- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- รือเสาะเดือดปล้นรถบัสนักเรียนบุกถล่มฐานทหารพราน ยะลาปะทะ 2 จุด "วิฯ" 2 ศพ
รือเสาะเดือดปล้นรถบัสนักเรียนบุกถล่มฐานทหารพราน ยะลาปะทะ 2 จุด "วิฯ" 2 ศพ
แวดาโอ๊ะ หะไร
อะหมัด รามันห์สิริวงศ์
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
รือเสาะป่วนหนักช่วงสุดสัปดาห์เจอเหตุรุนแรง 3 เหตุซ้อน กลุ่มคนร้ายอุกอาจบุกปล้นรถบัสรับส่งนักเรียนลุยยิงถล่มฐานทหารพรานเจ็บ 3 รุ่งเช้าเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจจุดเกิดเหตุเจอดักบึ้มซ้ำแต่รอดหวุดหวิด อีกจุดใช้ระเบิดถังดับเพลิงถล่มทหาร โชคดีแค่เจ็บเล็กน้อย 8 นาย ประกบยิงโต๊ะอิหม่ามดับคาถนน ส่วนที่ยะลาปะทะ 2 จุดวิสามัญฯ 2 ศพ
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงร้อนระอุและเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 16.50 น.วันอาทิตย์ที่ 27 ธ.ค.52 ตำรวจ สภ.ยี่งอ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บบนถนนสายรือเสาะ-ยี่งอ ช่วงบ้านจีจา หมู่ 2 ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ล้มคว่ำอยู่ริมถนน โดยมีผักและของใช้ในครัวตกเกลื่อนพื้น
ส่วนผู้บาดเจ็บชาวบ้านช่วยกันพาส่งโรงพยาบาลยี่งอแล้ว ทราบชื่อต่อมาคือ นายซูลกิฟลี สาและ อายุ 38 ปี ครูสอนศาสนาอิสลามโรงเรียนอดุลย์วิทยา อ.ยี่งอ อยู่บ้านเลขที่ 133/1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสั้นไม่ทราบขนาด กระสุนเข้าที่ชายโครงขวา 2 นัด แต่นายซูลกิฟลีทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
สอบสวนทราบว่า หลังสอนหนังสือเสร็จ ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ไปแวะซื้ออาหารที่ตลาดนัดในเขตเทศบาลตำบลยี่งอ จากนั้นจึงขี่รถกลับบ้าน เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ และใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงใส่จนนายซูลกิฟลีเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ปล้นรถบัสรับส่งนักเรียนยิงถล่มฐานทหารพราน
ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง คือเมื่อเวลา 17.40 น.วันเดียวกัน ร.ต.ท.อาทิตย์ เทียนศิริ ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุยิงปะทะกันที่ฐานปฏิบัติการทหารพรานชุดพัฒนาสันติที่ 30-5 บ้านโต๊ะแลปา หมู่ 6 ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ แต่เมื่อไปถึงก็พบว่าคนร้ายได้หลบหนีไปแล้ว ส่วนฝ่ายทหารถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เพื่อนทหารนำตัวส่งโรงพยาบาลรือเสาะ ทราบชื่อคือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) อาทิตย์ บินมูลดอ อส.ทพ.สุกฤช เพิ่มทรัพย์ และ อส.ทพ.อาหะมะ บาโด โดยทั้งสามอาการสาหัส แพทย์ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
ส่วนที่บริเวณหน้าฐานซึ่งเป็นจุดที่มีการยิงปะทะกัน พบตามกระสอบทรายเป็นรูพรุน ห่างไปราว 1 กิโลเมตรมีรถบัสหกล้อสีเหลืองรับส่งนักเรียนของโรงเรียนดารุลศาสน์ จอดอยู่ริมถนน ด้านขวาของรถถูกยิงเป็นรูพรุน
สอบสวนทราบว่า กลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 10 คนสวมชุดดาวะห์ ใช้อาวุธปืนสงครามนานาชนิดปล้นรถรับส่งนักเรียนมาจากพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี หลังเสร็จจากการส่งนักเรียนในเขตพื้นที่ อ.รือเสาะ และกำลังจะขับรถกลับโรงเรียน โดยคนร้ายได้บังคับคนขับรถให้ขับผ่านฐานปฏิบัติการทหารพราน ก่อนจะเปิดฉากกราดยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาก้า เข้าใส่ฐานปฏิบัติการ แต่ถูกยิงตอบโต้จนต้องลงจากรถบัสไปปล้นรถเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยอิสลาม อ.รือเสาะ ที่ขับผ่านมาเพื่อใช้ในการหลบหนี
