ผ่านคณะรัฐมนตรีและจัดประชุมนัดแรกกันไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ "ครม.ส่วนหน้า" หรือผู้แทนพิเศษของรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
มีข้อเขียนหลายชิ้นจากนักวิเคราะห์หลายท่านบอกว่าระเบิดป่วน 7 จังหวัดภาคใต้มาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในลักษณะของขบวนการแบ่งแยกดินแดนเป็นผู้ปฏิบัติการ
ปัญหาความไม่สงบที่ปลายด้ามขวาน ถึงวันนี้พิสูจน์แล้วว่า 2 ปีเศษของ คสช.ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นสักเท่าไร
มีข่าวไม่เล็กไม่ใหญ่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คือข่าว กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งรับผิดชอบแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนในองค์กรพัฒนาเอกชน หรือ เอ็นจีโอ 3 คน จากกรณีเผยแพร่รายงานสถานการณ์การซ้อมทรมานผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมที่ชายแดนใต้
ผ่านมา 2 ปีนับจากวันตัดสินใจเข้าควบคุมอำนาจการปกครองของ คสช. 22 พ.ค.57 ต้องบอกว่าถึงวันนี้การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่ประสบความสำเร็จ หรือดีขึ้นดังที่ทุกฝ่ายวาดหวัง
น้องสนิทของผมคนหนึ่ง เคยทำงานร่วมกันที่ศูนย์ข่าวอิศราตั้งแต่ยุคเปิดศูนย์ใหม่ๆ ราวปี 48 ตั้งคำถามกับผมเมื่อเร็วๆ นี้ ทำนองว่าทำไมศูนย์ข่าวอิศราภายใต้การดูแลของผม จึงไม่ค่อยสนับสนุนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้
แม้ห้วงปลายสัปดาห์ที่แล้วต่อเนื่องถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นค่อนข้างถี่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าหากวัดกันเชิง “ปริมาณ” แล้ว ยอดรวมของเหตุการณ์ก็ลดลงกว่าแต่ก่อนมาก ตามการแถลงยืนยันของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และรัฐบาล
สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวที่เปิดประเด็นจากเว็บไซต์ศูนย์ข่าวอิศรา คือ ข่าวบุคคลต้องสงสัยที่อาจเชื่อมโยงกับ “กลุ่มรัฐอิสลาม” หรือ “ไอเอส” เข้าไปในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปพบปะกับผู้นำศาสนา และมีการบริจาคเงินเพื่อแลกกับการให้ช่วยสอนนักเรียนในเรื่อง “รัฐอิสลาม”
วันที่ 4 ม.ค.2559 เป็นวันครบรอบ 12 ปีเหตุการณ์ปล้นปืนครั้งใหญ่จากค่ายปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส อันถือเป็นวัน “เสียงปืนแตก” หรือเป็นปฐมบทของสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้รอบใหม่