ศาล ปค.ยกคำร้อง‘สปริงนิวส์’ขอให้ กสทช.เลื่อนจ่ายใบอนุญาตทีวีดิจิตอล
ศาลปกครองกลางวินิจฉัยยกคำร้อง ‘สปริงนิวส์’ ขอให้คุ้มครองชั่วคราว ให้ กสทช. เลื่อนชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทีวีดิจิตอล เหตุนอกเหนือประเด็น วินิจฉัยได้แค่เรื่องชดใช้ค่าเสียหาย-ให้ปฏิบัติตามหน้าที่
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ศาลปกครองกลางมีคำวินิจฉัยในคดีระหว่างบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด (เจ้าของสถานีโทรทัศน์ทีวีดิจิตอล สปริงนิวส์) ผู้ฟ้องคดี กับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เลขาธิการ กสทช. และสำนักงาน กสทช. ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3 ในเรื่องพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร และการกระทำอันละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการละเลยต่อหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
กรณีนี้สรุปได้ทำนองว่า บริษัท สปริงนิวส์ฯ ยื่นฟ้องผู้ถูกฟ้องคดี 1-3 กรณีที่สร้างความสับสนในการประมูลทีวีดิจิตอล และออกประกาศซ้ำซ้อน มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมถึงความล่าช้าในการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอล ส่งผลให้บริษัท สปริงนิวส์ ไม่สามารถดำเนินการตามแผนธุรกิจที่ประกอบไว้ได้ และขาดโอกาสและกำไรในการประกอบกิจการ แม้จะทำหนังสือถึงประธาน กสทช. เพื่อขอให้มีมาตรการเยียวยา โดยขอให้เลื่อนกำหนดชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ที่จะถึงกำหนดชำระในปี 2558 (งวดที่ 2) ออกไปเป็นระยะเวลา 2 ปี และยกเว้นการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตฯรายปี ซึ่งต้องชำระในอัตรร้อยละ 2 ของรายได้จากการประกอบกิจการโดยไม่หักค่าใช้จ่าย แต่ไม่เป็นผลตามข้อเสนอ จึงขอเรียกร้อง สรุปความได้ดังนี้
1.ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 321,770,594 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
2.ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ชดใช้ค่าเสียหายเป็นค่าใช้จ่ายที่บริษัท สปริงนิวส์ฯ ต้องรับภาระเพิ่มเติม เป็นเงินวันละ 70,243 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้นดังกล่าว จนกว่าผู้ถูกฟ้องคดีจะปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้แก่ผู้ฟ้องคดีจนครบถ้วนและเสร็จสิ้นเสียก่อน
3.ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3 หยุดกระทำซ้ำ หรือหยุดกระทำละเมิดตามฟ้องต่อผู้ฟ้องคดี
4.ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3 ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย โดยออกมาตรการเยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิตอลซึ่งรวมถึงการพิจารณาเลื่อนกำหนดการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ งวดที่ 3 (ปี 2559) เป็นต้นไป รวมถึงการใช้อำนาจพิจารณาหรือลดหย่อนหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่แต่ละประเภทเป็นรายปีให้มีความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ผู้ฟ้องคดีโดยไม่สมเหตุสมผล
กรณีนี้ศาลปกครองกลางวินิจฉัยแล้ว สรุปความได้ทำนองว่า กรณีนี้ศาลมีอำนาจกำหนดคำบังคับให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3 ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ และสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ชดใช้เงินค่าเสียหายให้แก่ผู้ถูกฟ้องคดี หรือให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการภายในเวลาที่ศาลกำหนด ตามนัยมาตรา 72 วรรคหนึ่ง (2) และ (3) แห่ง พ.ร.บ.ศาลปกครองฯ เท่านั้น
การที่ผู้ฟ้องคดีมีคำขอให้ศาลมีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยขอให้สั่งห้ามชั่วคราวไม่ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3 เรียกร้องให้ผู้ฟ้องคดีชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตคลื่นความถี่งวดที่ 3 และงวดถัด ๆ ไป จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด และให้ปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมเพิ่มโดยไม่ให้ถือว่าเป็นการผิดเงื่อนไขใบอนุญาตและกำหมายที่เกี่ยวข้อง และห้ามไม่ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3 กำหนดมาตรการบังคับทางปกครองอื่นใดเพิ่มเติมได้ ซึ่งรวมถึงการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตมาบังคับแก่ผู้ถูกฟ้องคดี
คำขอดังกล่าวศาลเห็นว่า เป็นเรื่องนอกเหนือจากประเด็นแห่งคดี กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรและเพียงพอที่จะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษามาใช้ได้ ศาลจึงไม่อาจรับคำร้องของผู้ฟ้องคดีไว้พิจารณาได้ เพราะเป็นกรณีไม่เข้าเงื่อนไขตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.บ.ศาลปกครองฯ ประกอบกับข้อ 75 ถึงข้อ 77 ของระเบียบที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยการพิจารณาคดีปกครอง
จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องขอให้กำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดีไว้พิจารณา
ดูคำวินิจฉัยฉบับเต็ม