พบหลักฐานคนร้ายถูกยิงเจ็บ-โชเฟอร์รอดหวุดหวิด
ต่อมา ช่วงสายวันจันทร์ที่ 28 ธ.ค. นายจำลอง ไกรดิษฐ์ นายอำเภอรือเสาะ จ.นราธิวาส พร้อมด้วย พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หัวหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ร.ต.ท.อาทิตย์ เทียนศิริ พนักงานสอบสวน สภ.รือเสาะ ได้นำกำลังเดินทางไปยังฐานปฏิบัติการทหารพรานชุดพัฒนาสันติที่ 30-5 ที่บ้านโต๊ะแลปา หมู่ 6 ต.สามัคคี เพื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและเก็บรวบรวมหลักฐานเหตุการณ์คนร้ายปล้นรถบัสรับส่งนักเรียนของโรงเรียนดารุลศาสน์ เพื่อใช้เป็นพาหนะบุกยิงถล่มฐานปฏิบัติการของทหารพรานดังกล่าว
จากการตรวจสอบจุดแรก คือรถบัส 6 ล้อสีเหลือง ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 40-0089 ปัตตานี ซึ่งเป็นรถบัสรับส่งนักเรียนของโรงเรียนดารุลศาสน์ และเจ้าหน้าที่ยึดไว้ได้เมื่อคืนที่ผ่านมา พบปลอกกระสุนปืนของคนร้ายที่ใช้ยิงถล่มฐานปฏิบัติการจำนวนมาก ทั้งเอ็ม 16 อาก้า และเอ็ม 79 (เครื่องยิงลูกระเบิด) รวมแล้วนับร้อยปลอก ขณะที่สภาพรถบัสถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่พรุนไปทั้งคัน
จุดที่ 2 ห่างจากฐานปฏิบัติการทหารพรานไปประมาณ 150 เมตร ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนมีบ้านเรือนราษฎรปลูกติดกันจำนวน 5-6 หลัง บริเวณด้านหลังชุมชนดังกล่าวมีเส้นทางมุ่งหน้าไปสู่เทือกเขายือลาแป เจ้าหน้าที่พบคราบเลือดตามพื้นหญ้าและกิ่งไม้รายทาง คาดว่ากลุ่มคนร้ายที่ยิงถล่มฐานปฏิบัติการถูกเจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะพากันหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมหลักฐานทั้ง 2 จุด เพื่อนำไปตรวจสอบตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป
ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น พนักงานสอบสวน สภ.รือเสาะ ได้สอบปากคำ นายอารง สาและ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/1 หมู่ 2 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ ซึ่งเป็นพนักงานขับรถบัสของโรงเรียนดารุลศาสน์ที่ถูกคนร้ายปล้น โดย นายอารง ให้การว่า ขณะเกิดเหตุยังมีนักเรียนอยู่บนรถอีก 5 คน และมีครูคุมนักเรียนอยู่ 1 คน มีคนร้ายแต่งกายคล้ายทหาร 1 คนโบกรถในลักษณะคล้ายขอความช่วยเหลือ จึงตัดสินใจจอด
แต่ทันใดนั้นมีคนร้ายรวม 15 คน แต่งกายลักษณะเดียวกันวิ่งกรูออกมาจากป่า พร้อมขึ้นมายึดรถ บังคับให้เด็กนักเรียนและครูลงจากรถ และใช้อาวุธปืนสงครามจี้บังคับให้เขาขับรถไปตามถนน เมื่อใกล้ถึงฐานทหารคนร้ายได้ปล่อยเขาลง เขาจึงวิ่งหนีเข้าป่าแบบไม่คิดชีวิต เกรงจะถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจากด้านหลัง จากนั้นได้ยินเสียงรถบัสพุ่งตรงไปที่ฐานทหาร และมีเสียงอาวุธสงครามยิงถล่มฐาน
วางระเบิดดักสังหารคณะนายอำเภอซ้ำ
ด้าน พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 46 ได้ระดมกำลัง 10 ชุดปฏิบัติการ พร้อมสุนัขสงครามจำนวน 3 ตัว ออกสะกดรอยตามกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีขึ้นไปบนเทือกเขายือลาแป พบร่องรอยคนร้ายลงจากภูเขาและมุ่งหน้าสู่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส จึงได้ประสานให้ชุดพัฒนาสันติที่ตั้งฐานอยู่ในพื้นที่ อ.ยี่งอ นำกำลังออกลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบบุคคลแปลกหน้าที่คาดว่าเป็นกลุ่มคนร้าย
