การแถลงตอบโต้ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อย่างรุนแรง กรณีออกมาให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ แฉซ้ำอิทธิพลของเครือข่ายค้ามนุษย์ในประเทศไทย จนทำให้เขาในฐานะอดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาต้องลาออกจากราชการ และกำลังทำเรื่องขอลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียนั้น
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสีย ทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์โจมตีหลายจุดในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา
เกือบ 2 สัปดาห์แล้วที่มีข่าวหัวหน้าชุดสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญาออกมาเปิดโปงผ่านสื่อว่า ทั้งทีมสอบสวนและพยานถูกข่มขู่คุกคามจากกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพล และบางส่วนเป็น “คนมีสี”
"ตำรวจไทยเก่งที่สุดในโลก"วลีนี้ไม่ได้มีใครชม แต่เป็นตำรวจเขาชมกันเอง เป็นคำชมจากท่าน ผบ.ตร. ภายหลังโชว์ผลงานที่เชื่อกันว่าน่าจะปิดคดีระเบิดกลางกรุงเทพฯได้ก่อนที่ท่านจะเกษียณอายุราชการในอีก 2-3 วันข้างหน้านี้
ผ่านมาเกือบ 1 เดือนเต็มแล้ว สำหรับคดีลอบวางระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วย ร่วมมือกันทำงานอย่างเต็มที่ ทำให้ความคืบหน้าทางคดีมีปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่องพอสมควร
การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลวาระประจำปี 2558 กับการปรับคณะรัฐมนตรี และการแต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งต่างๆ ของรัฐบาล มีความเชื่อมโยงที่น่าสนใจไม่น้อย
สืบเนื่องจากบทความที่ชื่อ "เปิดกับแปลฉบับเต็มคลิป BRN กับความเห็นของฝ่ายรัฐ" ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา เมื่อเวลา 18.47 น.วันอังคารที่ 8 กันยายน 2558
การแถลงข่าวของ "มารา ปาตานี" ที่โรงแรม Primeraในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในฐานะองค์กรตัวแทนในการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้กับรัฐบาลไทย เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2558 ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า "มารา ปาตานี" คือใคร เกี่ยวข้องอย่างไรกับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
เป็นธรรมดาอยู่เองที่ผู้กุมอำนาจรัฐจะต้องพยายามสรุปเบื้องต้นว่าเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อช่วงหัวค่ำของวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2558 นั้น ไม่ได้ร้ายแรงมากขนาดที่เป็นข่าวทางสื่อ ทั้งกระแสหลักและโซเชียลมีเดีย