- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- ศาลฯ สั่งกรมอุทยานจ่ายค่าเสียหายเผาบ้านกะเหรี่ยง
ศาลฯ สั่งกรมอุทยานจ่ายค่าเสียหายเผาบ้านกะเหรี่ยง
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานศาลปกครอง ตุลาการศาลปกครองกลางได้ออกนั่งบัลลังก์เพื่ออ่านคำพิพากษาในคดีที่นายน่อแอะ หรือหน่อแอะ มีมิ ยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในกรณีเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ อันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย ซึ่งศาลฯ ได้พิจารณาในกรณีที่ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้เผาทำลายบ้านของผู้ฟ้องคดีตามแผนโครงการขยายผลการอพยพ ผลักดัน จับกุมชุมชนกลุ่มน้อยที่บุกรุกพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานนั้น ซึ่งจากการไต่สวน พบว่าพื้นที่นี้อยู่ในป่าลึก และมีการบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อเปิดป่าดงดิบ ไม่ใช่ที่ดินทำกินในอุทยานฯ ที่มีการจัดสรรให้ทำกิน จึงถือว่าเป็นความผิดตามมาตรา 16 แห่งพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปเจรจา ได้มีการจัดล่ามและชาวกระเหรี่ยงในพื้นที่ร่วมเจรจา รวมทั้งกำหนดเวลาให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง จึงไม่ถือเป็นการละเมิด
แต่การกระทำของหัวหน้าอุทยานฯ เป็นการทำหน้าที่ตามกฎหมายในกรณีผู้บุกรุกพื้นที่ป่า ไม่ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ ซึ่งการอ้างมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 3 ส.ค.2553 ไม่สามารถนำมาอ้างได้ เพราะมติดังกล่าวจะคุ้มครองเฉพาะชาวกะเหรี่ยงในชุมชนดังเดิม ไม่รวมการบุกรุกแผ้วถางป่าในเขตอุทยานฯ ในลักษณะการเปิดป่าใหม่ ไม่ใช่พื้นที่ที่ทางราชการจัดสรรหรือยกเว้นให้ จึงไม่อาจอ้างมติครม.นี้ได้ ส่วนการเรียกค่าเสียหายนั้น ศาลปกครองได้วินิจฉัยและกำหนดให้ผู้ถูกฟ้อง จ่ายค่าสินไหม 5,000 บาท และค่าเครื่องใช้ 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 10,000 บาท ให้แก่ผู้ฟ้องคดี ภายใน 30 วัน สำหรับคำขออื่น ศาลฯให้ยกฟ้อง
ด้านนายธนู เอกโชติ ทนายความของผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า คงต้องไปหารือกับคณะทำงานว่าจะมีการอุทธรณ์คำพิพากษาหรือไม่ ซึ่งทีมทนายความของสภาทนายความยังเห็นแย้งในกรณีดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างเรื่องพื้นที่พิพาทที่ศาลปกครองเห็นว่าเป็นพื้นที่บุกรุกใหม่ ซึ่งทีมทนายความเห็นว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่เดิมที่ชาวกะเหรี่ยงอาศัย และนายน่อแอะไม่ได้รับการจัดสรรที่ดินใหม่ รวมทั้งกรณีค่าเสียหายซึ่งจากเดิมได้ฟ้องจำนวนกว่า 1,000,000 บาทซึ่งในจำนวนนี้เป็นเรื่องของวิถีชีวิต ทรัพย์สิน บ้าน และการละเมิดสิทธิของความเป็นคน
ขณะที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนแก่งกระจาน กล่าวว่า คำพิพากษาที่ออกมาจะเห็นว่านายน่อแอะ มีที่ทำกินที่ชัดเจน ซึ้่งการกล่าวหาเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เป็นการกล่าวอ้างที่ผู้ฟ้องคดีไม่เคยเห็นพื้นที่จริง ที่ผ่านมาเราถูกกล่าวหา และในวันนี้ทำให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติโดยชอบตามกฎหมาย มีการเจรจา และไม่มีพื้นที่เดิมที่อาศัยในป่า อย่างไรก็ตาม เรื่องค่าสินไหมที่ศาลฯ สั่งให้จ่ายแก่ผู้ฟ้องคดีนั้น ผู้ถูกฟ้องจะขอใช้สิทธิ์ในการอุทธรณ์การจ่ายค่าสินไหมดังกล่าว.