- Home
- Investigative
- จัดซื้อจัดจ้าง
- ‘วิลาศ’ยื่น สตง.-ป.ป.ช.สอบปม กทม. ซื้อรถดับเพลิงเล็ก 160 ล.ไม่คุ้มค่า
‘วิลาศ’ยื่น สตง.-ป.ป.ช.สอบปม กทม. ซื้อรถดับเพลิงเล็ก 160 ล.ไม่คุ้มค่า
‘วิลาศ’ ยื่น สตง.-ป.ป.ช. สอบปม กทม. จัดซื้อรถดับเพลิงขนาดเล็ก 160 ล้าน ส่อไม่คุ้มค่า-แพงเกินจริง หลัง สตง. เคยทำหนังสือถึง ‘หม่อมสุขุมพันธุ์’ ทบทวนการดำเนินโครงการดังกล่าวแต่เงียบ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบโครงการจัดหารถกู้ภัยขนาดเล็ก (รถดับเพลิง) ของ กทม. จำนวน 20 คัน วงเงินงบประมาณ 160 ล้านบาท เนื่องจากนายวิลาศ เชื่อว่า มีพฤติการณ์ส่อว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157 รวมถึงผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว)
นายวิลาศ ระบุว่า การจัดซื้อรถกู้ภัยดังกล่าวอาจมีราคาสูงเกินจริง ประมาณคันละ 2.5 ล้านบาท แต่ใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า เนื่องจากรถกู้ภัยที่จัดซื้อเป็นรถวิบาก ไม่เหมาะสมจะใช้เป็นรถกู้ภัย ขณะที่เครื่องดับเพลิงแรงดันสูง ราคาเครื่องละ 4.1 ล้านบาท แต่ฉีดน้ำต่อเนื่องนาน 5 นาที ในระยะทาง 10 เมตร
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ สตง. ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร) เพื่อขอให้ทบทวนการดำเนินโครงการดังกล่าวแล้ว เนื่องจากการตรวจสอบประสิทธิภาพเบื้องต้นพบว่า โครงการจัดหารถดับเพลิงขนาดเล็กดังกล่าว มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้กับสถานที่เกิดเหตุที่เข้าถึงไม่สะดวก เช่น ตรอกซอยขนาดเล็ก ที่เป็นที่อยู่อาศัยของประชาชน แต่ผลการทดสอบการใช้งานของรถกู้ภัยขนาดเล็กดังกล่าว ที่ชุมชมวัดเทพากร จำนวน 14 แห่ง ปรากฏว่า ไม่สามารถเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ตามวัตถุประสงค์ของการจัดหา จำนวน 13 แห่ง ใช้งานได้จริงเพียง 1 แห่ง และผลการทดสอบยังใช้เวลาเกินกว่ามาตรฐานกำหนด
หาก กทม. ยังจะใช้งานรถกู้ภัยดังกล่าวอีกอาจใช้งานไม่สมประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับเงินงบประมาณแผ่นดิน และไม่ตรงกับความต้องการของประชาชนในชุมชน ซึ่งเครื่องดับเพลิงแบบหาบหามแรงดันสูง สามารถต่อเชื่อมกับหัวจ่ายน้ำดับเพลิงของการประปานครหลวงที่ กทม. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงขอความร่วมมือในการติดตั้งหัวจ่ายน้ำดับเพลิง (ประปาหัวแดง) ตามโครงการชุมชนปลอดภัยของ กทม. และอาจเพิ่มหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในชุมชนให้มากขึ้นในซอยที่มีชุมชนหนาแน่นรถไม่สามารถเข้าถึงได้ ประกอบกับถังเคมีดับเพลิงซึ่งมีในทุกชุมชนอยู่แล้ว น่าจะมีความคุ้มค่ากับการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน
หนังสือดังกล่าว ระบุอีกว่า ดังนั้นเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ และรักษาไว้ซึ่งวินัยการเงินการคลัง จึงขอให้ กทม. ดำเนินการทบทวนการจัดหารถกู้ภัยขนาดเล็กระยะที่ 1 ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ มีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงความต้องการของประชาชน และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับอย่างแท้จริง นอกจากนี้ให้แจ้งผลการดำเนินการให้ สตง. ทราบภายใน 30 วัน เพื่อประกอบการตรวจสอบว่าด้วย พ.ร.บ.สตง. หากพ้นกำหนดนี้ สตง. จำเป็นต้องแจ้งศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
อ่านประกอบ :
ล้วงเหตุผล! กทม. VS สตง.แลกหมัดปมจัดซื้อรถดับเพลิงเล็กคุ้มหรือเสีย?
เผยผลสอบ สตง.บี้ กทม.ทบทวนซื้อรถดับเพลิง-ไม่เชื่อส่ง ศอตช.เช็คบิล
ปัญหาเพียบยังดันทุรังซื้อ! สตง.สั่งเช็คเบิลรถดับเพลิงเล็ก-จี้กทม.ฟันวินัยขรก.