- Home
- Thaireform
- ข่าวเด่น นโยบายสาธารณะ
- “อภิสิทธิ์” คาด 1 พ.ค.แรงงานนอกระบบ 3-4 แสนคน เข้าระบบประกันสังคม
“อภิสิทธิ์” คาด 1 พ.ค.แรงงานนอกระบบ 3-4 แสนคน เข้าระบบประกันสังคม
เร่งประสาน ธกส. -ออมสิน อำนวยความสะดวกจ่ายเงินมาสมทบ เผย กพร. ประชุมเพื่ออนุมัติอัตรากำลังช่วย สปส. ให้ครม.พิจารณา ขณะที่การแก้ปัญหาของแพง ย้ำชัดได้เริ่มต้นดูการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีกรอบแล้ว
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น. ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ เป็นครั้งที่ 109 ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งถึงแนวทางแก้ปัญหาของแพงว่า ต้องพยายามที่จะไปเสริมรายได้ ให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนยากคนจน โดยก็ได้เริ่มต้นในกระบวนการที่จะต้องดูการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ อาจจะต้องมีความจำเป็นที่จะต้องขึ้นอีกรอบหนึ่งในระยะเวลาไม่นานจากนี้ พร้อม ๆ กันไปนั้นเรื่องของการประกันรายได้เกษตรกร มีเกษตรกรที่มาร้องเรียนขณะนี้ว่า ต้นทุนนั้นได้เพิ่มสูงขึ้น ได้มีการสั่งการให้ทางกระทรวงเกษตรฯ ไปทบทวนดูตัวเลขในเรื่องของต้นทุนของการผลิต ถ้าหากว่ามีการเปลี่ยนแปลงไป ก็จะมีการขยับราคาประกันตามสัดส่วน
"นโยบายในการที่จะเพิ่มรายได้ก็ดี ลดรายจ่ายก็ดี มีความจำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องเดินหน้าต่อ เพื่อที่จะให้ประชาชนนั้นสามารถที่จะรับมือกับภาวะข้าวของแพงที่เกิดขึ้นได้"
สำหรับการดำเนินการของรัฐบาลในเรื่องของนโยบายสำคัญ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีการติดตามทั้งในส่วนของการประชุม ทำทุกวันจันทร์และทุกวันพุธ และนอกจากนั้นทุกวันศุกร์จะดำเนินการในการประชุมทางไกลกับจังหวัดต่าง ๆ เพื่อติดตามนโยบาย
กรณีเกี่ยวข้องกับเรื่องของการประกันสังคม ของแรงงานนอกระบบ หรือแรงงานนอกระบบที่อยู่ในภาคการเกษตร นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้โครงการนี้ได้เดินหน้าแล้ว คือเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถที่จะเข้ามาสู่ระบบประกันสังคมได้ โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่ 1 พฤษภาคม เป็นต้นไป โดยประชาชนมี 2 ทางเลือก 1.สามารถที่จะสมทบเงินเป็นรายเดือนทุกเดือนในอัตรา 70 บาท และรัฐบาลจะสมทบให้ 30 บาท สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับก็คือการได้รับเงินทดแทนรายได้หากประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต 2.หากประชาชนสมทบเงินเดือนละ 100 บาท รัฐบาลก็จะสมทบให้ 50 บาท และนอกจากสิทธิประโยชน์ที่กล่าวมาแล้ว และจะมีเรื่องของบำเหน็จชราภาพด้วย
“ขณะนี้ทุกจังหวัดลึกลงไปถึงระดับของอำเภอ ตำบล ได้ไปประชาสัมพันธ์ถึงรายละเอียดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์แล้ว ขณะนี้กำลังประสานงาน ธกส. ธนาคารออมสิน เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกเมื่อโครงการเริ่มต้นใน 1 พฤษภาคม สามารถที่จะเอาเงินมาสมทบได้อย่างสะดวก และกำลังมีการดูว่า จะมีเครือข่ายการบริหารงานอย่างไรไม่ให้ประชาชนต้องมีภาระมากจนเกินไปในแง่ของการเดินทางที่จะเข้ามาสู่การเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 ของระบบประกันสังคม โดยทาง กพร. ได้ประชุมเพื่อที่จะอนุมัติในเรื่องของอัตรากำลังต่าง ๆ ที่จะช่วยทางสำนักงานประกันสังคมเพิ่มขึ้น ซึ่งคณะรัฐมนตรีก็จะต้องมีการพิจารณาต่อไป”
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของประกันสังคม คาดหวังเบื้องต้น 1 พฤษภาคมนั้นจะมีประชาชนซึ่งเข้ามาสู่ระบบนี้ ประมาณ 300,000 - 400,000 คน และคาดหวังว่า ในที่สุดแล้วประชาชน 10- 20 ล้านคน จะเข้ามาสู่โครงการนี้ เพื่อจะได้มีหลักประกันความมั่นคงในชีวิต รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมการออมในประเทศ
สำหรับในกรุงเทพมหานครที่ได้นำร่องในเรื่องของพ่อค้าแม่ขายที่จะเพิ่มจุดผ่อนผัน และมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และมีสินเชื่อให้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ก็เป็นไปตามกรอบเวลาที่ได้กำหนดเอาไว้ ซึ่งได้ขอให้ทางต่างจังหวัดได้เริ่มเตรียมการในการที่จะดำเนินการตามแนวทางนี้เช่นเดียวกัน เพราะมีประชาชนในต่างจังหวัดที่ต้องการที่จะเห็นโครงการนี้ขยายไปสู่ต่างจังหวัดโดยเร็ว