มีรายงานด้วยว่า ระหว่างที่คณะนายอำเภอและเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานถอนกำลังกลับหลังจากตรวจที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าระหว่างทางคนร้ายลอบนำระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก น้ำหนัก 3 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยนาฬิกาปลุก ใส่ไว้ในลังกระดาษสีแดง วางไว้ในกอไผ่ข้างหัวสะพานทางเข้าหมู่บ้านโต๊ะแลปา หมู่ 6 ต.สามัคคี เพื่อดักทำร้ายคณะนายอำเภอด้วย แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ทหารพบเสียก่อน จึงตัดสินใจใช้ปืนแรงดันน้ำยิงทำลาย จึงไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
บึ้มทหารรือเสาะเจ็บเล็กน้อย 8 นาย
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. ที่ อ.รือเสาะ เช่นกัน ร.ต.ท.อาทิตย์ เทียนศิริ ร้อยเวร สภ.รือเสาะ ยังได้รับแจ้งเหตุระเบิดลอบสังหารทหารชุดลาดตระเวนเส้นทาง สังกัด ร้อย ร.1111 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 บนถนนสายท่าเรือ-โกตาบารู ช่วงบ้านตือโละ หมู่ 7 ต.เรียง อ.รือเสาะ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบทหารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 8 นาย โดยส่วนใหญ่มีอาการแน่หน้าอกและหูอื้อเนื่องจากถูกแรงอัดของระเบิด บริเวณกลางถนนมีหลุมระเบิดกว้าง 1.5 เมตร ลึก 1 เมตร ปากหลุมมีสายไฟฟ้าสีดำขาวต่อไว้เป็นทางยาวเข้าไปในป่ายางพาราริมทาง มีเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิงน้ำหนัก 15 กิโลกรัม กระจายเกลื่อน
สอบสวน ร.อ.ภาคิน เกื้อกูล หัวหน้าชุด ร้อย ร.1111 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำกำลังรวม 8 นาย นั่งรถยนต์กระบะออกจากฐานบ้านซือเลาะ หมู่ 4 เพื่อออกลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยตามเส้นทาง เมื่อขับรถผ่านจุดเกิดเหตุ มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซึ่งแฝงตัวอยู่ในป่ายางพาราได้จุดชนวนระเบิดที่ฝังเอาไว้ใต้ผิวถนน แต่โชคดีที่ระเบิดทำงานในช่วงที่รถแล่นผ่านไปแล้ว ทำให้ไม่มีกำลังได้รับบาดเจ็บร้ายแรง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ปะทะเดือดที่ยะลาวิสามัญฯอีก 2 ศพ
ที่ จ.ยะลา เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 27 ธ.ค. กองกำลังผสมทหาร ตำรวจ จู่โจมเข้าปิดล้อมตรวจค้นแหล่งหลบซ่อนตัวของกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบ 2 แห่งใน จ.ยะลา โดยจุดแรกเข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมายภายในป่ายางพาราหลังหมู่บ้านบัวทอง หมู่ 2 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จนเกิดการยิงปะทะกัน
หลังสิ้นเสียงปืนเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบศพ นายมะโซฟี ลีลาแย อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง มีหมายจับของทางการหลายหมาย อยู่บ้านเลขที่ 22/4 บ้านบัวทอง หมู่ 2 ต.บ้านแหร ข้างศพพบปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ 1 กระบอก
ส่วนจุดที่ 2 พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา) ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า กลุ่มแนวร่วมติดอาวุธได้เคลื่อนไหวอยู่บริเวณพื้นที่รอยต่อบ้านท่าสาป หมู่ 1 กับบ้านปายอ หมู่ 2 ต.ท่าสาป หลังโรงเรียนบ้านท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา จึงนำกำลังผสมทหาร ตำรวจ และอาสาสมัคร อ.เมืองยะลา เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่ในป่ายางพารา ห่างจากโรงเรียนบ้านท่าสาปประมาณ 50 เมตร
