เบสท์ริน แจ้งความสภ.แหลมฉบัง ระบุถูกเติมข้อความในใบขนนำเข้ารถ NGV

เขียนวันที่

วันพุธ ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 14:53 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

ในกระแส | Isranews | ข่าว | Thaireform | การเมืองและระบบยุติธรรม

ผู้บริหารเบสท์ริน เดินสายร้องเรียนผู้ตรวจการแผ่นดิน หลังคณะกรรมการตรวจรับรถยนต์ มีมติให้ชะลอการตรวจรับมอบรถไว้ก่อนโดยไม่มีกำหนด โอดบริษัทได้รับความเดือดร้อน ยันพร้อมส่งมอบแล้ว 274 คัน เล็งขอศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราว

NGV8082602

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารB) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีคณะกรรมการตรวจรับขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)ไม่ดำเนินการตรวจรับมอบรถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) และมีมติชะลอการตรวจรับมอบไว้โดยไม่มีกำหนด ทำให้บริษัทฯได้รับความเดือดร้อนจากการไม่ชำระราคารถยนต์ที่ได้ส่งมอบไปแล้ว

NGV8260

สำหรับเนื้อหาในหนังสือร้องเรียนได้ขอให้ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ปฏิบัติตามสัญญา ในสัญญาเลขที่ ร.50/2559 ลงวันที่ 30 กันยายน 2559 ได้มีกำหนดส่งมอบ รถโดยสารทั้งหมดภายในระยะเวลา 90 วัน นับจากวันลงนามในสัญญา

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้นำรถยนต์โดยสารจำนวน 489 คัน เข้ามาในราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2559-17 มกราคม 2560 รวมจำนวน 5 เที่ยวเรือ โดยได้ชำระภาษีและรับมอบรถยนต์โดยสารจากกรมศุลากรแล้ว 390 คัน ที่เหลืออยู่ระหว่างรอรับมอบจากกรมศุลกากรอีก 1 เที่ยวเรือ ซึ่งเป็นเที่ยวเรือที่นำเข้าเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2559 จำนวน 99 คัน ซึ่งบริษัทได้ยื่นใบขนชำระภาษีไว้ตั้งแต่ 2 ธันวาคม 2559 แต่กรมศุลฯ ยังไม่ตรวจปล่อย

บริษัทได้ขอให้วางประกันค่าภาษีตามจำนวนมูลค่าภาษี กรมศุลฯ เห็นว่า บริษัทจะต้องมีภาระภาษี โดยบริษัทไม่ยินยอมวางประกันค่าปรับและบริษัท โดยจะดำเนินการให้กรมศุลฯ ตรวจปล่อยรถยนต์โดยสาร (หรือจะตรวจจับ ก็ขอให้ดำเนินการ ซึ่งบริษัทจะได้ต่อสู้ในทางกฎหมายให้ถึงที่สุดโดยไว) เพื่อบริษัทจะได้นำรถมาส่งมอบให้ ขสมก.ให้ครบจำนวนสัญญาต่อไป

ขณะนี้บริษัทพร้อมส่งมอบรถยนต์โดยสารจำนวน 390 คัน โดยได้ปฏิบัติตามสัญญาข้อ 7 ตามสัญญาส่งมอบรถโดยสาร ผ่านการทดสอบและตรวจสภาพ ชำระภาษีรถยนต์ประจำปี ชำระค่าเบี้ยประกันภัย เป็นต้น และจดทะเบียนกรรมสิทธิให้แก่ ขสมก.และได้ส่งมอบให้แก่ ขสมก.แล้วเป็นจำนวน 274 คัน โดยไม่มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับความไม่ถูกต้องใดๆ แต่คณะกรรมการตรวจรับรถยนต์ได้มีมติให้ชะลอการตรวจรับมอบรถยนต์โดยสารไว้ก่อนโดยไม่มีกำหนด ทำให้บริษัทได้รับความเดือดร้อน ไม่ได้รับชำระราคารถยนต์ที่ได้ส่งมอบไปเสร็จสิ้นแล้วตามสัญญา

ทั้งนี้ในหนังสือ ขอให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สั่งการให้คณะกรรมการตรวจรับรถยนต์ ตรวจรับรถยนต์โดยสารตามสัญญาข้อ 8 สำหรับรถที่เหลือขอให้ ขสมก. ทำหนังสือมอบอำนาจให้บริษัทดำเนินการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกเพื่อส่งมอบรถยนต์โดยสารให้แก่ ขสมก.ให้ครบถ้วนตามสัญญาต่อไป ทั้งนี้ หากขสมก.ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามสัญญา บริษัทฯ จะขอรับการคุ้มครองตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป

นายคณิสสร์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ที่ผ่านมากรมศุลการกรมีเพียงแต่ภาพถ่ายที่แสดงให้สื่อมวลชนเห็นเท่านั้น นอกจากนี้เมื่อวันที่ 19 ม.ค. กรมศุลกากรได้ส่งหนังสือไปที่ ขสมก. ระบุว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการสอบถามข้อเท็จจริงของประเทศต้นกำเนิดของสินค้า ประเทศมาเลเซีย แต่ก่อนหน้านั้นได้มีการกล่าวโทษไปแล้วว่า บริษัทได้กระทำความผิด

นายคณิสสร์ กล่าวถึงเอกสารใบขนที่ทางบริษัทซูเปอร์ซาร่าให้กรมศุลกากรในตอนแรกนั้น ระบุชัดเจนว่า ขอสงวนสิทธิ์ ในการขอคืนอากรภายหลังการนำเข้า ซึ่งบริษัทต้องรับรองว่าเป็นความจริงทุกประการ หากไม่ถูกต้องบริษัทต้องยอมรับความผิดทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา แต่ปรากฎว่าหนังสือถูกแก้ไขข้อมูล หรือเพิ่มเติมข้อมูลเป็น "มีปัญหาถิ่นกำเนิดเรื่องจากคกก.ตรวจปล่อยรถตรวจพบว่า รถยนต์มีถิ่นกำเนิดจากจีน" ทำให้เข้าว่า บริษัทรับสารภาพความผิดและเอกสารชุดดังกล่าวยังหลุดไปเผยแพร่ต่อสาธารณะหลายเว็บไซต์

"บริษัททำหนังสือขอสงวนสิทธิ์ชัดเจน ในการขอคืนอากรภายหลังการนำเข้า แต่พอยื่นหนังสือให้กรมศุลกากรปรากฎว่า มีการเพิ่มเติมในส่วนของหมายเหตุ ซึ่งเป็นเหตุผลให้ทาง ขสมก. ไม่กล้ารับรถ ขณะนี้บริษัทไปแจ้งความแล้วเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 ที่สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี"