เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้เกิดคำถามถึงกระบวนการพูดคุยสันติสุขฯ ว่าควรเดินหน้าต่อไปหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการ "กำหนดพื้นที่ปลอดภัย" จะทำได้จริงๆ หรือ
สืบเนื่องจากเอกสาร "ชี้แจงสื่อมวลชนของหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้" ฉบับลงวันที่ 3 มี.ค.60 ที่ท่านได้ตำหนิการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่วิเคราะห์วิจารณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในห้วงก่อนและหลังการนัดพูดคุยสันติสุขฯ เมื่อ 28 ก.พ.60
28 ก.พ.60 จะมีการพบปะกันระหว่างคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ตัวแทนรัฐบาลไทย กับตัวแทนผู้เห็นต่างจากรัฐนาม "มารา ปาตานี"
ปัญหาหญิงสูงอายุจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ถูก "นายหน้า" ชักชวน (หรือจะเรียกว่า "ล่อลวง" ก็คงไม่ผิด) ให้ไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศมาเลเซีย จนถูกทางการมาเลย์จับกุมและกักตัวเป็นพยานในคดี "ค้ามนุษย์" ขยายวงจาก 21 คน เป็น 177 คนนั้น สะท้อนความจริงหลายประการในบ้านเมืองเรา
“ประชาคมข่าวกรอง” ประเมินกันเบื้องต้นอย่างไม่เป็นทางการว่าสถานการณ์ชายแดนใต้จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักหลังสิ้น สะแปอิง บาซอ บุคคลที่เชื่อกันว่าเป็นผู้นำสูงสุดของขบวนการบีอาร์เอ็น องค์กรที่ว่ากันว่าควบคุมกองกำลังติดอาวุธมากที่สุด และเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการความรุนแรงในพื้นที่มาตลอด 13 ปีเต็ม
ข้อแนะนำของนายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เลขาฯสมช. พล.อ.ทวีป เนตรนิยม นำมาเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับการพูดคุยกับ "มารา ปาตานี" เพื่อกำหนด "พื้นที่ปลอดภัย" นั้น นับว่าน่าสนใจและเป็นสัญญาณบวกต่อกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ
เหตุการณ์คนร้ายยิงผู้หญิงท้องแก่จนเสียชีวิต หน่วยงานรัฐได้ออกมาประณามคนร้ายตามระเบียบ จากนั้นก็สั่งระดมปิดล้อม ตรวจค้น ไล่ล่า และอาจจบด้วยการจับกุมหรือวิสามัญฆาตกรรม วงจรของสถานการณ์มักเป็นเช่นนี้
กรณีของ "น็อต กราบรถ" ที่ถูกถล่มจากโลกโซเชียลฯจน "จมดิน" ถึงวันนี้เริ่มมีกระแสตีกลับบ้างแล้วว่า การวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงเกินจริง หรือทำภาพและข้อความล้อเลียนที่หนักข้อเกินไป กระทั่งลุกลามไปถึงการเปิดเผยประวัติและหน้าตาของบุคคลในครอบครัวซึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์ฉาวที่เกิดขึ้นนั้น สุดท้ายกลายเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ถูกวิจารณ์หรือไม่