อย่างไรก็ดี คนร้ายซึ่งคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 2 คนเห็นเจ้าหน้าที่ก่อน จึงเปิดฉากยิงเข้าใส่ และเกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือดนานกว่า 10 นาที เมื่อสิ้นเสียงปืนพบศพ นายมะกอเซ็ง เจ๊ะเต๊ะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 3 ต.บันนังสาเร็ง อ.เมือง จ.ยะลา ข้างศพมีอาวุธปืน อาก้าพับฐานสภาพใหม่ตกอยู่ 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง พร้อมกระดาษจดหมายเลขโทรศัพท์ของเครือข่ายจำนวน 1 แผ่น จึงเก็บไปเป้นหลักฐาน
จากการตรวจสอบฐานข้อมูลของเจ้าหน้าที่พบว่า นายมะกอเซ็งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอาญา 3 หมาย และหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (ออกตามความในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548) อีก 1 หมาย ล่าสุดได้ร่วมกับพวกก่อเหตุระเบิดศาลาแปดเหลี่ยมเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2552 ซึ่งเป็นวันที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเดินทางลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ร่วมกับนายกฯไทย เป็นเหตุทหารและตำรวจเสียชีวิต 2 นาย
ซุ่มยิงชาวบ้านตาเนาะปูเต๊ะดับ 2 สาหัส 1
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 27 ธ.ค.2552 ตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา รับแจ้งมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตบนทางหลวงหมายเลข 410 ช่วงยะลา-บันนังสตา ท้องที่บ้านทำนบ หมู่ 3 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบศพ นายซอยฟูดิง เจ๊ะเต๊ะ อยู่บ้านเลขที่ 9/1 หมู่ 3 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ และนายฟุลกอน สาเบาะ อยู่บ้านเลขที่ 121/1 หมู่ 3 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ นอนเสียชีวิตอยู่ใกล้กับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนซึ่งล้มคว่ำอยู่ นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลบันนังสตาอีก 1 คน ทราบชื่อ นายรุสลัน ยานฮา อยู่บ้านเลขที่ 121/1 หมู่ 3 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ ถูกยิงที่ลำตัว 2 นัดอาการสาหัส
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทั้ง 3 คนขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนสามกลับจากบ้านเพื่อน เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านที่ ต.ตาเนาะปูเต๊ะ เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนอาก้า และเอ็ม 16 กราดยิงใส่จนเสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บสาหัส 1 คน เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
กราดอาก้าดับโต๊ะอิหม่ามรือเสาะ
ก่อนหน้านั้นเมื่อเวลา 12.20 น.วันศุกร์ที่ 25 ธ.ค.2552 ร.ต.ท.แดนชัย มูลป้อม ร้อยเวร สภ.รือเสาะ รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านบือและ หมู่ 1 ต.รือเสาะ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบศพ นายมาน๊ะ สะมะแอ อายุ 48 ปี โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดบ้านมือและ อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 1 ต.รือเสาะ ถูกยิงด้วยปืนอาก้ารวม 3 นัดเสียชีวิตคาที่
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายมาน๊ะ กำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปละหมาดที่มัสยิดบ้านมือและ แต่ระหว่างทางมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิซิ สีเขียว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ขับตามประกบ จากนั้นคนร้ายที่อยู่กระบะท้ายได้ใช้อาวุธปืนอาก้ายิงใส่จนเสียชีวิต เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบเช่นกัน