ศาลเเพ่งสั่งรถตู้ บขส. จ่ายสินไหมทดเเทน 9 เหยื่ออุบัติเหตุ 3.2 ล้าน

ศาลชั้นต้นพิพากษาสั่งคนขับรถตู้ร่วมบริการ บขส. และจำเลยที่เหลือจ่ายค่าสินไหมทดเเทนหยื่อรถตู้ 9 ราย รวม 3.2 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2557 ศาลแพ่งรัชดา กรุงเทพฯ ห้องพิจารณาคดีที่ 613 อ่านคำพิพากษาในคดีอุบัติเหตุ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2554 กรณีรถตู้โดยสารประจำทาง บริษัทจักรพันธ์ทัวร์ จำกัด สาย สิงห์บุรี-กรุงเทพฯ หมายเลขทะเบียน 10-2523 เฉี่ยวกับรถจักรยานยนต์ ก่อนเสียหลักชนประสานงากับรถยนต์พ่วงบรรทุกก๊าซ NGV บนถนนสายลพบุรี-สิงห์บุรี ช่วง กม.6-7 หมู่ที่ 15 ต.บางคู้ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวน 13 คน

เหตุการณ์ดังกล่าวแม้ว่าหลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้เข้าเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางบริษัทรถตู้โดยสารและบริษัทประกันภัยคู่กรณีที่สถานีตำรวจภูธรท่าวุ้งหลายครั้ง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธความช่วยเหลือต่อการชดเชยเยียวยาใด ๆ รวมทั้งการบ่ายเบี่ยงจากบริษัทประกันภัยในการจ่ายค่าสินไหมทดแทน

จนระยะเวลาผ่านมาเกือบ 1 ปี ก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด เมื่อผู้เสียหายทวงถามก็ได้รับคำตอบว่า ทางบริษัทรถจะไม่ชดเชยค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น หากอยากได้ให้ไปฟ้องศาลเอาเอง ทางผู้เสียหายจึงได้ขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อยื่นฟ้องร้องจำนวน 9 คดี เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2555

คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1, 2, 4, 5 ประกอบด้วย คนขับรถมอเตอร์ไซด์ เจ้าของรถตู้โดยสาร บริษัทประกันภัย ทั้งภาคสมัครใจและภาคบังคับ และบริษัทขนส่งจำกัด ร่วมกันจ่ายค่าสินไหมทดแทนคืนแก่โจทก์แต่ละรายดังนี้

1. นางสาวระพีพรรณ ไม้เลี้ยง 790,025.50 บาท

2. นางสาวจิราภรณ์ เจริญสุข 461,736 บาท

3. นางสาวฉัตรฟทัย ชูชัยมงคล 135,350 บาท

4. นางสาวรัชนารี อินทรกวี 440,000 บาท

5. นายวิสารท์ ทัฬหวรรัตน์ 963,500 บาท

6. นางสาวสุภาพร ลุกจันทึก 332,780 บาท

7. นายวิชุกรณ์ สำอางค์ 43,360 บาท

8. นายกลวัชร เลิศสวัสดิวิทย์ 122,046 บาท

9. นายธงชัย ต้องจิตร เนื่องจากโจทก์ไม่ได้เข้าร่วมกระบวนการสืบพยาน ประภัยภาคจึงบังคับนำเงินค่ารักษาพยาบาลที่เหลือ มาวางที่ศาลเป็นค่าสินไหม ชดเชยความเสียหาย

รวมมูลค่าค่าสินไหมทดแทนคืนแก่โจทก์ 3,288,797.50 บาท

นายวิสารท์ ทัฬหวรรัตน์ ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า การฟ้องร้องของกลุ่มผู้เสียหายจนมีคำพิพากษาในครั้งนี้ จะทำให้ผู้เสียหายในฐานะผู้โดยสารจะได้รับการชดเชย เยียวยา ที่เป็นธรรมและเหมาะสม จากคู่กรณี พร้อมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคต่อการแก้ไขปัญหาของตนเองด้วยกระบวนการยุติธรรม แต่ตนเองก็หวังว่าทางจำเลยจะไม่อุทธรณ์ต่อศาลอีก เพราะที่ผ่านมา กว่า 2 ปี ตนเองและเพื่อนผู้เสียหายก็ไม่เคยได้รับการดูแล ใส่ใจ จากจำเลยแม้แต่น้อย หากจำเลยใช้สิทธิอุทธรณ์ตนคิดว่า เป็นการละเมิดซ้ำซ้อนกับผู้เสียหายอย่างแท้จริง .

ภาพประกอบ:ว๊อยซ์ทีวี