- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- พิษไก่เน่า"แผงปิ้งย่าง"เหงา-ปิดหนี
พิษไก่เน่า"แผงปิ้งย่าง"เหงา-ปิดหนี
ผู้ว่าฯโคราชสั่งเด้งปศุสัตว์ปากช่องเซ่นไก่เน่า ตั้ง กก.สอบซ้ำพ่วงนายอำเภอ คาดโทษ จนท.ทุกระดับหากละเลย เผยร้านหมูกระทะ-ไก่ย่างรถเข็นกระทบ ด้าน อย.ประสาน สสจ. ตรวจร้านค้ารายย่อยภาคอีสาน เตือนประชาชนหลีกเลี่ยงซื้อไก่จากรถเร่ขาย
หลังเจ้าหน้าที่บุกจับโรงชำแหละไก่เถื่อน ที่ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้ผู้ต้องหา 4 ราย ของกลางซากไก่ตายกว่า 8 ตัน โดยเนื้อไก่ที่ยังไม่เน่าเสียจะชำแหละใส่ถุงพลาสติคเพื่อนำไปขายต่อ ส่วนชิ้นส่วนที่เริ่มมีกลิ่นเน่าและมีสีเขียวช้ำจะนำไปขยำกับดินประสิว หรือ ฟอร์มาลิน เพื่อให้เนื้อไก่กลับมาสีชมพูใกล้เคียงกับเนื้อไก่ปกติ จากนั้นจะกระจายไปตามร้านค้า รวมทั้งผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปบางราย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตือนถึงอันตรายจากการบริโภค ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองโสมง ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานวันชาวโคราชรวมใจ ขจัดภัยเพลี้ยแป้ง ว่า กรณีบุกทลายโรงงานชำแหละ ซากไก่เน่าที่ อ.ปากช่อง ตนต้องกราบขอโทษประชาชนอีกครั้ง ที่ดูแลไม่ทั่วถึง ทั้งๆ ที่ในพื้นที่ทุกชุมชน หมู่บ้าน มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทุกอำเภอ มีด่านกักสัตว์ ปล่อยให้ขนซากไก่ผ่านออกมาได้อย่างไร ซึ่งต้องลงไปในรายละเอียดว่าผู้ที่ถูกจับกุมเป็นแพะรับบาปหรือไม่ เนื่องจากผู้ต้องหาที่ถูกจับ 4 ราย เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา พบว่า 2 รายไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน และเคยถูกจับมาแล้ว เหมือนมี การเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา ซึ่ง พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา มีคำสั่งแต่งตั้ง พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รอง ผบก. ภ.จ.นครราชสีมา เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ตนมั่นใจว่าจะจับกุมผู้ประกอบการที่แท้จริงได้ ไม่ใช่จับแพะ
"ที่ผ่านมา การไม่เอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่ทำให้เกิดปัญหา ฉะนั้นครั้งนี้เอาจริงแล้วไม่มีข้อแก้ตัวอีก ถ้าเกิดเหตุ นายอำเภอ ผู้กำกับการสถานีตำรวจ ปศุสัตว์อำเภอ ไล่ลงไปถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ได้ตั้งกรรมการสอบสวนปศุสัตว์อำเภอ นายอำเภอด้วย และเพื่อประโยชน์ในการสอบสวน ในวันที่ 15 มิถุนายน ได้ขอให้ปศุสัตว์อำเภอปากช่องมาให้ถ้อยคำ ฉะนั้นเพื่อความสะดวกในการให้ถ้อยคำ จึงสั่งให้มาช่วยราชการที่จังหวัด" นาย ระพีกล่าว
นายระพีกล่าวอีกว่า ส่วนการขยายผลไปทุกพื้นที่ ทุกอำเภอทั้ง 32 อำเภอขณะนี้ดูหมด แล้ว ตนตั้งโจทย์ไว้ว่า ใครไม่รู้ไม่ได้ ทั้งความผิดอื่นๆ ด้วย โรงงานนรกแหล่งซ่องสุมยาเสพติด อบายมุขต่างๆ นายอำเภอจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ ต้องไปหาวิธีทำให้ผู้ใหญ่บ้านมาบอก อย่างไรก็ตาม โดยภูมิศาสตร์น่าจะเกิดที่ อ.ปากช่อง พื้นที่เดียว เพราะไก่พวกนี้ขนมาจากโรงงานแถวภาคกลาง แล้วลำเลียงไปยังถิ่นทุรกันดารขายให้พี่น้องที่อยู่ห่างไกลไม่ค่อยรู้เรื่อง ส่วนคนในเมืองไม่ต้องกังวลการบริโภคไก่ เพราะไก่ที่บริโภคมั่นใจว่าสะอาด
