ศาลอนุมัติหมายจับ 14 ผู้ต้องหาโจมตีจุดตรวจและฐาน ชคต.ในปะกาฮะรัง ปัตตานี ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 4 ราย แฉคนร้ายส่วนใหญ่ระดมพลจากหนองจิก
ใครที่เฝ้าจอรอดูการแถลงของ ผบ.ตร.และทีมสืบสวนสอบสวนระดับพระกาฬที่ยกมานั่งกันเป็นแผง เพื่อชี้แจงความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในช่วงวันที่ 1 และ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา คงจะผิดหวัง...
คดีระเบิดป่วนกรุงกำลังเดินหน้ามาถึงจุดสำคัญ คือการเตรียมออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 7 คน หลังจากเจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องสงสัยมาได้แล้ว 4 คน เป็นคนจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ล้วนๆ
หลังผ่านสถานการณ์ลอบวางระเบิดป่วนเมืองมาได้ 1 วัน จนถึงขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงเริ่มได้ข้อมูลที่เกี่ยวกับมือระเบิด และแผนปฏิบัติการของกลุ่มคนร้ายแล้วในระดับหนึ่ง
ฝ่ายความมั่นคงสรุปข้อมูลการข่าว การสืบสวน หลักฐานจากการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ และการสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ สรุปเป็นแนวทางการคลี่คลายคดี และถอดบทเรียนเหตุการณ์คนร้ายบุกโจมตีฐานปฏิบัติการและจุดตรวจของชุดคุ้มครองตำบล หรือ ชคต. ในหมู่บ้านกอแลบิเละ ตำบลปะกาฮะรัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี
"มารา ปาตานี" เรียกร้องนานาชาติให้แทรกแซงไทยในการจัดการปัญหาความขัดแย้งและความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากกรณีผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงหมดสติและสมองบวมหลังถูกฝ่ายทหารควบคุมตัวเข้ากระบวนการซักถามที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยฝ่าย "มารา ปาตานี" เชื่อว่าน่าจะมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้น
มีความคืบหน้าโครงการที่ "ทีมข่าวอิศรา" เคยตรวจสอบ นั่นก็คือโครงการติดตั้งเสาไฟโซลาร์เซลล์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท และมีการติดตั้งถึงราวๆ 15,000 จุด หลังมีการร้องเรียนว่าเสาไฟเหล่านี้ชำรุด ใช้การไม่ได้ ติดๆ ดับๆ หรือไม่ก็ดับไปเลย
ปักษ์แรกของเดือน ก.ค.62 มีข่าวสารที่เรียกความสนใจจากประชาคมชายแดนใต้ผุดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกับการปรากฏโฉมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่อย่างเป็นทางการ
วันพุธที่ 10 ก.ค.62 เป็นวันที่ฝ่ายความมั่นคงเปิดปฏิบัติการหลากหลาย ทั้งสืบหาเบาะแสการเตรียมการก่อเหตุรุนแรง และการบุกทลายฐานพักของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง
ฝ่ายตำรวจยืนยันว่าได้ดำเนินคดีกับ "อดีต อส.ฮากิม" ฐานฆ่าผู้อื่น และเพิ่งขออำนาจศาลฝากขังเป็นครั้งที่ 2 โดยไม่ได้ปล่อยตัวเป็นอิสระหลังถูกฝ่ายทหารควบคุมตัวตามที่มีข่าวลือทางสื่อสังคมออนไลน์