หุ้นใหญ่บ.คู่เทียบสร้างสนามฟุตซอล 117 ล.ที่แท้ กก.บริษัทอดีตที่ปรึกษารมต.

ผู้บริหาร บ.อินแทรคแอนด์โค คู่เทียบแข่งสร้างสนามฟุตซอล 117 ล. กรมพละฯ แท้จริงเป็น กก.บริษัทคนในครอบครัวอดีตที่ปรึกษารมต.กระทรวงท่องเที่ยว  แถมแจ้งที่อยู่เดียวกับผู้ชนะประมูล 

      นอกจากประเด็น นายชาติชาย จิตติยากูล กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท  อินแทรค แอนด์ โค จำกัด ผู้ยื่นซองเสนอราคางานจัดซื้อ สนามฟุตซอล พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 59 สนาม ของกรมพลศึกษา  กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับผู้ชนะประมูล คือ บริษัท  ออคตากอน มาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส จำกัด  ในวงเงิน 117,249,000 บาท   เนื่องจากนายชาติชาย เป็นกรรมการบริษัท พี.ที. (พานทอง) อินเตอร์เทรด จำกัด ของคนตระกูล เบ็ญจศิริวรรณ  อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา      

     (อ่านรายละเอียดในเรื่อง  สาวลึก!สนามฟุตซอล 117 ล้าน“บ.ชนะประมูล-ผู้ร่วมซื้อซอง”ส่อเครือข่ายเดียวกัน? http://www.isranews.org/investigate/71-investigate/16952-สาวลึก-สนามฟุตซอล-117-ล้าน“บ-ชนะประมูล-ผู้ร่วมซื้อซอง”ส่อเครือข่ายเดียวกัน.html  และเรื่อง “ฟุตซอล 117 ล้าน”2 บริษัทถือหุ้นไขว้ -โยงธุรกิจครอบครัวอดีตที่ปรึกษารมต.? http://www.isranews.org/investigate/71-investigate/16982-“ฟุตซอล-117-ล้าน”2-บริษัทถือหุ้นไขว้-โยงธุรกิจครอบครัวอดีตที่ปรึกษารมต.html)           

      ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันนายชาติชาย จิตติยากูล ยังมีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัทร่วมกับคนในตระกูล เบ็ญจศิริวรรณ และแจ้งที่อยู่ เลขที่ 582 ซอยอ่อนนุช 17 ถนนสุขุมวิท 77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่ตั้งเดียวกับบริษัท ออคตากอนฯ ด้วย ไว้อย่างน้อย 2 แห่ง คือ

      1. บริษัท บี-สแปนด์ เรียลตี้ จำกัด

      จากการตรวจสอบพบว่า  ปัจจุบัน นายชาติชาย จิตติยากูล  ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัท ร่วมกับ นายสุรีพร เบ็ญจศิริวรรณ นายนรากร เบ็ญจศิริวรรณ นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ นอกจากนี้ ยังมีบุคคลที่นามสกุล เดียวกับ นายชาติชาย จิตติยากูล  คือ “นางรำพึง จิตติยากูล” รวมเป็นกรรมการด้วย           

      ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท บี-สแปนด์ เรียลตี้ จำกัด แจ้งจดทะเบียนวันที่ 24 กรกฎาคม 2497 ทุน 2,500,000 บาท แจ้งที่อยู่ที่ 582 ซอยอ่อนนุช 17 ถนนสุขุมวิท 77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250 (ที่อยู่เดียวกับ บริษัท ออคตากอนฯ ) แจ้งประกอบธุรกิจประเภทโรงเลื่อยจักร ผลิต ค้าส่ง ค้าปลีกแปรรูปไม้ นายนรากร เบ็ญจศิริวรรณ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ          

     จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัท บี-สแปนด์ เรียลตี้ จำกัด พบว่า ณ วันที่ 30 เมษายน 2553 พบว่า นายชาติชาย จิตติยากูล  ปรากฏรายชื่อเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัท จำนวน 488 หุ้นๆ ละ 1,000 บาท นางดาราวรรณ เบ็ญจศิริวรรณ ถืออยู่ 479 หุ้น นายนรากร เบ็ญจศิริวรรณ 467 หุ้น นางสุรีพร เบ็ญจศิริวรรณ 373 หุ้น นายสิรินทร์ เบ็ญจศิริวรรณ และ นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ถืออยู่คนละ 250 หุ้น และนายจรัญ หิรัญชวโรจน์ ถืออยู่ 233 หุ้น       

      ต่อมาบริษัท  บี-สแปนด์ เรียลตี้ จำกัด ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ ณ วันที่ 3 เมษายน 2555  มีผู้ถือหุ้น 3 ราย  นายนรากร เบ็ญจศิริวรรณ และนายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ถือหุ้นใหญ่ คนละ 838 หุ้น ส่วนนางสุรีพร เบ็ญจศิริวรรณ ถืออยู่ 824 หุ้น ไม่มีชื่อนายชาติชาย จิตติยากูล

      2.  บริษัท แอดวานซ์ไพร์ม เทค จำกัด        

      จากการตรวจสอบพบว่า นายชาติชาย จิตติยากูล  และ นายไพรัช พรหมอินทร์  หุ้นส่วนบริษัทอีกคนหนึ่งใน บริษัท  อินแทรค แอนด์ โค จำกัด ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัท บริษัทแอดวานซ์ไพร์ม เทค จำกัด  ร่วมกับ คนในตระกูล เบ็ญจศิริวรรณ          

      ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท แอดวานซ์ ไพร์ม เทค จำกัด แจ้งจดทะเบียน วันที่ 5 มกราคม 2531 ทุน1 ล้าน บาทที่ตั้งเลขที่ 582 ซอยอ่อนนุช 17 ถนนสุขุมวิท 77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250 (ที่อยู่เดียวกับ บริษัท ออคตากอนฯ ) แจ้งประกอบธุรกิจนำเข้า ค้าส่ง ค้าปลีก ให้บริการด้านคอมพิวเตอร์        

      จากการตรวจสอบพบว่า เดิมบริษัทแห่งนี้ มีชื่อว่า บริษัท ห้วยปลาดุกเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด เป็นธุรกิจคนในตระกูลเบ็ญจศิริวรรณ ตั้งอยู่ที่เลขที่ 254/ 4 ถนนเจริญรัฐ ตำบลกุดป่อง อ.เมืองเลย จังหวัดเลย     

       ต่อมาวันที่ 30 มีนาคม 2532 แจ้งเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทระยองไพร์ม จำกัด และย้ายที่ตั้งไปอยู่ที่เลขที่ 40หมู่ที่ 9 ตำบลนาป่า อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี        

       ต่อมาวันที่ 13 มิถุนายน 2537 แจ้งเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท พานทองอุตสาหกรรมไม้ จำกัด     

       จากนั้นวันที่ 11 กรกฎาคม 2544 บริษัทแจ้งเปลี่ยนตัวกรรมการ ปรากฏชื่อ นายชาติชาย จิตติยากูล เข้ามาเป็นกรรมการใหม่ ร่วมกับนายนรากร เบ็ญจศิริวรรณ และย้ายที่ตั้งใหม่ไปอยู่ที่เลขที่  245/1-4หมู่ที่ 9 ถนนสุขุมวิท ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี       

        ต่อมาวันที่ 27 พฤษภาคม 2546 บริษัทแจ้งเปลื่ยนชื่อใหม่ เป็น บริษัทแอดวานซ์ไพร์มเทคจำกัด และแจ้งเปลี่ยนที่ตั้งเป็นเลขที่ 582 ซอยอ่อนนุช17 ถนนสุขุมวิท 77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม.       

       จากนั้นวันที่ 11 สิงหาคม 2552 นายนรากร เบ็ญจศิริวรรณ ลาออกจากกรรมการ มีนายไพรัช  พรหมอินทร์ เข้ามาเป็นกรรมการใหม่ ทำให้กรรมการบริษัทมีสองคนคือ  นายชาติชาย จิตติยากูล และ นายไพรัช  พรหมอินทร์ มาจนถึงปัจจุบัน         

       สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท ในช่วงก่อตั้งบริษัท ปี 2531 นางสุรีพร เบ็ญจศิริวรรณ  นางดาราวรรณ เอี่ยมวสันต์ นายปัญญา เบ็ญจศิริวรรณ นายนรากร เบ็ญจศิริวรรณ  นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ และนายสิรินทร์ เบ็ญจศิริวรรณ ถือหุ้นไว้อยู่คนละ 140 หุ้น ส่วนนายชาญวิทย์ ภูผิวเดือน ถืออยู่ 10 หุ้น     

       ต่อมาบริษัทฯ ได้มีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายครั้ง ณ วันที่ 30 เมษายน 2555  นาย ชัยพร เอี่ยมวสันต์ ถืออยู่ 28.5% นาง สุรีพร เบ็ญจศิริวรรณ 14.5% นาง ดาราวรรณ เบ็ญจศิริวรรณ 14.3% นาย นรากร เบ็ญจศิริวรรณ 14.3% นาย สิรินทร์ เบ็ญจศิริวรรณ 14.2%  นาย อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ 14.2%    

       ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายชาติชาย จิตติยากูล และ นางรำพึง จิตติยากูล ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัท บี-สแปนด์ เรียลตี้ จำกัด  ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2555  ขณะที่ นายชาติชาย  จิตติยากูล  และ นายไพรัช พรหมอินทร์  เข้าเป็นกรรมการ บริษัทแอดวานซ์ไพร์มเทคจำกัด เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2552  

      เกิดขึ้นก่อนที่การประมูลงานจัดซื้อ สนามฟุตซอล พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 59 สนาม ของกรมพลศึกษา  กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเริ่มขึ้นในวันที่ 4 กรกฎาคม 2555 และปัจจุบันก็ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น    

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เงื่อนไขการประมูลงานครั้งนี้ กรมพลศึกษา กำหนดไว้ชัดเจนว่า “ผู้เสนอราคาจะต้องไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ประสงค์จะเสนอราคารายอื่นที่เข้าเสนอราคา”             

         ทั้งนี้ พระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542           

         มาตรา 4 ผู้ใดตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์ แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็น ธรรม หรือโดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการ เอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่หนึ่งปีถึงสามปี และปรับร้อยละห้าสิบของจำนวนเงินที่มีการเสนอราคาสูงสุดในระหว่าง ผู้ร่วมกระทำความผิดนั้น หรือของจำนวนเงินที่มีการทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐแล้วแต่ จำนวนใดจะสูงกว่า         

         มาตรา 7 ผู้ใดใช้อุบายหลอกลวงหรือกระทำการโดยวิธีอื่นใดเป็นเหตุให้ผู้อื่น ไม่มีโอกาสเข้าทำการเสนอราคาอย่างเป็นธรรมหรือให้มีการเสนอราคาโดยหลงผิด ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับร้อยละห้าสิบของจำนวนเงินที่มีการเสนอราคาสูงสุดระหว่าง ผู้ร่วมกระทำความผิดนั้นหรือของจำนวนเงินที่มีการทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐแล้วแต่จำนวนใด จะสูงกว่า