ด้าน พ.ต.อ.วชิรวิชญ์กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 รายรับสารภาพว่า ซากไก่ตายที่ชำแหละทั้งหมดนั้น ชิ้นส่วนไก่ส่วนใหญ่นำไปขายเป็นอาหารเลี้ยงปลาในจังหวัดลพบุรี ส่วนเนื้อไก่นำไปเป็นอาหารให้ฟาร์มเลี้ยงจระเข้ ในจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งกำลังตามดูเส้นทางของซากไก่ที่ชำแหละ เบื้องต้นแจ้งข้อหาเคลื่อนย้ายซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต
"ส่วนการสืบหานายทุนรายใหญ่ เบื้องต้นพบว่าโรงงานที่ชำแหละไก่เป็นบ้านพักอาศัยของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนวันที่ 13 มิถุนายน ได้ตรวจยึดเนื้อไก่ที่ชำแหละแล้วเพิ่มเติมอีกประมาณ 1.6 ตัน ในพื้นที่ ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง" พ.ต.อ.วชิรวิชญ์กล่าว และว่า นายระพีได้ตั้งชุดสืบสวน 1 ชุด เพื่อสืบสวนเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 13 มิถุนายน พ.ต.อ.ภควัต ธรรมดี ผกก.สภ.ปากช่อง ร่วมกับปศุสัตว์อำเภอปากช่อง จับกุมนายโยธิน ยิ่งนอก อายุ 42 ปี พร้อมไก่ตาย 2 ตัน ภายในโรงงานบ้านพักหมู่ 12 บ้านหนองน้อย ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดี และนำซากไก่ไปทำลาย
ด้าน พ.ต.อ.ศักดา เชื้อประทุม ผกก.สภ.กลางดง กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง โดยญาติพี่น้องขอยื่นหลักทรัพย์เพื่อประกันตัว คาดน่าช่วงสายวันที่ 15 มิถุนายน จะนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงจังหวัดปากช่องได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่ม
สำหรับบรรยากาศการจำหน่ายไก่สดในตลาดสดในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เจ้าของแผงไก่ต่างยืนยันว่ากระแสข่าวการชำแหละซากไก่ตายไม่กระทบต่อการจำหน่ายไก่สด
"เจ๊หลาบ" เจ้าของแผง มณีไก่สด ตลาดย่าโม อ.เมือง เปิดเผยว่า เนื้อ และ ชิ้นส่วนไก่ ยังมียอดขายเหมือนเดิม เฉลี่ยวันละ 15-20 ตัน ถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวดังกล่าว โดยเนื้อไก่ที่มีปัญหาจะนำมาวางขายตามตลาดสดใหญ่ๆ ไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะผู้ซื้อสังเกตความเปลี่ยนแปลงของสีและกลิ่นได้ง่าย คาดว่าเนื้อไก่เหล่านั้นจะเป็นสินค้าในตลาดล่าง โดยมีการรับช่วงไปขายในตลาดนัด
ด้านนายเฉลิมชัย วาสุเทพ ผู้บริหาร ร้านอาหารเนื้อย่างเกาหลี หรือหมูกระทะ "นำขบวน เนื้อย่าง" ซึ่งมีสาขาเกือบ 10 สาขา กล่าวว่า ปกติลูกค้านิยมบริโภคเนื้อหมูมากกว่าเนื้อไก่ เนื่องจากเนื้อหมูเหมาะกับการนำมาหมักย่าง จะได้รสชาติอร่อยกว่า หลังมีกระแสข่าวเกิดขึ้น ลูกค้ายังสั่งเนื้อไก่มาบริโภคปกติ เป็นเพราะความเชื่อมั่นต่อร้าน
ส่วนบรรยากาศร้านไก่ย่างและหมูกระทะ ในเขตเทศบาลเมืองปากช่อง และใกล้เคียง 5 แห่ง เจ้าของร้านแต่ละแห่ง ยอมรับว่าลูกค้าสั่งเนื้อไก่น้อยลง และหันไปรับประทานเนื้อวัว เนื้อหมู และอาหารทะเล ขณะที่แม่ค้าร้าน ไก่ย่างตามแผงลอยและรถเข็นได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะสี่แยกไฟแดงตลาดปากช่อง เดิมมีแผงขายไก่ย่าง 6 ร้าน ขณะนี้เหลือเพียง 2 ร้านเท่านั้น
ขณะที่ นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการ คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ได้ประสานงานให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ตรวจทุกร้านค้ารายย่อย รวมทั้งในตลาดของทุกพื้นที่ทุกจังหวัดในภาคอีสานเป็นพิเศษ เพื่อตรวจสอบว่ามีการนำไก่ที่ไม่ได้คุณภาพมาจำหน่ายหรือไม่ อยากฝากไปยังประชาชนในแถบภาคอีสานไม่ควรซื้อไก่ที่มาจากรถเร่ขาย ควรซื้อไก่จากร้านประจำที่มีแหล่งที่มาน่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัย
ด้าน นพ.คำรณ ไชยศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 14 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจแผงขายเนื้อไก่ที่วางจำหน่ายใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 13 แผง ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงงานชำแหละไก่มากที่สุด โดยทั้งหมดไม่พบสาร ฟอร์มาลิน อย่างไรก็ตาม การเลือกไก่สด ชาวบ้านยังพอสังเกตหรือดมกลิ่นรู้ว่าสดแท้หรือแช่ฟอร์มาลิน ที่เป็นห่วงขณะนี้คือเรื่องของไส้กรอกและลูกชิ้นไก่ ที่อาจนำไก่ผสมฟอร์มาลินมาแปรรูปหรือแปลงสภาพไปแล้ว ซึ่งวันที่ 15 มิถุนายน จะประชุม สสจ.ในพื้นที่เขต 14 ทั้ง 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และ สุรินทร์ เพื่อสุ่มตรวจและเฝ้าระวังในเรื่องนี้
ส่วน น.ส.ทิพย์วรรณ ปริญญาศิริ ผู้อำนวยการสำนักอาหาร อย. กล่าวว่า อย.มีการตรวจสอบโรงงานแปรรูปพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ อยู่แล้ว โดยจะพิจารณาว่ามีการนำวัตถุดิบมาจากแหล่งใด ถูกต้องตามเกณฑ์มาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) หรือไม่ ซึ่งปกติโรงงานเหล่านี้จะได้มาตรฐานอยู่แล้วไม่น่าห่วง แต่พวกโรงงานรายย่อยจะควบคุมยาก คงฝากเพียงร้านค้าต่างๆ ควรเลือกวัตถุดิบที่มีแหล่งที่มาที่ถูกต้อง ไม่มุ่งซื้อแต่วัตถุดิบราคาถูก ทั้งนี้ หากใครพบเบาะแสร้านที่ไม่ได้คุณภาพแจ้งมายัง อย.ได้ที่โทร.1556
ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ร่วมกับกรมปศุสัตว์ตรวจสอบซากไก่ดังกล่าวตายผิดปกติหรือไม่ ทั้งนี้ ซากไก่ที่นำมาชำแหละขายนั้น ต้องพิจารณา 2 กรณี คือ 1.ไก่ตายตาม ปกติ ส่วนใหญ่จะมีเชื้อแบคทีเรีย ซาลโมเนลลา (Salmonella) ทำให้ก่อโรคทางเดินอาหาร ท้องเสีย บางรายรุนแรงอาจติดเชื้อในกระแสเลือดและเสียชีวิตได้ และ 2.ไก่ตายจากโรคระบาด แต่เบื้องต้นกรณีนี้ไม่ใช่
นายปรีชา สมบูรณ์ประเสริฐ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบย้อนหลังไปยังฟาร์มเลี้ยงไก่ต่างๆ ที่มีเบาะเเสว่าขายไก่ตายให้กับโรงชำแหละไก่เถื่อน หากพบว่ามีเจตนาจงใจก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายนิรันดร เอื้องตระกูลสุข รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ตามหลักฟาร์มเลี้ยงสัตว์ต่างๆ จะขึ้นทะเบียนหรือไม่ก็ได้ เเล้วเเต่ความสมัครใจ แต่หากรายใดขึ้นทะเบียนจะเข้าสู่ระบบการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าให้ได้คุณภาพตามกฎหมายระบุ สามารถส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศได้ เเต่รายที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนจะขายได้เฉพาะในประเทศเท่านั้น
"ขณะเดียวกัน ฟาร์มที่ขึ้นทะเบียนหากพบว่าจงใจขายไก่ตาย จะถูกถอนใบอนุญาตทันทีพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนรายที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หากเป็นโคหรือกระบือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตัวละไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถ้าเป็นสัตว์นอกจากโคหรือกระบือ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกินตัวละ 2,500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เเต่ถ้าทำผิดซ้ำสองจะถูกดำเนินคดี โดยไม่รอลงอาญา" นายนิรันดรกล่าว
ที่มาจาก :