคารวม 303,150 บาท และจากร้านเป๋าตุง เลขที่ 55 หมู่ 9 ตำบลกลาง อำเภอเลสภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เสนอราคาเม็ดดาวเรือง และอุปกรณ์ในการปลูก แต่ไม่ได้รวมราคาไว้
วันที่ 29 มิถุนายน 2560 นายยุทธวี วิโทจิตร ได้สืบราคาเมล็ดพันธุ์ดาวเรือง พร้อมอุปกรณ์การเพาะปลูกจากผู้ขาย 3 แห่ง ได้แก่ 1. บริษัท พันธ์ทวี คอร์ปอเรชั่น จำกัด สาขาที่ 0001 เลขที่ 193 ม.6 ตำบลหลุบ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ 2. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกษตรเพิ่มทรัพย์ เลขที่ 208 หมู่ 7 ถนนถีนานนท์ ตำบลอุ่มเม่า อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ 3. ร้านไฟแดงดินเผา ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกไฟแดงแยกทุ่งมน ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งราคาจากผู้ขายทั้งสามแห่งต่ำกว่าใบเสนอราคาที่นายยุทธวี วิโทจิตร ได้รับมาก่อนนี้จึงยังไม่ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง เนื่องจากเกรงว่าจะผิดระเบียบ กฎหมาย ทั้งนี้ นายยุทธวี วิโทจิตร ได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบเรื่องที่ราคาสูงกว่าท้องตลาดดังกล่าวแล้ว และผู้ถูกกล่าวหาก็ไม่ได้ให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างต่อแต่อย่างใด
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณามีความเห็นว่า เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2560 ผู้ถูกกล่าวหาได้โอนเงินงบประมาณ 290,000 บาท ของสำนักปลัดมาเพิ่มในรายการค่าใช้จ่ายงานรัฐพิธี เนื่องจากงบประมาณที่ตั้งไว้ไม่พอ ประมาณวันที่ 3 มิถุนายน 2560 ผู้ถูกกล่าวหาได้นำใบเสร็จรับเงินค่าเมล็ดพันธุ์ดาวเรือง พร้อมอุปกรณ์การเพาะปลูกดาวเรือง จากร้านชัยยุทธการเกษตร เลขที่ 259 - 260 ซอยหน้าตลาดสด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นเงินรวม 212,060 บาท มาให้นายยุทธวี วิโทจิตร เจ้าหน้าที่พัสดุ และแจ้งว่าให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเรื่องนี้ให้ตามระเบียบ
วันที่ 7 มิถุนายน 2560 กองสวัสดิการสังคม ได้ทำรายงานความต้องการใช้วัสดุประกอบโครงการปลูกดาวเรืองเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และผู้ถูกกล่าวหาได้ลงนามอนุมัติประมาณวันที่ 19 มิถุนายน 2560 เจ้าหน้าที่ธุรการได้นำใบเสนอราคาเมล็ดพันธุ์ดาวเรืองและอุปกรณ์การเพาะปลูกมามอบให้ นายยุทธวี วิโทจิตร โดยเป็นใบเสนอราคา จากร้าน เอ.เอส. 2008 เลขที่ 7 หมู่ 3 ถนนร้อยเอ็ด - พนมไพร ตำบลหนองไผ่ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเสนอราคาเม็ดดาวเรือง และอุปกรณ์การปลูก ราคารวม 303,150 บาท และจากร้านเป๋าตุง เลขที่ 55 หมู่ 9 ตำบลกลาง อำเภอเลสภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เสนอราคาเม็ดดาวเรือง และอุปกรณ์ในการปลูก แต่ไม่ได้รวมราคาไว้
วันที่ 29 มิถุนายน 2560 นายยุทธวี วิโทจิตร ได้สืบราคาเมล็ดพันธุ์ดาวเรือง พร้อมอุปกรณ์การเพาะปลูกจากผู้ขาย 3 แห่ง ได้แก่
1. บริษัท พันธ์ทวี คอร์ปอเรชั่น จำกัด สาขาที่ 0001 เลขที่ 193 ม.6 ตำบลหลุบ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
2. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกษตรเพิ่มทรัพย์ เลขที่ 208 หมู่ 7 ถนนถีนานนท์ ตำบลอุ่มเม่า อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์
3. ร้านไฟแดงดินเผา ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกไฟแดงแยกทุ่งมน ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
ราคาจากผู้ขายทั้งสามแห่งต่ำกว่าใบเสนอราคาที่นายยุทธวี วิโทจิตร ได้รับมาก่อนนี้จึงยังไม่ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง เนื่องจากเกรงว่าจะผิดระเบียบ กฎหมาย ทั้งนี้ นายยุทธวี วิโทจิตร ได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบเรื่องที่ราคาสูงกว่าท้องตลาดดังกล่าวแล้ว และผู้ถูกกล่าวหาก็ไม่ได้ให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างต่อแต่อย่างใด
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช พิจารณาแล้ว ลงคะแนนเสียงแยกเป็นสองฝ่าย ดังนี้
ฝ่ายเสียงข้างมาก ประกอบด้วย กรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 6 เสียง เห็นชอบตามเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้น ว่าจากการไต่สวนข้อเท็จจริง ไม่ปรากฏพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่า นายสมหมาย ทับศรี นายก อบต.ยางตลาด ผู้ถูกกล่าวหา ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล เห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป
ฝ่ายเสียงข้างน้อย กรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 1 เสียง เห็นว่า การที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติในการจัดซื้อจัดจ้าง แต่กลับไปดำเนินการต่าง ๆ เองทั้งหมด ตั้งแต่ติดต่อร้านค้าให้มาส่งเมล็ดพันธุ์พร้อมอุปกรณ์การเพาะปลูก ที่บริเวณด้านหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลยางตลาด โดยไม่มีการสืบราคาและไม่ให้คณะกรรมการตรวจรับทำการตรวจรับ อันเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตเอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับจ้างที่ตนได้ไปติดต่อและตกลงเลือกไว้แล้ว การกระทำของนายสมหมาย ทับศรี นายก อบต. ยางตลาด ผู้ถูกกล่าวหา จึงมีมูลเป็นความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 แล้ว
ประธานฯ จึงสรุปว่า ผลการลงคะแนนเสียง เพื่อมีมติของที่ประชุมในเรื่องนี้ ต้องถือตามความเห็นช่องกรรมการ ป.ป.ช. ฝ่ายเสียงข้างมาก จำนวน 6 เสียง ซึ่งไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ที่เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ไม่ปรากฏพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่า นายสมหมาย ทับศรี นายก อบต.ยางตลาด ผู้ถูกกล่าวหา ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล เห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป